สะเทือนใจ! เพื่อนทหารแนวหน้าร้อง "พวกผมไม่ไหวแล้ว" หลังเหตุเหยียบระเบิด
สะเทือนใจทั่วประเทศ! สิบเอกธีรพล เพียขันที ทหารพรานสังกัด ร้อย 2610 เหยียบกับระเบิดขาขาด – เสียงสะท้อนจากแนวหน้าเรียกร้องรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาด
เหตุการณ์สะเทือนใจที่สร้างความเจ็บปวดไปทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 ได้เกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้าขึ้นในแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ณ พื้นที่บริเวณ ปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่ทหารพรานไทยกำลังปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาอธิปไตย
สิบเอก ธีรพล เพียขันที หนึ่งในทหารพรานกลุ่มกองร้อยทหารพรานที่ 2610 ได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาข้างซ้ายขาด โดยเหตุการณ์นี้ได้สร้างความสะเทือนใจและความกังวลอย่างมากต่อเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยนี้
เสียงสะท้อนจากแนวหน้า – ความเจ็บปวดและความเข้มแข็งผสมปนเปกัน
หนึ่งในโพสต์ที่กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ คือข้อความจาก ว่าไอซ์ ทัพฟ้า ทหารและผู้บันทึกเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเล่าถึงบทสนทนาที่เขามีกับเพื่อนทหารที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งได้ถ่ายทอดเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแต่แฝงไว้ด้วยความเข้มแข็ง
ว่าไอซ์ได้ถ่ายทอดคำพูดของเพื่อนทหารพรานคนหนึ่งว่า
“พวกผมไม่ไหวแล้วนะเว้ยพี่”
เป็นคำพูดที่สะท้อนถึงความเหน็ดเหนื่อย ความหวาดกลัว และความกังวลใจของเหล่าทหารพรานที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงอันตรายนี้
เขายังกล่าวเสริมว่า
“วันนี้เป็นพี่เขา...วันพรุ่งนี้อาจเป็นผม... มะรินอาจเป็นน้องอีกคน”
ข้อความนี้สะท้อนถึงความไม่แน่นอนของชีวิตทหารในพื้นที่ชายแดนที่ทุกคนอาจกลายเป็นเหยื่อของอันตรายจากกับระเบิดและภัยคุกคามต่างๆ ได้ทุกเมื่อ
ภารกิจอันตรายในแนวชายแดน – กับระเบิดและภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
พื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ ปราสาทตาเมือนธม เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่มีประวัติความขัดแย้งและการปะทะกันระหว่างกองกำลังทั้งสองประเทศหลายครั้งในอดีต
นอกจากการปะทะที่อาจเกิดขึ้นโดยตรงแล้ว สิ่งที่ทหารต้องเผชิญคือกับระเบิดแฝง หรือ ทุ่นระเบิด ที่ยังคงตกค้างอยู่ในพื้นที่มากมาย ส่งผลให้การลาดตระเวนและการรักษาความปลอดภัยเป็นภารกิจที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง
สิบเอกธีรพล เป็นหนึ่งในทหารพรานที่ได้เหยียบกับระเบิดชนิด PMN-2 ซึ่งมีลักษณะเป็นกับระเบิดแผ่นแบน ขนาดเล็กแต่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ซึ่งเมื่อระเบิดทำงานสามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับที่สิบเอกธีรพลได้รับ
ความเจ็บปวดของทหารพราน – ภาระที่ไม่มีใครเข้าใจง่ายๆ
โพสต์ของว่าไอซ์ ทัพฟ้า ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เพราะนอกจากจะเป็นการรายงานข่าวสาร ยังเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกที่แท้จริงของทหารในพื้นที่เสี่ยง
เสียงจากทหารพรานที่ “ร้องไห้ แต่แฝงไปด้วยความเข้มแข็ง” นั้น แสดงถึงสภาพจิตใจของเหล่าทหารพรานที่ต้องทำงานในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายและความเสี่ยงต่อชีวิตอยู่ทุกวัน
แม้จะมีความเจ็บปวดและความกลัว แต่พวกเขาก็ยังยืนหยัดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ
ความหวาดกลัวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง – “เราไม่รู้เลยว่ามันวางไว้ตรงไหน”
หนึ่งในความยากลำบากของการลาดตระเวนคือการไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่ากับระเบิดหรือวัตถุระเบิดใดๆ จะถูกฝังหรือวางไว้ที่ใดในพื้นที่ ทำให้การลาดตระเวนเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง
