เดือด! อินฟลูฯเขมรโยนขี้ไทย ปมศพทหาร ลั่น "ฝั่งกูมีเกียรติ ไม่ทิ้งศพ"
ดราม่าชายแดนเดือด! หลังเหตุปะทะ ไทย-กัมพูชา มีทหารเสียชีวิตกลางป่า ฝั่งเขมรโยนศพเป็นของไทย ซัด “อย่าสอดเรื่องบ้านกู”
สถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลอีกครั้ง หลังเกิดเหตุ ปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารไทยกับกัมพูชา ส่งผลให้มีทหารเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง โดยล่าสุดมีรายงานว่า พบทหารเสียชีวิตหลายศพในพื้นที่ป่าลึก ซึ่งยังไม่มีการเก็บกู้ จนทำให้ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้ที่ติดตามข่าวสารเป็นอย่างมาก
ขณะที่ครอบครัวของทหารกัมพูชาหลายรายได้เริ่ม โพสต์ประกาศตามหาญาติที่เป็นทหารแนวหน้า ซึ่งหายตัวไปหลังเหตุการณ์ปะทะ ท่ามกลางความโกลาหลและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับชะตากรรมของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ประเด็นเริ่มร้อนแรงขึ้นอีกครั้งเมื่อมี อินฟลูเอนเซอร์ฝั่งกัมพูชา ออกมา ไลฟ์สดโต้กลับกระแสข่าว ด้วยการโยนความรับผิดชอบไปที่ฝั่งไทย กล่าวหาว่า ศพที่พบในป่าและส่งกลิ่นเหม็นนั้นเป็นศพของทหารไทย ไม่ใช่ของกัมพูชา พร้อมทั้งบอกให้ชาวไทย “อย่าสอดเรื่องของบ้านกู”
สถานการณ์ชายแดนหลังการปะทะ: กลายเป็น “พื้นที่อำพราง”
ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่นและประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายแดน ได้ระบุว่า หลังจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนด้านตะวันออก ระหว่างเขตประเทศไทยและกัมพูชา ยังมีการเคลื่อนไหวทางทหารในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้ไม่มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการจากทั้งสองรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สร้างความวิตกกังวลคือ การพบศพทหารที่ไม่มีใครเก็บกู้ อยู่ในพื้นที่ป่าห่างไกล ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และหลายศพเริ่มส่งกลิ่นรุนแรง ทำให้ประชาชนในพื้นที่หวาดกลัวและรู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก
แหล่งข่าวท้องถิ่นที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุว่า ทหารกัมพูชาหลายรายเสียชีวิตและถูกทิ้งไว้ในป่า โดยไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการเก็บกู้ร่างของผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสม ต่างจากฝั่งไทยที่มีหน่วยเฉพาะกิจเร่งลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือและนำผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตกลับมาแล้วบางส่วน
ครอบครัวกัมพูชาเริ่มเคลื่อนไหว: “พ่อฉันยังไม่กลับบ้าน”
ในโซเชียลมีเดียของประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะใน Facebook และ TikTok เริ่มมี ครอบครัวของทหารกัมพูชาออกมาโพสต์ตามหาญาติที่หายไป บางรายระบุว่า สามีหรือพ่อของตนเอง “ถูกส่งไปชายแดน และไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย” พร้อมทั้งแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่ไม่มีการเปิดเผยอย่างชัดเจนจากฝ่ายรัฐบาล
มีหลายโพสต์ที่สะเทือนใจ เช่น
“พ่อของฉันไปประจำการแนวหน้า ตอนนี้เงียบหาย ไม่มีใครตอบอะไรเลย ได้แต่รออย่างหวังลมๆ แล้งๆ”
หรือ
“รัฐบาลไม่พูดอะไรเลย ทำไมไม่มีการบอกข่าวถึงครอบครัวพวกเขา? เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ไหม”
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้แสดงให้เห็นถึง ความไม่มั่นคงในข้อมูลภายในประเทศกัมพูชา และทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึง “ความรับผิดชอบ” ต่อทหารที่อาจสละชีพในภารกิจชายแดน
อินฟลูเอนเซอร์เขมร “บอย” ไลฟ์สดสวนกระแส โยนศพเป็นของไทย!
ขณะที่ความโศกเศร้ายังปกคลุมครอบครัวของทหารที่หายไป ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก “อรรถรส” ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจาก อินฟลูเอนเซอร์ชาวกัมพูชา รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “บอย” ซึ่งได้ออกมาไลฟ์สดตอบโต้ข่าวที่ว่า “ศพในป่าคือทหารกัมพูชา” โดยเจ้าตัวกล่าวหาว่า
“ศพที่ส่งกลิ่นในป่าไม่ใช่ของฝั่งกัมพูชา แต่เป็นของฝั่งไทย! ของเขาเก็บกลับหมดแล้ว ของมึงต่างหากที่บังอยู่ในป่า กล้าระเบิดแต่ไม่กล้าเข้าไปเก็บ!”
นอกจากนี้ “บอย” ยังระบุว่า ฝั่งกัมพูชาดูแลทหารตัวเองเป็นอย่างดี ทหารที่เสียชีวิตจะได้รับเกียรติอย่างสูง มีเงินชดเชยให้ครอบครัว และลูกหลานจะได้รับการดูแลต่อเนื่องไปจนโต
“ของฝั่งกู ทหารทุกคนที่สละชีพได้รับเกียรติสูงสุด ลูกหลานเขาจะได้เรียนหนังสือ อยากเป็นอะไรก็ได้ บ้านที่ทรุดโทรมรัฐบาลก็จะไปสร้างใหม่ให้”
เขายังกล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า
“เรื่องของกัมพูชา พวกมึงไม่ต้องมาสอดหรอก เอาเวลาไปดูแลบ้านมึงเองดีกว่า!”
