เดือด! ตำรวจ ตชด. โพสต์ถึงกัน จอมพลังแบบไม่อ้อมค้อม คนแห่แชร์

“กัน จอมพลัง” ซาบซึ้งความในใจจากตำรวจ ตชด. ชั้นผู้น้อย – เบื้องหลังการส่งมอบเกราะกันกระสุน LV4 ช่วยชีวิตในสมรภูมิชายแดน

ในสถานการณ์ชายแดนที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความเสี่ยงต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ ตชด. (ตำรวจตระเวนชายแดน) “กัน จอมพลัง” หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในฐานะนักเคลื่อนไหวและผู้ช่วยเหลือสังคม ได้ออกมาเผยเรื่องราวประทับใจจากเจ้าหน้าที่ ตชด. ชั้นผู้น้อย ที่ส่งข้อความถึงตนพร้อมภาพถ่าย ซึ่งข้อความนั้นเต็มไปด้วยความจริงใจ ความเสียสละ และความรักในหน้าที่ของผู้พิทักษ์ชายแดน

กัน จอมพลัง ได้โพสต์เรื่องราวนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “กัน จอมพลัง” พร้อมเล่าลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ได้รับข้อความจาก “จ่าเอ็ม” ตำรวจ ตชด. ชั้นผู้น้อยที่กล้าออกมาเป็นตัวแทนเรียกร้องอุปกรณ์ป้องกันให้เพื่อนร่วมทีม ไปจนถึงการติดต่อผู้บังคับบัญชา และการส่งมอบเกราะกันกระสุนระดับ LV4 ให้ทันใช้ก่อนเหตุปะทะเพียงไม่นาน

จุดเริ่มต้น: ข้อความจากหัวใจของตำรวจ ตชด.

กัน จอมพลัง เล่าว่า ได้รับข้อความจากตำรวจ ตชด. ชั้นผู้น้อยที่เขาเรียกว่า “จ่าเอ็ม” ซึ่งบอกเล่าความในใจเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพื่อนร่วมงานและตัวเขาเองต้องเผชิญทุกวันในพื้นที่ปฏิบัติการชายแดน ข้อความนี้ไม่ได้เป็นเพียงการขอความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความกล้าหาญและความรักเพื่อนร่วมทีมของจ่าเอ็ม ที่พร้อมจะเป็น “ตัวแทน” ในการพูดแทนทุกคน แม้จะรู้ว่าการแสดงออกเช่นนี้อาจทำให้ผู้ใหญ่บางส่วนไม่พอใจ

จ่าเอ็มได้บอกกับกัน จอมพลังว่า สิ่งที่เขาต้องการคือ “เกราะกันกระสุนที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ” เพื่อให้เพื่อน ๆ ในทีมปลอดภัยที่สุดในภารกิจเสี่ยงชีวิต โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อาจเกิดการปะทะได้ทุกเมื่อ

การประสานงานกับผู้บัญชาการ ตชด.

หลังจากอ่านข้อความนั้น กัน จอมพลัง ตัดสินใจต่อสายตรงถึง ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อขออนุญาตแทนจ่าเอ็ม และให้เจ้าตัวได้พูดคุยโดยตรงกับผู้บัญชาการ

ผลลัพธ์คือ ผู้บัญชาการ ตชด. เข้าใจสถานการณ์และมองเห็นถึงความเร่งด่วน พร้อมให้กำลังใจจ่าเอ็มโดยตรง พร้อมยืนยันว่า “ไม่มีผู้บังคับบัญชาคนไหนไม่รักลูกน้อง” และถ้าสิ่งไหนสามารถช่วยปกป้องชีวิตกำลังพลได้ ก็ต้องดำเนินการอย่างเต็มที่

เดินเรื่องจัดหาเกราะกันกระสุน LV4

หลังจากได้รับไฟเขียวจากผู้บัญชาการ ตชด. กัน จอมพลัง และผู้กำกับการ (ผกก.) ในพื้นที่ ได้ร่วมมือกันเร่งจัดหาเกราะกันกระสุนระดับ LV4 ซึ่งเป็นเกราะมาตรฐานสูง สามารถป้องกันกระสุนปืนไรเฟิลและกระสุนแรงสูงได้

การดำเนินการเป็นไปอย่างเร่งด่วน เพราะทุกนาทีคือความเป็นความตายของเจ้าหน้าที่แนวหน้า โชคดีที่กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นก่อนที่จะเกิดเหตุปะทะเพียงไม่นาน และเมื่อเหตุปะทะเกิดขึ้นจริง จ่าเอ็มก็ได้ใช้เกราะนั้นลงพื้นที่พร้อมเพื่อน ๆ ในทีม

