ไฟป่าในฝรั่งเศสเผาผลาญพื้นที่กว่า 100,000 ไร่
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานว่า เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นใกล้กับเมืองริโบต์ ในจังหวัดโอด ในช่วงบ่ายของวันที่ 5 และลุกลามอย่างรวดเร็ว สภาพอากาศที่เลวร้าย ณ จุดเกิดไฟป่า ได้แก่ อุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส ความชื้นเพียง 25% และลมแรงเกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็น สภาพที่สมบูรณ์แบบ สำหรับการลุกไหม้ของไฟป่า
ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงประมาณ 1,250 นายเข้าร่วมปฏิบัติการดับเพลิง โดยมีการสนับสนุนทางอากาศ ได้แก่ เครื่องบินดับเพลิง CL-415 ของแคนาดา 4 ลำ เฮลิคอปเตอร์ขนาดหนัก 1 ลำ และเครื่องบินดับเพลิง DASH 4 ลำ เอริก โบรคาร์ดี โฆษกกรมดับเพลิงฝรั่งเศส อธิบายว่าเพลิงไหม้ครั้งนี้เป็น "ภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"
ตามสถิติของรัฐบาลจังหวัดโอดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม มีรถยนต์ถูกไฟไหม้ประมาณ 30 คัน อาคาร 25 หลังได้รับความเสียหาย และบ้านเรือนประมาณ 2,500 หลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงแห้งแล้งและร้อนจัด รวมถึงลมแรงตลอดเวลา ไฟป่าจึงยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าลมที่เปลี่ยนแปลงอาจทำให้การดับไฟป่ายากขึ้นในอนาคต เซอร์จ ซากา นักวิเคราะห์ด้านสภาพภูมิอากาศและการเกษตร ระบุว่า ภาวะโลกร้อนอาจทำให้ไฟป่าเกิดขึ้นไม่เพียงแต่ในฤดูร้อนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิด้วย โดยจะส่งผลกระทบต่อภาคตะวันตกเฉียงใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือของฝรั่งเศส
ตามรายงานของ Copernicus Climate Change Service ของสหภาพยุโรป ทวีปยุโรปเป็นทวีปที่มีภาวะโลกร้อนเร็วที่สุดในโลก โดยมีอุณหภูมิสูงขึ้นเร็วกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 2 เท่านับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 ซึ่งเน้นย้ำถึงความถี่ของภัยพิบัติทางสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น





