หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

บีบไทยทางอ้อม! พระเขมรร่วมไว้อาลัยทหารดับ“มาลี” อ้างมาเลย์พร้อมหนุนปล่อยเชลย

เนื้อหาโดย bbb1236555

พระสงฆ์กัมพูชา 350 รูป เดินขบวนสวดมนต์กลางกรุงพนมเปญ อุทิศส่วนกุศลให้ทหารผู้ล่วงลับ ขณะยังคงเรียกร้องไทยคืนเชลยศึก 18 นาย

แม้สถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จะดูเหมือนเข้าสู่ช่วงพักรบอย่างไม่เป็นทางการหลังเหตุปะทะทางทหารที่เกิดขึ้นช่วงปลายเดือนกรกฎาคม แต่บรรยากาศของความสูญเสีย ความโศกเศร้า และความตึงเครียด ยังคงไม่จางหายไปจากทั้งสองฟากฝั่งของชายแดน โดยเฉพาะในประเทศกัมพูชา ที่ล่าสุด ได้มีการจัดพิธีกรรมทางศาสนาอันยิ่งใหญ่ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่เหล่าทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะดังกล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้ประเทศไทยส่งตัวทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ยังอยู่ในการควบคุมของฝ่ายไทย กลับคืนอย่างเร่งด่วน

 

ขบวนพระสงฆ์ 350 รูป เดินสวดมนต์กลางกรุงพนมเปญ

เมื่อค่ำคืนของวันที่ 2 สิงหาคม 2568 ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้ถูกบันทึกไว้ท่ามกลางกลิ่นธูปควันเทียน และเสียงบทสวดที่กึกก้องกลางกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา โดยคณะสงฆ์จำนวนกว่า 350 รูป นำโดย สมเด็จพระอุดมปัญญา ยน สิ่ง เบียต เจ้าอาวาสวัดอุณาโลม ได้จัดพิธีเดินขบวนสวดมนต์หน้า พระบรมราชวังพนมเปญ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่เหล่าทหารกัมพูชาที่สละชีวิตในสมรภูมิชายแดน

เสียงสวดมนต์พร้อมคำประกาศกึกก้องจากเครื่องขยายเสียงตอกย้ำข้อความว่า:

 "กัมพูชาต้องการสันติภาพ! ขอขอบคุณสมเด็จเดโช ฮุน เซน และสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต สำหรับความพยายามในการแสวงหาการหยุดยิงเพื่อชาติ"

ในบรรยากาศของค่ำคืนนั้น แม้จะเต็มไปด้วยความอาลัยและเศร้าโศก แต่ขณะเดียวกันก็สะท้อนภาพของความสงบ ความร่วมแรงร่วมใจ และความเชื่อมั่นในกระบวนการทางการทูตของรัฐบาลกัมพูชา ที่นำโดยสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานวุฒิสภา และ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน

 

การกลับคืนของประชาชน กับคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ

แม้เหตุปะทะจะยุติลงเป็นการชั่วคราว หลายครอบครัวที่เคยอพยพออกจากพื้นที่ชายแดนได้เริ่มทยอยกลับเข้าสู่บ้านเรือนของตน แต่ในขณะที่ความหวังเริ่มฉายแววในสายตาของผู้คน เสียงสวดมนต์ที่ยังไม่ทันจางหายก็ถูกแทนที่ด้วยคำถามเร่งด่วนจากกัมพูชาเกี่ยวกับ "ชะตากรรมของทหารกัมพูชา 18 นาย" ที่ยังไม่ได้รับการส่งตัวคืนจากฝ่ายไทย

กลาโหมกัมพูชาทวงคืนเชลยศึก 18 นาย ผ่านเวทีแถลงข่าว

เช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2568 ที่กรุงพนมเปญ พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้จัดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนทั้งในประเทศและสื่อระหว่างประเทศ โดยกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า:

 "สำหรับทหารของเรา 18 นายที่อยู่ในการควบคุมของฝ่ายไทยตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 29 กรกฎาคม จนถึงขณะนี้ฝ่ายไทยยังไม่ได้ส่งตัวกลับคืน มีเพียงทหารที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นายที่เราได้รับตัวกลับมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมเท่านั้น"

