บุกจับ “ไฮโซลูกนัก”! คลังอาวุธเพียบ 20 กระบอก กระสุนทะลุพันนัด
"ไฮโซลูกนัท" ถูกจับกุมพร้อมอาวุธสงคราม-ยาเสพติดคาบ้านพักหรู สาวร้องสลดถูกบังคับเสพยา-ข่มขู่ทำร้าย
วันที่ 7 สิงหาคม 2568 ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสั่นสะเทือนในสังคมไทยอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล นำโดย พล.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการที่ดูแลงานสืบสวน และ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. ที่รับผิดชอบงานปราบปรามยาเสพติด ได้สั่งการให้ชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในเขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
โดยภารกิจครั้งนี้มี พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.ปิยรัช เวศสะโกศล รอง ผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฒิรักษ์ รอง ผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.จักรี นารีผล สว.กก.ดส. และ พ.ต.ท.ชด พุ่มพันธุ์ม่วง สว.กก.ดส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ปฏิบัติการ
ตรวจค้นตามหมายศาล จับกุม "ไฮโซลูกนัท"
เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตาม หมายค้นศาลอาญาพระโขนง หมายเลข 96/2558 และ 97/2558 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านพักของนาย ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือที่รู้จักกันในแวดวงสังคมว่า “ไฮโซลูกนัท” วัย 33 ปี อดีตนักธุรกิจชื่อดัง และอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์
จากการตรวจค้นในวันที่ 6 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายธนัตถ์ไว้ได้พร้อมของกลางจำนวนมหาศาล ซึ่งนอกจากจะเป็น อาวุธปืนหลายชนิดทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ยังพบยาเสพติดและอุปกรณ์เสพยาอีกจำนวนมากในบ้านพักของเขา
ของกลางอาวุธ-กระสุนปืน มากเกินความจำเป็น
รายการของกลางที่ตรวจพบ ณ จุดเกิดเหตุ ประกอบด้วย:
- ปืนกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม. พร้อมแมกกาซีนบรรจุกระสุน 13 นัด
- กระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 300 นัด
- กระสุน 9 มม. จำนวน 12 กล่อง กล่องละ 50 นัด รวม 600 นัด
- ลำกล้องปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 1 ชิ้น
- ปืนลูกซอง 1 กระบอก
- แมกกาซีนสั้น 16 อัน
- แมกกาซีน SMG 9 มม. 5 อัน
- แมกกาซีน ปลย. (AR) 5 อัน
- กระสุนขนาด 308 จำนวน 60 นัด
- ปืนเล็กยาวขนาด 5.56 จำนวน 1 กระบอก
- ปืนไรเฟิลขนาด .308 จำนวน 1 กระบอก
- ปืนกลมือ SMG ขนาด 9 มม. พร้อมแมกกาซีน
- ปืนสั้นขนาด .380 ACP และ .45 อย่างละ 1 กระบอก
- ปืน COLT 1911, SIG P226, Colt Python ขนาด .357 และ BERETTA 692
- กล้องเล็งปืนยาว VORTEX
- กระสุนรวมกันมากกว่า 2,000 นัด หลากหลายขนาด
- อุปกรณ์ประกอบการเสพยาไอซ์ 2 ชุด
- โคเคน บรรจุในถุงพลาสติกสีแดง 1 ถุง
สิ่งที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นคือ ปริมาณของอาวุธและกระสุนที่พบภายในบ้านมีจำนวนมาก เกินกว่าที่ประชาชนทั่วไปควรครอบครอง ซึ่งก่อให้เกิดคำถามว่าเขาครอบครองไว้เพื่ออะไร และมีเป้าหมายหรือจุดประสงค์ใดแอบแฝงหรือไม่
สาวร้องทุกข์ถูกข่มขู่-บังคับเสพยา
ต้นเรื่องของการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ เกิดจากการแจ้งเบาะแสของพลเมืองดีและผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 20 ปลายๆ ขอใช้นามสมมุติว่า “น.ส.เอ” ได้เข้ามาแจ้งความที่ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.คส.) ระบุว่าเธอได้ถูกเชิญให้ไปดื่มสังสรรค์ภายในบ้านของไฮโซลูกนัท และหลังจากนั้นเหตุการณ์ก็เริ่มเลวร้ายลง
น.ส.เอ ให้การว่า นายธนัตถ์ได้เสพยาเสพติดในบ้านพักจนมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป และได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ บังคับให้เธอร่วมเสพยาเสพติดด้วย เมื่อเธอปฏิเสธ จึงถูกข่มขู่และใช้ความรุนแรง รวมถึงถูกตบที่ศีรษะ เธอจึงจำยอมเสพยาเพื่อรักษาชีวิต
เมื่อชายหนุ่มหลับไปเนื่องจากฤทธิ์ยาเสพติด หญิงสาวจึงรีบใช้โอกาสนั้นถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน ก่อนหลบหนีออกมาจากบ้านพัก และเดินทางไปแจ้งความในทันที
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุ เธอมีอาการหวาดกลัวและเครียดจนไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบทางจิตใจที่รุนแรงจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ความเคลื่อนไหวของตำรวจ และแนวทางดำเนินคดี
หลังจากรับแจ้งเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นแล้ว ทางตำรวจได้รวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นขอหมายค้นศาลอาญาพระโขนง และสามารถเข้าตรวจค้นได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว จนนำมาซึ่งการจับกุมในครั้งนี้
เบื้องต้น นายธนัตถ์ หรือไฮโซลูกนัท ถูกแจ้งข้อหาหลายกระทง ได้แก่:
1. ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. ครอบครองยาเสพติดประเภท 1 (โคเคน และยาไอซ์)
3. ครอบครองอุปกรณ์เสพยา
4. ข่มขู่และทำร้ายร่างกายผู้อื่น
5. บังคับขืนใจให้ผู้อื่นเสพยาโดยใช้กำลังและอาวุธ
ขณะนี้ นายธนัตถ์อยู่ในระหว่างการควบคุมตัวและเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่จะส่งของกลางทั้งหมดให้ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานเพื่อประกอบสำนวนคดี
กระแสสังคม-คำถามต่อระบบยุติธรรม
เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความตื่นตะลึงในสังคม เนื่องจากนายธนัตถ์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง มีฐานะทางสังคมสูง เคยเข้าสู่สนามการเมือง และเคยได้รับการพูดถึงในแวดวงธุรกิจและสื่อมวลชน การพบอาวุธสงครามและยาเสพติดจำนวนมากในบ้านพักของเขา จึงกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง
หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงการบังคับใช้กฎหมายในกลุ่มคนมีอิทธิพล และการตรวจสอบที่อาจมีช่องโหว่ในระบบการลงทะเบียนและควบคุมอาวุธปืนในประเทศไทย
สรุป
กรณี "ไฮโซลูกนัท" สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นใครในสังคมก็ตาม การป้องกันเหตุลักษณะนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งพลเมืองดีที่กล้าแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ที่ทำงานเชิงรุก และกระบวนการยุติธรรมที่เข้มแข็ง
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะดำเนินคดีโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมกับขยายผลต่อเนื่องว่าอาวุธและยาเสพติดที่พบมีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายใดหรือไม่
กรณีนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของคนหนึ่งคน แต่คือเครื่องเตือนใจถึงภัยที่อาจซ่อนอยู่ในทุกระดับของสังคม หากปราศจากการตรวจสอบและความยุติธรรมที่แท้จริง