ความสัมพันธ์ระหว่างกัน จอมพลัง และตำรวจชั้นผู้น้อย

กัน จอมพลัง เล่าว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำงานเกี่ยวข้องกับชายแดน เขามีโอกาสคลุกคลีกับตำรวจชั้นผู้น้อยบ่อยครั้ง ทำให้เข้าใจปัญหาที่พวกเขาเผชิญอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นความขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกัน ความเสี่ยงจากภารกิจ และภาระทางครอบครัว

เขายืนยันว่าผู้ใหญ่หลายคนในระบบราชการ โดยเฉพาะในสาย ตชด. พร้อมให้ความช่วยเหลือเต็มที่ เมื่อเข้าใจถึงปัญหาและความเร่งด่วน เพียงแต่อาจต้องอาศัย “สะพาน” ที่ช่วยเชื่อมระหว่างเสียงของชั้นผู้น้อยกับผู้บังคับบัญชา ซึ่งบางครั้งคือบทบาทที่เขาเต็มใจทำ

คำขอบคุณถึง “จ่าเอ็ม” ฮีโร่ของเพื่อนร่วมทีม

ในโพสต์ดังกล่าว กัน จอมพลัง กล่าวขอบคุณ “จ่าเอ็ม” ที่กล้าลุกขึ้นมาพูดแทนเพื่อนร่วมทีม พร้อมยกย่องว่าเป็นตำรวจที่มีความกล้าหาญ เสียสละ และรักเพื่อนร่วมงานอย่างแท้จริง

 “พี่ขอบคุณจ่าเอ็มที่นึกถึงและคิดถึงกัน ชื่นชมในความกล้าหารเสียสละ จ่าคือตำรวจที่ผมและทีมชอบมาก”

— กัน จอมพลัง

คำพูดนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความประทับใจส่วนตัว แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความสำคัญของการยืนหยัดเพื่อเพื่อนร่วมงาน แม้จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อหน้าที่การงานก็ตาม

ความสำคัญของอุปกรณ์ป้องกันในสมรภูมิ

กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความสำคัญของ อุปกรณ์ป้องกันคุณภาพสูง ในการปฏิบัติภารกิจเสี่ยงชีวิต โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่มีโอกาสเกิดการปะทะได้ตลอดเวลา

เกราะกันกระสุน LV4 มีคุณสมบัติเด่น เช่น

ป้องกันกระสุนปืนไรเฟิลความเร็วสูง

ทนทานต่อแรงกระแทกและการเจาะทะลุ

ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตในสถานการณ์คับขัน

สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมเสี่ยงสูง อุปกรณ์เช่นนี้ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย แต่เป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานที่ควรได้รับอย่างทั่วถึง

บทเรียนและแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์นี้

1. การสื่อสารระหว่างชั้นผู้น้อยกับผู้บังคับบัญชา

เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า เมื่อเสียงของผู้ปฏิบัติงานถึงหูผู้บังคับบัญชาโดยตรง ความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

2. บทบาทของบุคคลกลาง

กัน จอมพลัง ทำหน้าที่เป็น “ตัวกลาง” ที่ช่วยสื่อสารปัญหาให้ถูกที่ถูกเวลา ทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้ทันการณ์

3. ความกล้าหาญของผู้ปฏิบัติหน้าที่

การที่จ่าเอ็มกล้าพูดแทนเพื่อนร่วมทีม สะท้อนถึงความรักและความเสียสละที่ควรได้รับการยกย่อง

สรุป

เรื่องราวของ “กัน จอมพลัง” และ “จ่าเอ็ม” ตำรวจ ตชด. ชั้นผู้น้อยครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เหตุการณ์การส่งมอบเกราะกันกระสุนเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพสะท้อนของความร่วมมือ ความห่วงใย และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของกำลังพลชายแดน

มันคือบทเรียนว่าการแก้ไขปัญหาที่แท้จริงต้องเริ่มจากการรับฟังเสียงของผู้ปฏิบัติ และการที่ผู้บังคับบัญชาเปิดใจรับฟังและลงมือทำอย่างรวดเร็ว อาจหมายถึงความแตกต่างระหว่าง “การกลับบ้านอย่างปลอดภัย” กับ “การสูญเสีย”

สุดท้าย เรื่องนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้สังคมตระหนักว่า ฮีโร่ตัวจริงไม่ได้มีเพียงในตำนาน แต่มีอยู่จริงในทุกสมรภูมิ โดยเฉพาะชายแดนที่เราอาจไม่เคยเห็นด้วยตา แต่พวกเขากำลังยืนหยัดปกป้องเราอยู่ทุกวัน