เปิดโพยเงินเยียวยา! เหยื่อปะทะชายแดนรัฐจ่ายเยียวยาปะทะชายแดน 10 ล้าน – 8 ล้านต่อหัว!
“ภูมิธรรม” แถลงแนวทางรัฐบาลเยียวยาทหาร-ประชาชนจากเหตุชายแดน พร้อมย้ำขอความสามัคคี เดินหน้าก้าวผ่าน 2 วิกฤตครั้งใหญ่
วันที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 12.45 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงจุดยืนสำคัญของรัฐบาลในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใต้หัวข้อ “ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยเนื้อหาการแถลงสะท้อนถึงความท้าทายครั้งใหญ่ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญในห้วงเวลาเดียวกัน ทั้งในด้านความมั่นคงชายแดน และแรงกดดันด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
วิกฤตที่ 1: ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และการตอบโต้ทางการเมืองระหว่างประเทศ
นายภูมิธรรมระบุว่า ประเทศไทยได้เผชิญสถานการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชานับตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นมา โดยรัฐบาลไทยได้ยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีอย่างต่อเนื่อง และอดทนต่อความพยายามปลุกปั่นทั้งจากการปฏิบัติการทางทหารและการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงการปล่อยข่าวปลอมที่มีเป้าหมายเพื่อทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนทั้งภายในประเทศและในระดับนานาชาติ
แม้รัฐบาลจะเลือกแนวทางสันติวิธีตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและมนุษยธรรม แต่เมื่อสถานการณ์นำไปสู่การสูญเสียชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ รัฐบาลก็จำเป็นต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ในรูปแบบผสมผสาน ทั้งด้านการทหาร การข่าว และการต่างประเทศอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ และชีวิตของประชาชนไทย
สถานการณ์ปัจจุบันบริเวณชายแดนได้รับการยืนยันจากหน่วยงานด้านความมั่นคงว่า ได้เข้าสู่ภาวะสงบลงในระดับหนึ่งแล้ว และเริ่มมีการเจรจาผ่านคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) โดยใช้แนวทางสันติวิธีในการหาข้อยุติระหว่างสองประเทศ
เยียวยาความสูญเสีย: ครอบครัวทหารและพลเรือนได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 10 และ 8 ล้านบาทตามลำดับ
หนึ่งในมาตรการเร่งด่วนที่รัฐบาลประกาศคือการเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้จ่ายเงินเยียวยาแก่ครอบครัวของทหารและข้าราชการผู้เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท ส่วนครอบครัวประชาชนผู้เสียชีวิตจะได้รับการเยียวยารายละ 8 ล้านบาท
นายภูมิธรรมกล่าวว่า แม้จำนวนเงินดังกล่าวจะไม่อาจชดเชยชีวิตที่สูญเสียไปได้ แต่รัฐบาลจะผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนและฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
ต่อต้านข่าวปลอม: รัฐบาลตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวสารในโซเชียลมีเดีย
จากกระแสข่าวปลอมและการบิดเบือนข้อมูลที่แพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย นายภูมิธรรมเปิดเผยว่า รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อดำเนินการตรวจสอบ วิเคราะห์ และป้องกันข่าวปลอมที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทย
เขากล่าวย้ำว่า ประเทศไทยต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของ “สงครามข่าวสาร” ที่บางฝ่ายใช้เป็นเครื่องมือโจมตี ทั้งในเชิงความมั่นคงและภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนในการตรวจสอบแหล่งข่าวก่อนเชื่อและแชร์ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอม
วิกฤตที่ 2: ภาษีการค้าสหรัฐฯ – โจทย์ใหม่ของเศรษฐกิจไทย
