อ.ปวิน จวกแรง! ตั้งบุ๋ม ปนัดดา เป็นโฆษกกลาโหม เสี่ยงเสียมากกว่าได้
อ.ปวิน วิจารณ์แรง! หลัง รมช.กลาโหม เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสา หวังสู้ฝีปาก “มาลี” โฆษกกัมพูชา
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในสังคมไทย เมื่อ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศแต่งตั้ง “ปุ่ม” ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นโฆษกจิตอาสาคนใหม่ของ ศูนย์บริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยในการตอบโต้และปะทะฝีปากกับ พลโทหญิงมาลี โฆษกฝั่งกัมพูชา
แม้จะเป็นการเปิดตัวที่สร้างความฮือฮา แต่ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยหนึ่งในเสียงวิจารณ์ที่ชัดเจนและร้อนแรงมาจาก อาจารย์ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์และผู้ติดตามสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความกังวลต่อการแต่งตั้งครั้งนี้ โดยชี้ว่าอาจสร้าง “ผลเสียมากกว่าผลดี” ต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย
🔍 สาเหตุที่ อ.ปวิน เห็นว่าอาจเป็น “ผลเสียมากกว่าผลดี”
อ.ปวิน ได้อธิบายเหตุผลไว้เป็นลำดับชัดเจน โดยแบ่งเป็นประเด็นหลัก ๆ ดังนี้
1. ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบทบาท “โฆษก”
ในมุมมองของ อ.ปวิน การที่พลเอกณัฐพลให้เหตุผลว่าปนัดดาจะมาทำหน้าที่ “ปะทะ” กับโฆษกของกัมพูชา และยังพูดถึงเรื่อง “ความสวย” ที่เหนือกว่าอย่างมั่นใจ เป็นสัญญาณของ ความเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิงต่อบทบาทของโฆษก
โฆษกของหน่วยงาน โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ควรมีหน้าที่หลักในการ
สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ
สื่อสารข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการ
ควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย
การใช้ถ้อยคำที่เน้นการเอาชนะหรือเปรียบเทียบในเชิงส่วนตัว ไม่เพียงไม่ช่วยแก้ปัญหา แต่ยังเสี่ยงเพิ่มความขุ่นเคือง และทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น
2. การใช้กลยุทธ์ “ปลุกชาตินิยม” ที่ขาดความสร้างสรรค์
คำกล่าวที่ว่าปนัดดาจะมา “ชน” กับโฆษกกัมพูชา อาจถูกตีความว่าเป็นการใช้กลยุทธ์ ตอบโต้ด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล ซึ่งแม้อาจถูกใจกลุ่มคนที่ต้องการความสะใจ แต่ไม่ใช่แนวทางที่นำไปสู่สันติภาพหรือการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
อ.ปวินชี้ว่า การรักชาติเป็นสิ่งดี แต่ต้องแสดงออกอย่างมีสติและถูกที่ถูกทาง การนำโฆษกมาปะทะคารมผ่านสื่อเหมือนเวทีละคร อาจสร้างภาพลักษณ์ว่าประเทศไทย “ไม่เป็นมืออาชีพ” และ “ขาดความโตทางการเมือง” ในสายตานานาชาติ
3. ขาดทักษะเฉพาะด้านการทูตและการสื่อสารวิกฤต
ตำแหน่งโฆษกในสถานการณ์ละเอียดอ่อนอย่างนี้ ต้องอาศัยความรู้และทักษะเฉพาะทางสูง ไม่ว่าจะเป็น
ทักษะการทูต
การสื่อสารในภาวะวิกฤต
ความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศ
แม้ปนัดดาจะมีชื่อเสียงจากงานด้านจิตอาสาและวงการบันเทิง แต่ก็ไม่ใช่หลักประกันว่าจะสามารถรับมือกับความซับซ้อนของงานด้านการทูตได้ การพูดเพียงประโยคเดียวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้อย่างรุนแรง
4. ขัดกับแนวทางการทูตเชิงสันติ
ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยมักยึดแนวทางการแก้ปัญหาความขัดแย้งกับต่างประเทศผ่าน การเจรจา การทูต และกลไกระหว่างประเทศ แต่การสร้างโฆษกให้มีบทบาท “ชน” กับโฆษกประเทศเพื่อนบ้านผ่านสื่อออนไลน์ กลับเป็นแนวคิดที่สวนทางกับหลักการนี้ และอาจเท่ากับเป็นการ กระพือความขัดแย้ง แทนที่จะลดความตึงเครียด
📰 ภาพรวมของกระแสสังคม
การแต่งตั้งครั้งนี้แบ่งสังคมออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน
ฝั่งสนับสนุน เห็นว่าเป็นการนำคนรุ่นใหม่และบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้ามามีบทบาท เพื่อสร้างสีสันและทำให้สื่อสารกับประชาชนได้เข้าถึงง่าย
ฝั่งคัดค้าน เห็นว่าบทบาทโฆษกในระดับความมั่นคงไม่ควรใช้บุคคลที่ขาดประสบการณ์ด้านการทูต เพราะเสี่ยงต่อการพูดผิดพลาดและกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ X (Twitter เดิม) มีการแชร์โพสต์ของ อ.ปวิน อย่างกว้างขวาง พร้อมเสียงวิจารณ์ที่สะท้อนความกังวลว่า “นี่อาจเป็นการเล่นกับไฟ” ในสถานการณ์ที่ไม่ควรมองข้ามความละเอียดอ่อน
📌 บทวิเคราะห์: ทำไมตำแหน่งโฆษกถึงสำคัญ?