ปฏิกิริยาโซเชียล: คนไทยรับไม่ได้ ชี้ “โยนความผิดอย่างไม่ละอาย”
หลังจากคลิปของ “บอย” ถูกเผยแพร่ออกไป เกิดกระแสวิจารณ์รุนแรงในฝั่งไทย หลายคนแสดงความไม่พอใจที่เขา “บิดเบือนข้อเท็จจริง” พร้อมทั้งโจมตีว่าเขา “ไร้มนุษยธรรม” ที่ใช้โศกนาฏกรรมเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ
บางคอมเมนต์ระบุว่า:
“แทนที่จะโทษกัน ควรร่วมไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหน”
“ศพในป่าคือมนุษย์ ไม่ใช่แค่ทหารฝ่ายตรงข้าม อย่าทำให้ความตายกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองเลย”
“ถ้ามั่นใจว่าฝั่งตัวเองไม่มีศพจริง ก็ขอให้เปิดเผยหลักฐาน ไม่ใช่แค่ปากพูด”
ความจริงคืออะไร? หรือทั้งสองฝ่าย “ต่างก็เสียหาย”?
แม้ทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาจะยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการว่า ทหารที่เสียชีวิตมีจำนวนเท่าไหร่ หรือฝั่งใดสูญเสียมากกว่ากัน แต่จากข้อมูลภาคสนาม และความเคลื่อนไหวของครอบครัวทหารกัมพูชา รวมถึงกลิ่นเหม็นจากศพในป่า ที่ชาวบ้านต่างยืนยันตรงกัน ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า กัมพูชาเองก็อาจมีความสูญเสียที่ยังไม่เปิดเผย
ปฏิกิริยาของอินฟลูเอนเซอร์ฝั่งเขมรที่ออกมา “ตอกกลับ” ด้วยการโยนความผิดทั้งหมดไปที่ไทย อาจเป็นเพียงการพยายามปกป้องภาพลักษณ์ของประเทศ แต่ หากข้อเท็จจริงปรากฏออกมาในภายหลังว่า ฝั่งกัมพูชาก็มีการสูญเสียจริง แต่ไม่ยอมรับ ก็อาจกลายเป็นจุดวิกฤตศรัทธาครั้งใหญ่จากประชาชนของตัวเอง
สรุป: เมื่อสงครามข้อมูลแรงไม่แพ้กระสุน
เหตุการณ์นี้สะท้อนถึง สงครามรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้เกิดจากอาวุธหรือกระสุนเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึง “สงครามข้อมูล” ที่ทั้งสองฝ่ายพยายามสร้างภาพของตนเองให้ดูเหนือกว่าอีกฝ่าย ไม่ว่าจะผ่านสื่อรัฐ หรือแม้แต่ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ส่วนบุคคล
ในภาวะเช่นนี้ ผู้รับข่าวสารจำเป็นต้องใช้วิจารณญาณสูงในการแยกแยะข้อเท็จจริงจากอารมณ์หรือการโฆษณาชวนเชื่อ พร้อมทั้ง เรียกร้องให้ทั้งสองประเทศแสดงความจริงใจ ในการดูแลผู้เสียชีวิตและครอบครัวอย่างเหมาะสม โดยยึดหลักมนุษยธรรมเป็นที่ตั้ง
อ้างอิงจาก: เพจ อรรสรถ
#ทายนิสัยจากกาแฟ: เดือนเกิดคุณเปรียบเหมือนกาแฟแก้วไหน? ทายบุคลิก ความรัก และการเงินจากเครื่องดื่มแก้วโปรด
ถอดรหัสความกลัว: ทำไมตัวตลกในหนังจึงน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าปีศาจ?
เขมรแสบ..ขอทำฟันทั้งปากก่อนส่งตัวกลับ
นิสัย "ดาร์กๆ" ตามวันเกิด: สำรวจด้านมืดที่ซ่อนอยู่
พบเนินเขาคล้ายรูปหัวกะโหลกสุดหลอน ในหลุมภูเขาไฟที่ทะเลทรายซาฮาร่า
ไขความจริง: กินดึกแค่ไหนถึงไม่อ้วน?
💐 เติมสีสันและคุณค่า: ๑๐ ดอกไม้กินได้ สวยงามและดีต่อสุขภาพ
“คัลแมกี” พายุแห่งลมฝน กับบทเรียนแห่งความไม่ประมาท
ลือ ฮุนเซน ป่วยหนัก ขอมาฟอกไตที่ไทย คุยลับ
รายงานการประมาณการ “บ้านว่าง” ในประเทศไทย พ.ศ.2568
ลือ ฮุนเซน ป่วยหนัก ขอมาฟอกไตที่ไทย คุยลับ
"เจนี่" เผยสถานะหัวใจกับ "เศรษฐีฮ่องกง"..ยอมรับมีคนคุย แต่ไม่พร้อมโฟกัสเรื่องรัก
ไขความจริง: กินดึกแค่ไหนถึงไม่อ้วน?
พ่อแม่และเพื่อนๆ กำลังตามหาหญิงชาวรัสเซียที่ป่วยด้วยโรคระบบประสาทซึ่งหายตัวไปนานกว่า 20 วันในภูเก็ต
เบลารุสฝึกเด็กนักเรียน เพื่อเตรียมรับสงครามจริง
หญิงจีนเผยประสบการณ์สุดช็อก หลังถูกโรงแรมในสิงคโปร์เรียกเก็บค่าปรับ 200 ดอลลาร์
“คัลแมกี” พายุแห่งลมฝน กับบทเรียนแห่งความไม่ประมาท







