“โจรสลัดบุกทำเนียบ? ศิลปินอินโดฯ ชูธงวันพีซกลางม็อบ เรียกฮา-เรียกฮือ”
ช่วงนี้ข่าวม็อบบ้านเราก็ดุเดือดพอตัว แต่ถ้าข้ามไปที่อินโดนีเซีย บอกเลยว่ามีสีสันกว่าที่คิด เพราะไม่ใช่แค่การชูป้ายหรือร้องเพลงประท้วงตามปกติ แต่ศิลปินกับนักศึกษากลุ่มหนึ่งดันหยิบ “ธงโจรสลัด” จากมังงะดังอย่าง One Piece มากางกลางงานประท้วงซะงั้น!
ภาพที่เห็นคือผืนธงสีดำลายหัวกะโหลกกับกระดูกไขว้ แต่ที่ไม่ธรรมดาคือหัวกะโหลกนั้นสวมหมวกฟางสไตล์ ลูฟี่ ตัวเอกของเรื่อง วันพีซ พอธงนี้โบกสะบัดกลางลม คนม็อบก็หัวเราะกันทั้งงาน บางคนถึงกับหยิบมือถือมาถ่ายลงโซเชียล พร้อมแคปชันว่า “ลูฟี่มาร่วมด้วยช่วยต้านแล้ว”
แต่เบื้องหลังความฮา มันจริงจังพอสมควรนะครับ เพราะศิลปินและนักศึกษากลุ่มนี้ ต้องการสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ว่าพวกเขา “ไม่ยอมจำนนต่ออำนาจเผด็จการ” เหมือนโจรสลัดที่ออกผจญภัยเพื่ออิสรภาพ แม้จะต้องต่อสู้กับกองทัพเรือหรือรัฐบาลโลกก็ตาม
และถ้าคุณคิดว่ามันเป็นการเล่น ๆ ขำ ๆ ก็ไม่เชิง เพราะการเลือกใช้สัญลักษณ์จากการ์ตูนที่มีแฟนทั่วโลก ทำให้ภาพการประท้วงนี้ถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว บนแพลตฟอร์ม X (อดีต Twitter) และ Instagram มีคนจากประเทศอื่น ๆ คอมเมนต์เพียบ บ้างก็บอก “อินโดฯ เท่มาก เอาวัฒนธรรมป๊อปมาเป็นพลังม็อบได้ลงตัว” บ้างก็แซวว่า “ระวังเดี๋ยวรัฐบาลจะส่ง CP9 มาสลายม็อบ”
จริง ๆ แล้วการนำวัฒนธรรมการ์ตูนมาใช้เป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองไม่ใช่เรื่องใหม่ ญี่ปุ่นเองก็เคยมีแฟนคลับใช้ตัวละครอนิเมะถือป้ายประท้วงในประเด็นสิ่งแวดล้อม ส่วนฮ่องกงก็เคยมีผู้ชุมนุมใส่หน้ากากกายเวอร์ (Guyver) หรือหน้ากากกันดั้ม เพื่อสื่อถึงการต่อสู้กับอำนาจที่ใหญ่กว่า
แต่รอบนี้ อินโดนีเซียเลือก “วันพีซ” เพราะมันเข้าถึงง่าย แถมแฝงความหมายเรื่องการรวมพลังของเพื่อนฝูงเพื่อเป้าหมายเดียวกัน เหมือนแก๊งหมวกฟางที่ออกเรือไปด้วยกัน ไม่ทิ้งกัน แม้จะต่างนิสัย ต่างความฝัน
พอคิดภาพรวม ๆ แล้ว มันก็เหมือนการบอกว่า “เรือพวกเราออกเดินทางแล้ว และไม่มีใครหยุดเราได้”
ใครที่เป็นแฟนวันพีซคงแอบยิ้ม เพราะนี่อาจเป็นครั้งแรกที่ลูฟี่ “ถูกดึงลงเรือม็อบ” ในชีวิตจริง และบอกเลยว่ามันทำให้การประท้วงครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ความตึงเครียด แต่ยังมีรสชาติของความสร้างสรรค์ที่ทำให้ทั้งโลกต้องหันมามอง
สุดท้ายก็ไม่รู้ว่ามันจะทำให้ข้อเรียกร้องของพวกเขาสำเร็จไหม แต่ที่แน่ ๆ คือ… อินโดนีเซียได้สร้างตำนานใหม่ของการใช้ แฟนด้อมการ์ตูนเป็นเครื่องมือทางการเมือง แล้วล่ะครับ
อ้างอิงจาก: bbc cnn



















