โรงเรียนที่ชื่อยาวที่สุดในญี่ปุ่นจะปิดตัวในปี 2027 เนื่องจากไม่มีนักเรียน
โรงเรียนประถมและมัธยมต้นซาซายามะ เมืองไอนัน เขตมินามิอุวะ จังหวัดเอฮิเมะ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายแดนระหว่างจังหวัดโคจิและจังหวัดเอฮิเมะ ในจังหวัดชิโกกุ ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักในฐานะโรงเรียนที่มี "ชื่อโรงเรียนยาวที่สุดในญี่ปุ่น" และโรงเรียนมัธยมต้นในเครือ จะยุติการรับนักเรียนในปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2569 และปิดอย่างเป็นทางการในปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2570 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากอัตราการเกิดที่ลดลง การตัดสินใจดังกล่าวได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการโดยคณะกรรมการการศึกษาเมืองไอนันเมื่อวันที่ 4 มีนาคม
รายงาน จาก หนังสือพิมพ์โยมิอุริชิมบุนและเอฮิเมะชิมบุนระบุว่า เดิมทีโรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อรองรับนักเรียนจากพื้นที่ภูเขาของทั้งสองจังหวัด โรงเรียนมัธยมต้นก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2492 และโรงเรียนประถมศึกษาในปี พ.ศ. 2495 ในช่วงเวลาที่มีนักเรียนมากที่สุด โรงเรียนมัธยมต้นมีจำนวนนักเรียนถึง 123 คน แต่ในปีการศึกษา 2568 มีนักเรียนมัธยมต้นเหลือเพียง 6 คน และนักเรียนประถมศึกษา 3 คน นักเรียนในอนาคตจะถูกย้ายไปยังโรงเรียนใกล้เคียง
ทั้งนี้ นักเรียนมัธยมต้นทั้ง 6 คนในปัจจุบันเป็นสมาชิกชมรมเทนนิสอ่อนหญิง และพวกเขายังชนะเลิศการแข่งขันทั้งประเภทบุคคลและประเภททีมในงานแข่งขันกีฬาระดับมัธยมต้นจังหวัดเอฮิเมะเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ด้วย
ทางโรงเรียนกล่าวว่าชื่อทางการในปัจจุบันคือ "โรงเรียนประถมและมัธยมต้นชิโนยามะรวมในไอนันโช มินามิอุวะกุน จังหวัดเอฮิเมะ เมืองซูคุโม จังหวัดโคจิ" และสถานที่ตั้งของวิทยาเขตข้ามจังหวัดนั้นถือว่าหายากในญี่ปุ่น
สมาคมโรงเรียนประถมและมัธยมต้นซาซายามะ ซึ่งดูแลการดำเนินงานของโรงเรียน (มีสำนักงานใหญ่อยู่ในแผนกการศึกษาของคณะกรรมการการศึกษาเมืองไอนัน) รายงานว่าในปีการศึกษา 2568 มีนักเรียนระดับประถมศึกษาเพียง 3 คน (ทั้งหมดมาจากเมืองไอนัน) ที่เข้าเรียน ในขณะที่โรงเรียนมัธยมต้นมีนักเรียน 6 คน 4 คนมาจากเมืองไอนัน และ 2 คนมาจากเมืองซูคุโมะ จังหวัดโคจิ เนื่องจากจำนวนประชากรในภูมิภาคนี้ลดลง จึงมีการหารือกันหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในคณะกรรมการบริหารโรงเรียนว่าควรฟื้นฟูโรงเรียนหรือไม่
“เราเสียใจที่โรงเรียนประวัติศาสตร์แห่งนี้จะต้องปิดตัวลง” โคอิจิโร โอคาฮาระ หัวหน้าโค้ชโรงเรียนมัธยมต้นซาซายามะกล่าว “อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการปรึกษาหารือกับผู้ปกครองและชุมชนอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว”