ตำแหน่งโฆษก โดยเฉพาะในหน่วยงานด้านความมั่นคง มีความสำคัญมากกว่าการ “ตอบโต้” หรือ “โต้เถียง” กับอีกฝ่าย เพราะทุกคำพูดที่ออกสู่สาธารณะคือ จุดยืนของประเทศ การสื่อสารที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจนำไปสู่
ความเข้าใจผิดระหว่างประเทศ
ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น
การบั่นทอนภาพลักษณ์ของประเทศในสายตานานาชาติ
นักวิเคราะห์หลายคนจึงมองว่า ผู้ดำรงตำแหน่งนี้ควรมีประสบการณ์ตรงในเวทีการทูต และมีความสามารถในการควบคุมสถานการณ์อย่างรอบคอบ
🔎 สิ่งที่ควรคำนึงในอนาคต
หากรัฐบาลต้องการใช้โฆษกเพื่อการสื่อสารกับต่างประเทศ ควรพิจารณา 3 ปัจจัยหลัก
1. ความเชี่ยวชาญทางการทูต – เข้าใจโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและผลกระทบจากการสื่อสาร
2. ทักษะการจัดการวิกฤต – สามารถพูดอย่างรอบคอบแม้ในสถานการณ์กดดัน
3. ความเป็นกลางและความน่าเชื่อถือ – สื่อสารโดยอ้างอิงข้อเท็จจริง ไม่เน้นการโจมตีหรือสร้างความสะใจ
🗨️ สรุป
กรณีแต่งตั้ง “ปุ่ม ปนัดดา” เป็นโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. เป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงความท้าทายในการคัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองและการทูต แม้การดึงบุคคลมีชื่อเสียงอาจช่วยสร้างความสนใจจากสังคม แต่ก็ต้องชั่งน้ำหนักกับความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เสียงวิจารณ์จาก อ.ปวิน จึงเป็นการเตือนให้สังคมตั้งคำถามว่า “เรากำลังใช้กลยุทธ์ที่ถูกต้องหรือไม่?” และ “ความสะใจระยะสั้น คุ้มกับผลกระทบระยะยาวหรือเปล่า?”
ในโลกของการเมืองระหว่างประเทศ คำพูดเพียงคำเดียวอาจสร้างสะพาน หรือทำลายสะพานเชื่อมสัมพันธ์ได้ การเลือกโฆษกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก และควรเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด
#ทายนิสัยจากกาแฟ: เดือนเกิดคุณเปรียบเหมือนกาแฟแก้วไหน? ทายบุคลิก ความรัก และการเงินจากเครื่องดื่มแก้วโปรด
นิสัย "ดาร์กๆ" ตามวันเกิด: สำรวจด้านมืดที่ซ่อนอยู่
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 68 มาแล้ว!..รีบส่องเลย ก่อนหมดแผง!!
Mind Day วันพักใจ หยุดพัก เพื่อดูแลสุขภาพจิตใจ
“คัลแมกี” พายุแห่งลมฝน กับบทเรียนแห่งความไม่ประมาท
หากโลกนี้ไม่มีเงิน แล้วมนุษย์จะทำงานไปเพื่ออะไร แนะนำสิ่งที่มนุษย์ต้องเริ่มทำ ถ้าไม่อยากทำงานไปตลอดชีวิต
รวมภาพตลกเฮฮาประจำวันนี้ วันที่เขาว่าจะมีพายุหนักเข้า ต้องเตรียมพร้อมกันเอาไว้ด้วยน๊า...
เคล็ดลับป้องกัน "ผิวแตก" ในฤดูหนาว
เขมรแสบ..ขอทำฟันทั้งปากก่อนส่งตัวกลับ
สิงโตตัวผู้พุ่งใส่คนดูแล แต่ตัวเมียพุ่งมาห้าม กลัวเมียยังไงให้โลกจำ
แปรงลิ้น ทำไมต้องทำความสะอาด ลิ้น สำคัญกับช่องปากอย่างไร
ถอดรหัสความกลัว: ทำไมตัวตลกในหนังจึงน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าปีศาจ?
ลือ ฮุนเซน ป่วยหนัก ขอมาฟอกไตที่ไทย คุยลับ
"เจนี่" เผยสถานะหัวใจกับ "เศรษฐีฮ่องกง"..ยอมรับมีคนคุย แต่ไม่พร้อมโฟกัสเรื่องรัก
ไขความจริง: กินดึกแค่ไหนถึงไม่อ้วน?
“คัลแมกี” พายุแห่งลมฝน กับบทเรียนแห่งความไม่ประมาท
ถอดรหัสความกลัว: ทำไมตัวตลกในหนังจึงน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าปีศาจ?
เขมรแสบ..ขอทำฟันทั้งปากก่อนส่งตัวกลับ