เธอย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า กัมพูชาขอเรียกร้องอย่างเป็นทางการและต่อเนื่องให้ไทยดำเนินการส่งตัวทหารที่เหลือกลับประเทศตามหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยยืนยันว่ากัมพูชาไม่ได้มองทหารเหล่านี้ว่าเป็นนักโทษหรือศัตรู แต่เป็นผู้ที่พลัดหลงและอยู่ในสถานการณ์ที่เกินควบคุม

เบื้องหลังเหตุปะทะ: ความตึงเครียดสะสมจากปัจจัยเชิงยุทธศาสตร์

แม้จะไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับสาเหตุของเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงในภูมิภาคเชื่อว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจมีรากฐานมาจากความเคลื่อนไหวของกองกำลังในพื้นที่ยุทธศาสตร์ซึ่งมีความละเอียดอ่อน

แหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อจากกัมพูชาให้ข้อมูลว่า จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ใกล้แนวพรมแดน ซึ่งยังไม่มีการตกลงแบ่งเขตแดนอย่างชัดเจน และมีประวัติของความขัดแย้งซ้ำซากในอดีต เช่น กรณีข้อพิพาทรอบบริเวณปราสาทพระวิหาร หรือเส้นแนวเขตที่ยังคงมีการตีความไม่ตรงกันระหว่างสองประเทศ

 

ประชาคมโลกจับตา การทูตจะเป็นทางออกหรือไม่

จากความเคลื่อนไหวทางการทูตของกัมพูชา โดยเฉพาะการเดินหน้าเรียกร้องผ่านสื่อและแถลงข่าวต่อประชาคมโลก ทำให้ประเด็นนี้กลายเป็นที่สนใจของหน่วยงานต่างประเทศ รวมถึงองค์การสหประชาชาติ (UN) และองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่จับตามองสถานการณ์ดังกล่าวในเชิงสิทธิมนุษยชนของเชลยศึก

นอกจากนี้ มีรายงานว่าประเทศสมาชิกอาเซียนบางประเทศเริ่มแสดงความกังวลและเตรียมขอให้มีการหารืออย่างไม่เป็นทางการในเวทีภูมิภาค เพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแยงทวีความรุนแรงไปมากกว่านี้

เสียงสะท้อนจากประชาชน: สันติภาพคือคำตอบสุดท้าย

ภายใต้ภาพพิธีกรรมทางศาสนา เสียงสวดมนต์ และน้ำตาของครอบครัวทหารผู้ล่วงลับ ยังมีอีกหนึ่งเสียงที่ดังกึกก้องไปทั่วกัมพูชา นั่นคือเสียงของประชาชนที่ต้องการ "สันติภาพ" อย่างแท้จริง

ตามรายงานของ Fresh News สื่อใหญ่ในกัมพูชา ประชาชนจำนวนมากออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งโซเชียลมีเดีย และสื่อภายในประเทศ แสดงความเสียใจต่อเหตุปะทะ และวิงวอนให้ผู้นำทั้งสองประเทศหันหน้าหารือกันด้วยวิถีทางสันติ โดยไม่ให้ลูกหลานของตนต้องตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือการทหารอีกต่อไป

 

บทเรียนจากสงคราม: เมื่อคำภาวนามีค่ามากกว่าคำสั่งยิง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้สอนให้ทั้งสองประเทศเห็นว่า “เสียงสวดมนต์” และ “คำภาวนา” นั้นมีพลังมากกว่า “เสียงปืน” หรือ “คำสั่งยิง” ไม่ว่าเหตุปะทะจะมีต้นตอมาจากเรื่องใด แต่สิ่งที่ประชาชนสองฟากฝั่งต้องการเหมือนกันคือ "ความสงบสุข"

พระสงฆ์ 350 รูปที่เดินขบวนเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ไม่ได้เพียงแต่สวดเพื่อดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ แต่ยังสะท้อนเจตจำนงร่วมของคนทั้งชาติที่ต้องการหลุดพ้นจากวงจรของความขัดแย้ง

