🍊💸 “น้ำส้มบราซิลซดภาษี! ทรัมป์งัดกำแพงภาษีใส่
ในสงครามการค้ากับกลุ่มประเทศ BRICS คราวนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ เล็งเป้าสินค้านำเข้าจาก บราซิล หนึ่งในนั้นคือ… “ผลพลอยได้จากน้ำส้ม” หรือพูดง่ายๆ คือเศษเหลือจากการทำน้ำส้มคั้น เช่น เนื้อส้มบด กากส้ม ที่มักถูกนำไปทำอาหารสัตว์หรือสารแต่งกลิ่นรส
ฟังดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่ไม่เล็กนะ
เพราะบราซิลคือผู้ส่งออกน้ำส้มรายใหญ่ของโลก ส่วนน้ำส้มคั้นไปอเมริกาแล้ว “กาก” ที่เหลือก็ขายต่อเป็นเงินอีกก้อน ซึ่งธุรกิจนี้มีมูลค่าสูงและเกี่ยวพันกับเกษตรกรจำนวนมาก
เมื่อโดนกำแพงภาษีของทรัมป์:
- ราคาขายของผลพลอยได้จากน้ำส้มจะสูงขึ้น
- ผู้ซื้อในสหรัฐอาจหันไปหาแหล่งอื่น (เช่น เม็กซิโก หรือแม้แต่ไทยถ้าผลิตได้)
- บราซิลอาจต้องหาตลาดใหม่ เช่น จีน หรือยุโรป
ภาพขำๆ ถ้าคิดในชีวิตจริง:
- เหมือนเราทำน้ำส้มขายแล้วเอากากไปให้ร้านทำสบู่ แต่วันดีคืนดีร้านสบู่บอก “ขอเก็บภาษีเพิ่มนะ”
- หรือชาวสวนส้มบราซิลยืนงงๆ บอกว่า “เฮ้ย นี่ภาษีไปโดนแม้แต่กากส้มเลยเหรอ?”
โอกาสของประเทศอื่น:
ถ้าบราซิลส่งของเข้ายาก ประเทศอื่นที่มีผลผลิตส้มและเทคโนโลยีแปรรูปอาจแทรกตลาดได้ เช่น ไทยอาจส่ง “เปลือกส้มแปรรูป” หรือสารสกัดจากส้มไปแทน
แต่ก็มีข้อควรระวัง:
- ตลาดสหรัฐมีมาตรฐานเข้ม ต้องแข่งขันคุณภาพและราคา
- ถ้าการเมืองเปลี่ยน กำแพงภาษีอาจถูกยกเลิก แล้วบราซิลจะกลับมาตีตลาดเหมือนเดิม
สรุปแบบสั้นแต่จุก:
ทรัมป์ไม่ได้เก็บภาษีแค่น้ำส้มคั้น แต่ลามไปถึง “ของเหลือ” จากน้ำส้ม ทำให้บราซิลต้องปวดหัวหาตลาดใหม่ ขณะที่ประเทศอื่นอาจได้โอกาสเสียบแทน
อ้างอิงจาก: bbc cnn



















