กกร.คาดการณ์ ปรับเพิ่ม GDP ปีนี้ โต 1.8-2.2%
วันนี้ เพจเฟสบุ๊ก "สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว" ได้โพสต์ว่า "ประธานสมาคมธนาคารไทย "ผยง ศรีวณิช" กล่าวว่า "ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจ (GDP) ไทยปี 68 มาอยู่ที่ 1.8-2.2% จากเดิมคาดไว้ที่ 1.5-2.0% รวมทั้งได้ปรับเพิ่มประมาณการส่งออกไทยปีนี้ เป็น 2-3% จากเดิม -0.5 ถึง 0.3% จากความสำเร็จในการเจรจาการค้ากับอเมริกา ส่งผลให้สินค้าจากไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากอเมริกา ในอัตรา 19% ลดลงจากที่อเมริกา เคยประกาศไว้ที่ 36% ทำให้การส่งออกสินค้าจากไทย ไม่เสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้าน"
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังปีนี้ มีแนวโน้มชะลอตัว โดยการส่งออกอาจจะแผ่ว ลง หลังหมดปัจจัยชั่วคราว จากการเร่งส่งออกก่อนมาตรการภาษีอเมริกา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ และจะมีการแข่งขันด้านราคามากขึ้น, ภาวะเงินบาทแข็งค่าขึ้น รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบ และ กำลังซื้อของผู้บริโภคในอเมริกา ลดลงจากปัญหาเงินเฟ้อ รวมถึงรายได้จากการท่องเที่ยวชะลอตัวลง และ ผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา
ส่วนเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และต้นปี 69 มีแนวโน้มผันผวนสูง โดยเฉพาะภาคส่งออก ที่จะได้รับผลกระทบที่ชัดเจนมากขึ้นจากกรณีภาษีของอเมริกา รวมถึงการแข่งขันจากประเทศคู่แข่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ ที่ประชุม กกร. เห็นว่า "ประเทศไทยจะต้องเร่งปรับตัวรับมือทั้งระยะสั้น และการเปลี่ยนผ่านในระยะข้างหน้า ในระยะสั้นการแข่งขันด้านราคาจะเพิ่มขึ้น ทั้งสินค้าที่ไทยส่งออกและสินค้าที่ขายในประเทศ ที่จะแข่งขันกับสินค้าที่ไทยเปิดตลาดนำเข้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบกลุ่มที่มี Margin ต่ำ รวมทั้งต้องเร่งสำรวจการใช้ Local Content เพื่อลดความเสี่ยงภาษี transshipment (40%) รวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในส่วนพิธีการศุลกากร และ การตรวจสอบมาตรฐานสินค้าที่ขายในประเทศ"
"ผยง ศรีวณิช" กล่าวอีกว่า "นโยบายการค้าของสหรัฐฯ เป็น Wake-up Call ให้ไทยใช้โอกาสนี้ ในการปรับตัวเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวของภาคเอกชน โดยเฉพาะ SME ทั้งการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม กำหนด Priority Sectors ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ ยกระดับกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อเพิ่ม local content เพิ่ม Productivity ลดต้นทุน ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ยกระดับทักษะแรงงานของไทยในประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจที่แท้จริง"
กกร. เห็นว่าไทยยังขาดข้อมูลสำคัญ ด้านโครงสร้างการผลิตรายอุตสาหกรรม เช่น การใช้วัตถุดิบขั้นต้นและขั้นกลางในประเทศ รวมถึง Regional Value Content (RVC) ซึ่งภาคเอกชนได้เริ่มสำรวจและเก็บข้อมูลพื้นฐาน เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขการส่งออกสินค้าไปยังอเมริกา"
อ้างอิง: เพจเฟสบุ๊ก "สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว"
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
พบกลิ่นแปลกจากนมกล่องที่สั่งซื้อออนไลน์ ก่อนตรวจสอบโกดังพบว่านมหมดอายุถูกนำมาขายใหม่ ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อสุขภาพ
ความเชื่อที่ไม่ควรทำในวันปีใหม่ เพื่อการเริ่มต้นที่ราบรื่นและมีชัยไปกว่าครึ่ง...สายมูต้องห้ามพลาด
นักเรียนดีเด่นวัย 12 เสียชีวิตหลังจากเลียนแบบฉากจากซีรี่ส์เรื่อง Squid Game
มะเขือตอแหล : ชื่อเจ็บจี้ด แต่คุณค่าประโยชน์ล้ำเลิศ
อดีตนายกหญิงคนแรกของบังกลาเทศ "คาเลดา เซีย" เสียชีวิตแล้ว
ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อย
ชายที่อ้วนที่สุดในโลกเสียชีวิตแล้ว
100 อันดับของหวานยอดเยี่ยมปี 2025
"พงศาวดารโกโก้: จากโอสถศักดิ์สิทธิ์สู่ปีศาจผู้เย้ายวน"
หนุ่ม จ.ตาก หึงหวงแฟนสาว ใช้มีดทำร้ายจนเสียชีวิตในห้องพักย่านดุสิต ก่อนแจ้งความเอง
"มารินะ ยามาดะ" วง HKT48 เผย "ฉันแต่งงานและมีลูกคนแรกแล้ว"
มะเขือตอแหล : ชื่อเจ็บจี้ด แต่คุณค่าประโยชน์ล้ำเลิศ
พบกลิ่นแปลกจากนมกล่องที่สั่งซื้อออนไลน์ ก่อนตรวจสอบโกดังพบว่านมหมดอายุถูกนำมาขายใหม่ ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อสุขภาพ
นักเรียนดีเด่นวัย 12 เสียชีวิตหลังจากเลียนแบบฉากจากซีรี่ส์เรื่อง Squid Game
100 อันดับของหวานยอดเยี่ยมปี 2025
หยุดยาวปีใหม่ 69 นักท่องเที่ยวทะลัก “สะพานมอญ” สังขละบุรี แน่นขนัด ยอดเข้าพื้นที่ทะลุวันละหมื่น
พบกลิ่นแปลกจากนมกล่องที่สั่งซื้อออนไลน์ ก่อนตรวจสอบโกดังพบว่านมหมดอายุถูกนำมาขายใหม่ ทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงต่อสุขภาพ
นักเรียนดีเด่นวัย 12 เสียชีวิตหลังจากเลียนแบบฉากจากซีรี่ส์เรื่อง Squid Game
ชายที่อ้วนที่สุดในโลกเสียชีวิตแล้ว
"มารินะ ยามาดะ" วง HKT48 เผย "ฉันแต่งงานและมีลูกคนแรกแล้ว"
