นักโบราณคดีค้นพบหลักฐานของสิ่งมีชีวิตในเมืองปอมเปอีหลังการระเบิดครั้งใหญ่
ปอมเปอี (Pompeii) เคยเป็นมหานครที่มีความมั่งคั่งในเขตเทศบาลปอมเปย์ใกล้กับนครนาโปลี ในแคว้นคัมปาเนีย ประเทศอิตาลี สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยบ้านเรือนหรูหราที่ประดับอย่างวิจิตรตระการตา เคยมีประชากรอาศัยอยู่ที่นี่จำนวน 10,000 ถึง 20,000 ก่อนที่จะถูกทำลายจากการปะทุของเขาวิซูเวียสในปี 79 ทำให้เมืองทั้งเมือง รวมถึงประชากรในปอมเปอีถูกฝังอยู่ภายใต้เถ้าถ่านภูเขาไฟและหินพัมมิซลึกระหว่าง 4 ถึง 6 m
ล่าสุดนักโบราณคดีค้นพบหลักฐานชิ้นใหม่ที่ชี้ให้เห็นถึงการกลับเข้ามาอยู่ในเมืองปอมเปอีอีกครั้งหลังจากภูเขาไฟวิสุเวียสปะทุในปี 79 ซึ่งนักโบราณคดีได้ให้ความเห็นว่า “เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทางโบราณคดีแล้ว เมืองปอมเปอีหลังจากเหตุการณ์เมื่อปี 79 จะต้องเป็นชุมชนแออัดที่ผู้คนอาศัยอยู่ภายใต้สภาพที่ไม่มั่นคง ขาดโครงสร้างพื้นฐานและบริการตามแบบฉบับเมืองโรมัน ก่อนที่พื้นที่ดังกล่าวจะถูกทิ้งร้างในศตวรรษที่ 5”
การค้นพบใหม่ที่ปอมเปอี ซึ่งนักโบราณคดีได้ค้นพบหลักฐานใหม่ที่บ่งชี้ถึงการกลับมายึดครองเมืองปอมเปอีอีกครั้งหลังจากภูเขาไฟวิสุเวียสปะทุขึ้นในปี ค.ศ. 79 ซึ่งทำให้เมืองกลายเป็นซากปรักหักพัง (อุทยานโบราณคดีปอมเปอี/เอเอฟพี)
“ด้วยการขุดโบราณสถานดังกล่าวครั้งใหม่ ทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าเมืองปอมเปอีหลังปี 79 กลับมาปรากฏอีกครั้ง แต่ไม่ใช่เมืองที่สวยงามเหมือนเมื่อก่อน เป็นเพียงค่ายพักแรมและชุมชนแออัดท่ามกลางซากปรักหักพังของเมืองปอมเปอีที่ยังคงหลงเหลืออยู่” Gabriel Zuchtriegel ผู้อำนวยการสถานที่อุทยานโบราณคดีปอมเปอีกล่าว
หลักฐานที่บ่งชี้ว่าสถานที่แห่งนี้ถูกยึดครองอีกครั้งนั้นเคยถูกตรวจพบในอดีต แต่ด้วยความที่นักโบราณคดีให้ความสนใจแต่จิตรกรรม ผลงานศิลปะ และบ้านเรือนที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ ทำให้ร่องรอยอันเลือนลางของการยึดครองสถานที่แห่งนี้กลับถูกลบออกไปโดยไม่มีเอกสารใดๆ ยืนยัน
นักโบราณคดีประมาณการว่าประชากรเมืองปอมเปอี 15 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์เสียชีวิตจากการปะทุครั้งนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะช็อกจากความร้อน เนื่องจากกลุ่มก๊าซและเถ้าถ่านขนาดยักษ์ปกคลุมเมือง เถ้าภูเขาไฟได้ฝังเมืองโรมันเอาไว้ ทำให้บ้านเรือน อาคารสาธารณะ วัตถุต่างๆ และแม้กระทั่งผู้คนยังคงสภาพสมบูรณ์ จนกระทั่งมีการค้นพบเมืองนี้ในช่วงปลายศตวรรษที่ 16
ทั้งนี้ปอมเปอีได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดเป็นอันดับสองของอิตาลี รองจากโคลอสเซียมในกรุงโรม โดยมีผู้เยี่ยมชมราว 4.17 ล้านคนในปีที่แล้ว
ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อย
พบกลิ่นแปลกจากนมกล่องที่สั่งซื้อออนไลน์ ก่อนตรวจสอบโกดังพบว่านมหมดอายุถูกนำมาขายใหม่ ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อสุขภาพ
ความเชื่อที่ไม่ควรทำในวันปีใหม่ เพื่อการเริ่มต้นที่ราบรื่นและมีชัยไปกว่าครึ่ง...สายมูต้องห้ามพลาด
นักเรียนดีเด่นวัย 12 เสียชีวิตหลังจากเลียนแบบฉากจากซีรี่ส์เรื่อง Squid Game
"พงศาวดารโกโก้: จากโอสถศักดิ์สิทธิ์สู่ปีศาจผู้เย้ายวน"
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
ไทยปล่อยตัวทหารเขมร 18 นาย กลับเขมร ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่
มะเขือตอแหล : ชื่อเจ็บจี้ด แต่คุณค่าประโยชน์ล้ำเลิศ
อดีตนายกหญิงคนแรกของบังกลาเทศ "คาเลดา เซีย" เสียชีวิตแล้ว
100 อันดับของหวานยอดเยี่ยมปี 2025
หยุดยาวปีใหม่ 69 นักท่องเที่ยวทะลัก “สะพานมอญ” สังขละบุรี แน่นขนัด ยอดเข้าพื้นที่ทะลุวันละหมื่น
"มารินะ ยามาดะ" วง HKT48 เผย "ฉันแต่งงานและมีลูกคนแรกแล้ว"
มะเขือตอแหล : ชื่อเจ็บจี้ด แต่คุณค่าประโยชน์ล้ำเลิศ
พบกลิ่นแปลกจากนมกล่องที่สั่งซื้อออนไลน์ ก่อนตรวจสอบโกดังพบว่านมหมดอายุถูกนำมาขายใหม่ ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อสุขภาพ
นักเรียนดีเด่นวัย 12 เสียชีวิตหลังจากเลียนแบบฉากจากซีรี่ส์เรื่อง Squid Game
100 อันดับของหวานยอดเยี่ยมปี 2025
หยุดยาวปีใหม่ 69 นักท่องเที่ยวทะลัก “สะพานมอญ” สังขละบุรี แน่นขนัด ยอดเข้าพื้นที่ทะลุวันละหมื่น
พบกลิ่นแปลกจากนมกล่องที่สั่งซื้อออนไลน์ ก่อนตรวจสอบโกดังพบว่านมหมดอายุถูกนำมาขายใหม่ ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อสุขภาพ
นักเรียนดีเด่นวัย 12 เสียชีวิตหลังจากเลียนแบบฉากจากซีรี่ส์เรื่อง Squid Game
ชายที่อ้วนที่สุดในโลกเสียชีวิตแล้ว
"มารินะ ยามาดะ" วง HKT48 เผย "ฉันแต่งงานและมีลูกคนแรกแล้ว"

