ตร.ไซเบอร์ลุย! ส่งคลิปเสียงฮุน เซน สั่งล่าคนเห็นต่าง ให้อสส. ดำเนินการต่อ
ตำรวจไซเบอร์ส่งสำนวนคดีคลิปเสียง “ฮุน เซน” ให้อัยการสูงสุดพิจารณา คดีนอกราชอาณาจักร หลังพบสั่งไล่ล่า “พร พันนา”
ความคืบหน้าคดีคลิปเสียงฮุน เซน ที่สังคมจับตาอย่างใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ตำรวจไซเบอร์” ได้ทำการส่งสำนวนสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับคลิปเสียงของ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาดำเนินคดีในฐานะคดีนอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20
คลิปเสียงที่ถูกเปิดเผยออกมามีเนื้อหาลักษณะสั่งการให้ดำเนินการไล่ล่ากลุ่มคนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกับรัฐบาลกัมพูชา โดยเฉพาะเป้าหมายสำคัญที่ถูกกล่าวถึงคือ นายพร พันนา นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวกัมพูชาที่ถูกโจมตีและลี้ภัยไปยังต่างประเทศแล้ว
รายละเอียดการส่งสำนวนคดีและความสำคัญทางกฎหมาย
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยว่า สำนวนที่ส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดในครั้งนี้ มีจำนวนกว่า 50 แผ่น ซึ่งเป็นผลจากการรวบรวมพยานหลักฐานและการสอบสวนอย่างละเอียด โดยเน้นย้ำว่าคดีนี้เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทย จึงต้องอยู่ในอำนาจการพิจารณาของอัยการสูงสุดตามกฎหมาย
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ยังเชื่อมโยงเนื้อหาในคลิปเสียงกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจริง โดยยกตัวอย่างเหตุการณ์เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ที่นายพร พันนา ถูกกลุ่มคนร้าย 3 คนรุมทำร้ายร่างกายในพื้นที่ สภ.บ้านฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งสอดคล้องกับคำสั่งในคลิปเสียงที่ระบุชื่อของนายพร พันนา ชัดเจนว่าเป็นเป้าหมายการปฏิบัติการ
ความผิดตามกฎหมายและบทลงโทษ
การกระทำที่ปรากฏในคลิปเสียงและเหตุการณ์ความรุนแรงนี้ อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง มีบทลงโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ยืนยันว่า หากพบหลักฐานชัดเจนและมีการกระทำผิดเกิดขึ้นจริง จะดำเนินการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด พร้อมกับประสานงานกับหน่วยงานระหว่างประเทศ เช่น อินเตอร์โพล เพื่อออกหมายแดงตามขั้นตอนของกฎหมายสากล
ขั้นตอนหลังส่งสำนวนถึงอัยการสูงสุด
นางสาวฐิตัวดี สินธวณรงค์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อธิบายขั้นตอนหลังจากได้รับสำนวนว่า อัยการสูงสุดจะทำการส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสอบสวนเพื่อพิจารณาว่า คดีนี้ควรได้รับการดำเนินการเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่
หากพิจารณาแล้วว่าคดีมีมูลและควรดำเนินการในฐานะคดีนอกราชอาณาจักร สำนักงานอัยการสอบสวนจะตั้งคณะพนักงานสอบสวนร่วมระหว่างอัยการและตำรวจขึ้นมา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดี ก่อนส่งกลับให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล
การเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทำร้าย นายพร พันนา และการลี้ภัยในต่างประเทศ
เหตุการณ์ทำร้ายร่างกายนายพร พันนา เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ที่จังหวัดระยอง เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเป็นการกระทำที่มีลักษณะรุนแรงต่อบุคคลที่แสดงออกทางการเมือง
นายพร พันนา ผู้ได้รับผลกระทบ ได้เลือกที่จะลี้ภัยไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและครอบครัว หลังจากเกิดเหตุการณ์ทำร้ายดังกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่ตามมาจากคำสั่งในคลิปเสียงนี้