สรุป: เมื่อการทูตยังมีโอกาส ความหวังยังไม่ดับ

แม้สถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชาในช่วงเวลานี้จะเปราะบางและซับซ้อน ท่ามกลางการสูญเสียและข้อเรียกร้องที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง แต่ก็ยังคงมี “ความหวัง” ที่ทุกฝ่ายจะสามารถใช้เวทีการทูตเป็นพื้นที่พูดคุยและหาทางออกร่วมกัน

ขบวนพระสงฆ์ 350 รูปในค่ำคืนนั้นจึงไม่ใช่เพียงการแสดงออกเชิงศาสนาเท่านั้น แต่คือ "เสียงเรียกร้อง" ที่ส่งผ่านไปยังรัฐบาล ผู้มีอำนาจ และประชาคมโลก ว่า... "สันติภาพ" ยังคงเป็นคำตอบสุดท้ายที่เราทุกคนควรยึดถือ

 

 

เนื้อหาโดย: bbb1236555
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bbb1236555's profile


โพสท์โดย: bbb1236555
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้มะเขือตอแหล : ชื่อเจ็บจี้ด แต่คุณค่าประโยชน์ล้ำเลิศดราม่ารับปีใหม่! เที่ยวชะอำเจอ "ค่าเก้าอี้ 600"ภาพนี้ที่รอคอย !!! ทหารไทยนำตู้คอนเทนเนอร์ไปวางกั้นพรมแดนบ้านหนองจาน ตามเส้นเขตแดน 1:50000 เป็นที่เรียบร้อยนักร้องดัง "ไช่ อีหลิน" ยืนร้องเพลงและเต้น บนหัวงูยักษ์ผักขม และผักโขม ความอร่อยที่แตกต่าง หอมหวานทานนุ่มลื่นกับส้มตำ100 อันดับของหวานยอดเยี่ยมปี 2025ชายที่อ้วนที่สุดในโลกเสียชีวิตแล้วสสจ.โคราชเตือนประชาชนป้องกันโรคไข้หูดับ หลังพบผู้ป่วยมากที่สุดในประเทศและมีผู้เสียชีวิต 13 ราย แนะนำระวังเมนูหมูกระทะและหมูสุกๆ ดิบๆ ในช่วงปีใหม่อดีตนายกหญิงคนแรกของบังกลาเทศ "คาเลดา เซีย" เสียชีวิตแล้ว"พงศาวดารโกโก้: จากโอสถศักดิ์สิทธิ์สู่ปีศาจผู้เย้ายวน"นักเรียนดีเด่นวัย 12 เสียชีวิตหลังจากเลียนแบบฉากจากซีรี่ส์เรื่อง Squid Game
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ทำไมสีของนมเปรี้ยว กับนมธรรมดาถึงต่างกัน?ทำไมคนเกิดก่อนปี 2535 ควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี จริงหรือไม่คนเกิดก่อนปี 2535 เสี่ยงมะเร็งตับ 100 เท่าดราม่ารับปีใหม่! เที่ยวชะอำเจอ "ค่าเก้าอี้ 600"เปิดอายุแท้จริงของ น้องจินนี่ ลูกสาว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทำให้หลายคนเข้าใจผิด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ขุดวีรกรรม "โดม ปกรณ์" นี่ไม่ใช่ครั้งแรกคุกคามเพศหญิง แซวนักแสดงญี่ปุ่น "รหัสอะไร"อินเดียบุกเสียมราฐ! ดราม่าชายแดน–เที่ยวบินตรง ดันกัมพูชากลายเป็นจุดหมายใหม่ นักท่องเที่ยวไทยวูบหยุดยิvแต่ไม่หยุดแสบ! สื่อนอกแฉกัมพูชาส่งโดรนกว่า 250 ลำ ละเมิดน่านฟ้าไทย ชี้โยงจีนเลี่ยงไม่พ้น12 ฉายาคนกีฬาแห่งปี 2568.จากสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย
ตั้งกระทู้ใหม่