"หุ่นยนต์อุ้มบุญ" จะพร้อมจำหน่ายภายใน 1 ปี

     การประชุมหุ่นยนต์โลกปี 2025 กำลังจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง แต่ก็มีข่าวในวงการเทคโนโลยี AI ว่าทีมวิจัยนำโดย ดร. "จาง ฉี เฟิง" จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง ประเทศสิงคโปร์ กำลังพัฒนา "หุ่นยนต์อุ้มบุญ" ตัวแรกของโลก โดยหุ่นยนต์ดังกล่าวจะมี "มดลูกเทียมในตัว" ซึ่งสามารถจำลองการตั้งครรภ์และการคลอดบุตรได้จริง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาตั้งครรภ์ถึง 10 เดือน โดยราคาสนตัวละจะไม่เกิน 100,000 หยวน และ คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายใน 1 ปี

     หุ่นยนต์ช่วยเจริญพันธุ์ แตกต่างจากหลอดทดลองและการอุ้มบุญแบบดั้งเดิม ระบบนี้ไม่เพียงแต่จำลองสภาพแวดล้อมภายในมดลูกเท่านั้น แต่ยังติดตั้งอยู่ในร่างกายหุ่นยนต์ ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ ช่วยให้ "แม่หุ่นยนต์" สามารถจำลองประสบการณ์ของมนุษย์ ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงคลอดได้

     "จาง ฉี เฟิง" กล่าวอธิบายว่า "มดลูกเทียมนี้เลียนแบบมดลูกของมนุษย์ และ ถูกผสานเข้ากับตู้ฟักไข่หุ่นยนต์ จากนั้นจึงนำไปวางไว้ภายในท้องของหุ่นยนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการมีลูกโดยไม่ต้องการตั้งครรภ์ และ ผู้ที่ต้องการมีภรรยาโดยไม่ต้องการแต่งงาน ฟังก์ชันภรรยาหุ่นยนต์ของเรา ช่วยให้พวกเขาสร้างทารกได้"

     หลักการทางเทคนิคของ "หุ่นยนต์อุ้มบุญ" คือ ความสามารถในการจำลองกระบวนการพัฒนาตัวอ่อนทั้งหมด  ตั้งแต่การฝังตัวและการพัฒนาไปจนถึงการคลอดตามธรรมชาติ เปลือกนอกของหุ่นยนต์จำลองการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของช่องท้องของหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงการโป่งพองและการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ ภายในตัวเครื่องซึ่งผ่านการควบคุมอุณหภูมิ ระบบส่งสารอาหาร และ ระบบกำจัดของเสีย ได้เข้ามาแทนที่การทำงานของมดลูกมนุษย์

     อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนนี้ "หุ่นยนต์อุ้มบุญ" ยังคงมีข้อถกเถียงและข้อจำกัดทางเทคนิคมากมาย ซึ่งรวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่ามดลูกเทียม รองรับการทดลองกับสัตว์เท่านั้น [ตัวอ่อนแกะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน 4 สัปดาห์ และ ตัวอ่อนหนูสามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน 6 วัน] แต่ยังไม่มีกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ ในการเลี้ยงตัวอ่อนมนุษย์ ในเครื่องจักรตลอดกระบวนการทั้งหมด และ ยังคงต้องอาศัยความก้าวหน้าในกลไกทางสรีรวิทยาที่ซับซ้อน เช่น การเผาผลาญของรก การจำลองภูมิคุ้มกัน และการพัฒนาระบบประสาท

     ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังวิพากษ์วิจารณ์ว่า รูปแบบหุ่นยนต์ไม่ได้เพิ่มมูลค่าอย่างมีนัยสำคัญ ต่อการตั้งครรภ์ อุปสรรคสำคัญอยู่ที่เทคโนโลยีความเข้ากันได้ทางชีวภาพ และ โครงสร้างหุ่นยนต์เป็นเพียง "กลเม็ดทางการตลาด" เท่านั้น

     นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาถึงความขัดแย้ง และ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ แบบพ่อแม่-ลูก ที่มีต่อจริยธรรมและสังคมแบบดั้งเดิมด้วย...