สถานการณ์ปัจจุบันและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ไทย
ตำรวจไซเบอร์ไทยยังคงดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่องเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ย้ำว่า เจ้าหน้าที่ไทยไม่มีการละเลย และจะไม่ยอมให้มีการกระทำผิดกฎหมายหรือการใช้พื้นที่ไทยเป็นฐานปฏิบัติการสำหรับการกระทำผิดที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในภูมิภาค
คดีคลิปเสียงฮุน เซน กับแพทองธาร ชินวัตร
นอกจากคดีคลิปเสียงที่มีเนื้อหาสั่งไล่ล่า “พร พันนา” แล้ว ยังมีความคืบหน้าของคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง สมเด็จฮุน เซน กับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ที่อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ
ทางสำนักงานอัยการสอบสวนและตำรวจไซเบอร์ได้มีการประชุมร่วมกันและคาดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับคดีนี้ภายในเดือนสิงหาคม 2568 นี้
ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความมั่นคงในภูมิภาค
คดีนี้ไม่เพียงแค่เรื่องของการกระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่ยังส่งผลกระทบในระดับภูมิภาคและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา
การที่ตำรวจไทยสามารถดำเนินการตรวจสอบและรับมือกับเหตุการณ์ในลักษณะนี้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและความร่วมมือของหน่วยงานรัฐในการปกป้องความสงบเรียบร้อย และยืนยันความมุ่งมั่นในการไม่ให้พื้นที่ไทยถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือความรุนแรง
สรุปภาพรวม
ตำรวจไซเบอร์ได้ส่งสำนวนสืบสวนคดีคลิปเสียงฮุน เซน ที่มีคำสั่งไล่ล่าพร พันนา ให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาในฐานะคดีนอกราชอาณาจักร
สำนวนมีจำนวนกว่า 50 แผ่น พร้อมพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทำร้าย นายพร พันนา ที่จังหวัดระยอง
ขั้นตอนหลังจากนี้คือการตั้งคณะพนักงานสอบสวนร่วมเพื่อรวบรวมพยานและสรุปสำนวนก่อนฟ้องศาล
หากพบว่าผู้ต้องหาอยู่ต่างประเทศ จะดำเนินการออกหมายจับและประสานงานกับตำรวจสากล (Interpol)
ยังมีความคืบหน้าของคดีคลิปเสียงระหว่างฮุน เซน กับแพทองธาร ชินวัตร ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ
เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความร่วมมือของหน่วยงานไทยในการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในภูมิภาค
#ทายนิสัยจากกาแฟ: เดือนเกิดคุณเปรียบเหมือนกาแฟแก้วไหน? ทายบุคลิก ความรัก และการเงินจากเครื่องดื่มแก้วโปรด
นิสัย "ดาร์กๆ" ตามวันเกิด: สำรวจด้านมืดที่ซ่อนอยู่
สิงโตตัวผู้พุ่งใส่คนดูแล แต่ตัวเมียพุ่งมาห้าม กลัวเมียยังไงให้โลกจำ
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 68 มาแล้ว!..รีบส่องเลย ก่อนหมดแผง!!
“คัลแมกี” พายุแห่งลมฝน กับบทเรียนแห่งความไม่ประมาท
Mind Day วันพักใจ หยุดพัก เพื่อดูแลสุขภาพจิตใจ
เขมรแสบ..ขอทำฟันทั้งปากก่อนส่งตัวกลับ
แปรงลิ้น ทำไมต้องทำความสะอาด ลิ้น สำคัญกับช่องปากอย่างไร
เคล็ดลับป้องกัน "ผิวแตก" ในฤดูหนาว
หากโลกนี้ไม่มีเงิน แล้วมนุษย์จะทำงานไปเพื่ออะไร แนะนำสิ่งที่มนุษย์ต้องเริ่มทำ ถ้าไม่อยากทำงานไปตลอดชีวิต
รายงานการประมาณการ “บ้านว่าง” ในประเทศไทย พ.ศ.2568
ทำไมไอดอลกรุ๊ป ถึงห้ามมีความรัก ห้ามถูกตัวผู้ชาย ทั้งที่มีกิจกรรมให้จบมือได้?
ลือ ฮุนเซน ป่วยหนัก ขอมาฟอกไตที่ไทย คุยลับ
"เจนี่" เผยสถานะหัวใจกับ "เศรษฐีฮ่องกง"..ยอมรับมีคนคุย แต่ไม่พร้อมโฟกัสเรื่องรัก
ไขความจริง: กินดึกแค่ไหนถึงไม่อ้วน?
“คัลแมกี” พายุแห่งลมฝน กับบทเรียนแห่งความไม่ประมาท
ถอดรหัสความกลัว: ทำไมตัวตลกในหนังจึงน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าปีศาจ?
เขมรแสบ..ขอทำฟันทั้งปากก่อนส่งตัวกลับ



