ฮุน เซน วอนไทย ห้ามใช้ F-16 หากศึกปะทุอีก ลามร้องนานาชาติบล็อกขายเครื่องบินรบ
แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำความมั่นคงคือเรื่องของคนไทยทั้งชาติ พร้อมเผยความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากรับมอบอุปกรณ์สำคัญเพื่อสนับสนุนภารกิจของทหารแนวหน้า ไม่ว่าจะเป็นโดรนลาดตระเวน เครื่องนุ่งห่ม และของใช้ที่จำเป็นต่าง ๆ จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน โดยมีนายป่านเทพ พัวพงษ์พันธ์ เป็นผู้แทนส่งมอบ เพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดนไทยอย่างมีประสิทธิภาพ
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณแทนกองทัพบกและผู้บัญชาการทหารบกต่อการสนับสนุนครั้งนี้ พร้อมย้ำว่าในภาวะการปฏิบัติการสมัยใหม่ ความรวดเร็วและความพร้อมคือหัวใจสำคัญ การได้รับอุปกรณ์ที่จำเป็นจากภาคประชาชนและองค์กรภาคเอกชน จึงช่วยเสริมขีดความสามารถของกำลังพลได้ทันที โดยไม่ต้องรอการจัดซื้อจัดจ้างตามระบบราชการที่ใช้เวลานาน
“นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องของกองทัพ แต่คือเรื่องของประเทศไทยทั้งประเทศ หากความมั่นคงไม่มี คนไทยทุกคนก็อยู่ลำบาก” พลโทบุญสินกล่าว พร้อมระบุว่าจะนำเรื่องนี้ไปบอกเล่ากับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน เพื่อให้กำลังใจและสร้างความภาคภูมิใจว่าคนไทยทั้งประเทศยืนอยู่เคียงข้างพวกเขา
ความคืบหน้าการประชุม GBC ไทย–กัมพูชา
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคาดหวังต่อผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ที่จัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน แม่ทัพภาคที่ 2 แสดงความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี และอาจจบลงด้วยดี แต่ขอรอให้พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งทำหน้าที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้แถลงผลอย่างเป็นทางการก่อน
กรณีสายลับ BHQ และการจับกุมใน จ.บุรีรัมย์
ต่อคำถามเกี่ยวกับรายงานว่ามีกองกำลัง BHQ หรือ “องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน” ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงของกัมพูชา แฝงตัวเข้ามาในไทยและถูกจับกุมที่จังหวัดบุรีรัมย์ พลโทบุญสินกล่าวว่ายังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวน และต้องรอการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ BHQ จริงหรือไม่
แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่าทุกพื้นที่ชายแดนต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ให้เพิ่มความตื่นตัวเพื่อป้องกันสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
ปฏิบัติการวางรั้วลวดหนามที่ช่องอานม้า
พลโทบุญสินกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่กัมพูชาเข้ามาตัดรั้วลวดหนามบริเวณช่องอานม้า โดยระบุว่าฝ่ายไทยได้เชิญออกจากพื้นที่ และวางรั้วลวดหนามใหม่ทันที เพื่อรักษาฐานที่มั่นในพื้นที่ควบคุม พร้อมเน้นว่าแม้จะห้ามกิจกรรมที่ละเมิดอธิปไตยอย่างเด็ดขาด แต่เหตุการณ์นี้ไม่มีการนำอาวุธเข้ามา
อย่างไรก็ตาม พื้นที่บริเวณชายแดนดังกล่าวยังคงมีทุ่นระเบิดหลงเหลืออยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะแถวปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จึงจำเป็นต้องประสานกับกัมพูชาเพื่อดำเนินการเก็บกู้ร่วมกัน
สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมและสุขภาพทหาร
เมื่อถูกถามถึงกรณีทหารกัมพูชาป่วยเป็นโรคมาลาเรีย แม่ทัพภาคที่ 2 ชี้แจงว่าเป็นหน้าที่ของแต่ละฝ่ายที่จะดูแลกำลังพลของตนเอง โดยฝ่ายไทยมีแพทย์สนามและโรงพยาบาลในพื้นที่พร้อมให้การรักษาทหารไทยที่อาจเจ็บป่วย
ในส่วนการจัดการศพทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะ แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่าได้ประสานให้กัมพูชามารับศพกลับไป เนื่องจากหากปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลกระทบต่อมลพิษทางอากาศของทั้งสองประเทศ หากกัมพูชาไม่มารับ ฝ่ายไทยก็มีมาตรการจัดการเพื่อลดกลิ่น แต่จะไม่เก็บศพให้
การใช้ F-16 และกระแสข่าวลอบสังหาร
ในประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ขอร้องไม่ให้ไทยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 ในการปฏิบัติการ และเรียกร้องนานาชาติไม่ให้ขายเครื่องบินรบให้ไทย แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่าไทยจะใช้ F-16 เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศตามความจำเป็น และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองภายในของกัมพูชา
ส่วนกระแสข่าวการลอบสังหารสมเด็จฮุน เซน และสมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พลโทบุญสินยืนยันว่าข่าวดังกล่าวมาจากสื่อของกัมพูชาเอง ไม่ใช่การปฏิบัติของฝ่ายไทย
ขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า
แม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำว่า ทหารไทยที่ประจำการตามแนวชายแดนยังคงมีขวัญและกำลังใจที่ดี พร้อมปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบกำลังใจและการมอบอุปกรณ์ที่จำเป็น
เขาทิ้งท้ายด้วยการยืนยันว่า สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบัน แม้จะมีความตึงเครียดในบางประเด็น แต่หากทั้งสองฝ่ายพูดคุยและเข้าใจกันก็ไม่มีอะไรต้องกังวล อย่างไรก็ตาม กองทัพไทยยังคงรักษาความพร้อมและไม่ประมาท เพื่อปกป้องแผ่นดินไทยอย่างถึงที่สุด



















