พรรคประชาชน ออกแถลงการณ์กรณีโรงพยาบาลดัง งดรักษาคนไข้เขมร ว่าขอให้ยึดหลักมนุษยธรรม อนุสัญญาเจนีวา ไม่เลือกปฏิบัติ
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาได้มีการต่อสู้กันนั้นซึ่งกัมพูชาได้มีการยิงระเบิดเข้ามาบริเวณโรงพยาบาล บริเวณพลเรือนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงการกระทำที่ไม่เคารพกติกาของกัมพูชา
ดังนั้นการต่อสู้ของไทยเเละกัมพูชาจึงมีความตึงเครียด อย่างต่อเนื่องในการต่อสู้เป็นเวลา 5 วัน ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะมีการเจรจาหยุดยิงในเที่ยงคืนของวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 จากกรณีดังกล่าวข้างต้นนั่นเองล่าสุด
รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลฯ งดรับผู้ป่วยกัมพูชาและจำกัดพื้นที่ เหตุสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด
สืบเนื่องจากกรณีที่โรงพยาบาลรพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลฯ งดรับผู้ป่วยกัมพูชา ได้มีความเคลื่อนไหวจากทาง พรรคประชาชน ออกแถลงการณ์กรณีโรงพยาบาลดัง งดรักษาคนไข้เขมร ว่าขอให้ยึดหลักมนุษยธรรม อนุสัญญาเจนีวา ไม่เลือกปฏิบัติ
โดยทางเฟซบุ๊กเพจ พรรคประชาชน - People's Party ได้โพสต์ระบุว่า[ ทางเดียวของไทย คือต้องกอดหลักมนุษยธรรมตามกฎหมายสากล แก้นโยบายเลือกปฏิบัติโดยด่วน ]
จากกรณีที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ออกหนังสือประกาศเรื่องการยกเลิกปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้สื่อสารชาวกัมพูชา และการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชาโดยมีรายละเอียด คือ
1. ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารชาวกัมพูชา และจิตอาสาต่างประเทศ
2. ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว
3. ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา
4. ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ให้จำกัดพื้นที่ให้ชัดเจน
มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 10 สิงหาคม 2568
พรรคประชาชนมีความเห็นว่า ประเทศไทยจะสามารถหยัดยืนในเวทีนานาชาติได้อย่างภาคภูมิใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงสถานการณ์การใช้กำลังปะทะกันระหว่างประเทศนั้น ก็ด้วยการยึดมั่นหลักมนุษยธรรมและหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นหลักประกันว่าประเทศไทยจะไม่ดำเนินการใดๆ ที่ทำให้ไทยเสียเปรียบในเวทีระหว่างประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อนุสัญญาเจนีวา 4 ฉบับ ลงวันที่ 12 สิงหาคม 2492 โดยประเทศไทยได้ลงนามเมื่อปี 2497 ว่าด้วยกฎการทำสงครามและหลักสิทธิมนุษยชนในยามสงคราม โดยเฉพาะ ภาค 2 ข้อ 12 “ผู้สังกัดในกองทัพและบุคคลอื่นที่จะได้กล่าวถึงในข้อต่อไปนี้ ซึ่งบาดเจ็บหรือป่วยไข้ จะต้องได้รับความเคารพและคุ้มครองในทุกพฤติการณ์ บุคคลเหล่านี้ จะต้องได้รับการปฏิบัติและรักษาพยาบาลด้วยมนุษยธรรมโดยคู่พิพาทซึ่งตนตกอยู่ในอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงลักษณะความแตกต่างอันเป็นผลเสื่อมเสียเนื่องมาแต่เพศ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง หรือเหตุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน…”
การเลือกปฏิบัติของโรงพยาบาลในการรักษาผู้ป่วย ถือว่าขัดต่อหลัก International Humanitarian Law จะทำให้ประเทศไทยเสียหายมากในเวทีโลก และเสี่ยงต่อการถูกกัมพูชานำไปขยายผลในเวทีระหว่างประเทศ
พรรคประชาชนได้รับข้อมูลว่ากระทรวงสาธารณสุขและแพทยสภา รวมถึง ศบ.ทก. ได้รับแจ้งเรื่องนี้แล้ว ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกแนวปฏิบัติที่ชัดเจนสอดคล้องกับหลักสากล
พรรคประชาชนขอย้ำอีกครั้งว่าความขัดแย้งครั้งนี้เป็นเรื่องระหว่างรัฐต่อรัฐ เราไม่ต้องการให้ความขัดแย้งบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งเกลียดชังระหว่างประชาชนเพราะถึงที่สุดแล้ว ไทยและกัมพูชายังจะต้องกลับมามีความสัมพันธ์ต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีการติดต่อแลกเปลี่ยนทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไป
งานนี้มีเสียงแตก ชาวเน็ตต่างคอมเม้นต์ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยเลยทีเดียว แล้วเพื่อนๆในโพสต์จังคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้บ้าง คอมเม้นต์แชร์ความคิดเห็นกันได้เลยครับ! (คอมเม้นต์ด้วยคำสุขภาพนะครับ มาแชร์ความคิดเห็นกัน)
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/share/p/1CraQJ56d3/
https://www.facebook.com/share/p/175Da432uF/





