นอกจากปัญหาด้านความมั่นคงแล้ว ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีการปรับขึ้นอัตราภาษีการค้าสำหรับสินค้าไทยจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยมีการกำหนดภาษีใหม่ในอัตราสูงถึง 19% ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อศักยภาพทางการส่งออกของภาคธุรกิจไทย
นายภูมิธรรมชี้แจงว่า รัฐบาลไทยได้ติดตามและดำเนินการต่อประเด็นนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง พร้อมประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนและพันธมิตรในระดับนานาชาติเพื่อรับมือกับความท้าทายนี้อย่างเป็นระบบ
แม้จะมีการปรับขึ้นภาษี แต่ประเทศไทยยังคงรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไว้ได้ และมองว่าวิกฤตในครั้งนี้อาจกลายเป็นโอกาสใหม่ในการปรับโครงสร้างการผลิต และขยายฐานการส่งออกสู่ตลาดใหม่ในภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกา
เสียงเรียกร้องแห่งความสามัคคี
นายภูมิธรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า “เราในฐานะคนไทย ต้องรวมพลังกันก้าวข้ามวิกฤตทั้งสองนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคงหรือเศรษฐกิจ ความสามัคคีจะเป็นพลังสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยยังคงยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางกระแสโลกที่ผันผวน”
เขาเน้นย้ำถึง “เอกลักษณ์ของความเป็นไทย” ที่อยู่บนพื้นฐานของความรักสงบ ความเข้าใจ และการเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ พร้อมขอให้ทุกฝ่ายในสังคมไทยหยุดแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และหันมาเป็นหนึ่งเดียวในการสร้างบ้านเมืองให้เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง
สรุป
รัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายภูมิธรรม เวชยชัย ได้แสดงท่าทีชัดเจนในการรับมือกับสองวิกฤตหลักของประเทศ ได้แก่ สถานการณ์ชายแดนที่ส่งผลต่อความมั่นคง และมาตรการภาษีจากสหรัฐฯ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ โดยใช้นโยบายที่ครอบคลุมทั้งในมิติของความมั่นคง เศรษฐกิจ และความเป็นมนุษย์ พร้อมมาตรการเยียวยาที่เป็นรูปธรรม
ประเทศไทยยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายอีกมาก แต่การเดินหน้าต่อไปด้วยความสามัคคี ความจริง และสติ คือกุญแจที่จะพาประเทศหลุดพ้นจากวิกฤตและยืนหยัดได้อย่างมั่นคงบนเวทีโลก
เปิดตำนาน "ไซยาไนด์": จากความบังเอิญทางศิลปะ สู่สารพิษพลิกประวัติศาสตร์โลก
เบื้องหลัง "หัวปากกา" ชิ้นจิ๋ว ความยากระดับสร้างยานอวกาศ ที่มหาอำนาจหลายชาติยังยอมแพ้
7 มัจจุราชเงียบ: เปิดตำนานการวางยาพิษครั้งยิ่งใหญ่ที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์โลก
ต้นไม้เดินได้ ในป่าอเมซอน
ความสําเร็จอยู่ที่ใจ
คุณป้ามาซื้อยา จำชื่อยาไม่ได้จึงวาดรูปให้เภสัชกรดู ทำให้ชาวเน็ตทึ่ง!
หนุ่มฮ่องกงอาศัยในห้องขนาดแค่ 8 ตร.ม. แต่เมื่อเปิดประตูดูข้างใน กลับมีครบเลย!
รีวิวหนังดัง NOBODY 2 คนธรรมดานรกเรียกพี่ 2
ร้ายกว่าน้ำมันหมู "ราชาแห่งไขมันอิ่มตัว" ทำลายหลอดเลือดที่หลายคนไม่คาดคิด
'น้องฉัตร' ทวงบัลลังก์! บินเดี่ยวเหินฟ้า 'ดูไบ-ซาอุฯ' เสกความปังให้ 'ไบรท์-ฝ้าย'
"ลาพิสลาซูลี" (Lapis Lazuli) มัจจุราชสีน้ำเงิน สัญลักษณ์เเห่งอำนาจในประวัติศาสตร์
จ.ส.อ.ศตวรรษ สุจริต พลีชีพปกป้องอธิปไตยชาติ
เปิดภาพของฝากให้เขมร
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
'น้องฉัตร' ทวงบัลลังก์! บินเดี่ยวเหินฟ้า 'ดูไบ-ซาอุฯ' เสกความปังให้ 'ไบรท์-ฝ้าย'
บริษัทกูลิโกะ เรียกคืนสินค้า 6 ล้านชิ้น รวมทั้งช็อกโกแลตแท่งป๊อกกี้ด้วย
ญี่ปุ่นออกประกาศเตือนภัยสึนามิหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.6
ญี่ปุ่นประกาศอพยพ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว 7.5 แมกนิจูด
DPU ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการรุ่นใหม่ด้วยเกมจำลองธุรกิจที่สนุกและลึกซึ้งเหมือนโลกจริง!