คำพูดจากทหารพรานที่ว่า
“เราไม่รู้เลยว่ามันวางไว้ตรงไหน จะทำอะไร”
เป็นเสียงสะท้อนความหวาดกลัวและความไม่ปลอดภัยที่เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญ
การเรียกร้องจากแนวหน้า – ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา
ภายหลังเหตุการณ์นี้ ได้มีเสียงเรียกร้องจากเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้อง ให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมือแก้ไขปัญหา กับระเบิดตกค้าง ในพื้นที่ชายแดนอย่างเด็ดขาดและเร่งด่วน
การจัดการกับกับระเบิดที่ตกค้าง ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับผู้ที่ต้องอาศัยและทำงานในพื้นที่ชายแดนอย่างแท้จริง
มาตรการและแนวทางแก้ไขที่จำเป็น
ปัญหากับระเบิดตกค้างในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นปัญหาที่มีมานานหลายปี และแม้ว่าจะมีการดำเนินงานในการเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงมีจุดเสี่ยงที่ต้องได้รับการจัดการอย่างครบถ้วน
แนวทางที่รัฐบาลควรดำเนินการ ได้แก่
1. เพิ่มงบประมาณและกำลังพลสำหรับหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เพื่อให้สามารถขยายพื้นที่ทำงานและทำลายวัตถุระเบิดได้อย่างครอบคลุม
2. ใช้เทคโนโลยีทันสมัย เช่น โดรนตรวจสอบ หรือเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาและลดความเสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่
3. จัดอบรมและเพิ่มมาตรการป้องกันความปลอดภัยแก่ทหารพรานและเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เข้าใจวิธีปฏิบัติตัวและลดอุบัติเหตุจากกับระเบิด
4. ร่วมมือกับกัมพูชาในการตรวจสอบและกำจัดกับระเบิดตกค้าง เพราะบางจุดเป็นพื้นที่ชายแดนที่เกี่ยวข้องกับสองประเทศ
5. ประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ระมัดระวังและสามารถรายงานจุดที่สงสัยว่ามีวัตถุระเบิดได้อย่างทันท่วงที
ผลกระทบต่อจิตใจและสังคม
นอกจากความสูญเสียทางร่างกายที่เกิดขึ้นกับสิบเอกธีรพลและทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์นี้ ยังส่งผลต่อจิตใจของเจ้าหน้าที่ที่ต้องเผชิญความเสี่ยงและความกังวลในการปฏิบัติหน้าที่
เสียงสะท้อนของทหารพรานที่ไม่ไหวแล้ว แสดงให้เห็นถึงความเครียดสะสมและความเหนื่อยล้าที่อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต หากไม่ได้รับการดูแลและการสนับสนุนที่เหมาะสม
สังคมไทยร่วมส่งกำลังใจ – ไม่ทิ้งทหารพรานแนวหน้า
หลังเหตุการณ์นี้มีการแชร์โพสต์ของว่าไอซ์ ทัพฟ้าอย่างกว้างขวาง พร้อมด้วยคำอวยพรและกำลังใจจากประชาชนทั่วประเทศที่แสดงความห่วงใยต่อสิบเอกธีรพลและทหารพรานทุกคนที่ทำหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัย
หลายคนเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือทั้งทางร่างกายและจิตใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้บาดเจ็บและครอบครัว
สรุป
เหตุการณ์ทหารพรานเหยียบกับระเบิดและได้รับบาดเจ็บสาหัสในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเครื่องเตือนใจถึงความเสี่ยงที่เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเผชิญขณะปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องแผ่นดินไทย
เสียงสะท้อนจากแนวหน้าที่ผ่านคำพูดและโพสต์ของว่าไอซ์ ทัพฟ้า ช่วยให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่เหล่านี้
รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเร่งมือดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหากับระเบิดตกค้างในพื้นที่ชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียซ้ำซากอีกในอนาคต
ชีวิตและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่แนวหน้าคือสิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันดูแลอย่างจริงจัง เพื่อให้พวกเขาสามารถทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยชาติได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ






















