ผู้นำทหารมาเล เข้าพบแม่ทัพภาคที่ 1-2 เป็นการด่วน
วันนี้ เพจเฟสบุ๊ก "Army Military Force - สำรอง" โพสต์ว่า "ด่วน! พลเอก "ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์" ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย เข้าหารือแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นการด่วน เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนส่งทีมสังเกตการณ์ลงพื้นที่..."
พลตรี "วินธัย สุวารี" โฆษกกองทัพบก เปิดเผยผลการประชุมหารือระหว่าง พลเอก "ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์" ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย กับแม่ทัพภาคที่ 2 และแม่ทัพภาคที่ 1 ในโอกาสนำคณะเดินทางเข้าหารือ รับทราบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
"ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์" ได้พบปะหารือกับ พลโท "บุญสิน พาดกลาง" แม่ทัพภาคที่ 2 ณ กองบินที่ 21 จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อรับฟังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ชี้แจงถึงมูลเหตุของสถานการณ์ก่อนจะนำมาสู่การสู้รบกันของทั้งสองประเทศ ทั้งในเรื่องของความเห็นต่างเรื่องแผนที่ และ แนวทางการแก้ไขสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยยึดแนวทางสันติ หากมีปัญหา ฝ่ายไทยจะใช้การประท้วงการละเมิดตาม MOU ส่วนฝ่ายกัมพูชาเลือกใช้การวางกำลังทหาร และ วางทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาท ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา รวมถึงมีการใช้มวลชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งสถานการณ์ได้เกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง จนฝ่ายกัมพูชาตัดสินใจเริ่มการปะทะที่ปราสาทตาเมือนธม หลังจากที่ฝ่ายไทยได้ทำการปิดพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และ ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ"
"ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์" ได้แสดงความเข้าใจในบริบทของทั้ง 2 ฝ่าย และ เสนอให้ใช้กลไกความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ จากผลการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศ ได้ตกลงร่วมกัน ในการจัดผู้ช่วยทูตทหารกลุ่มอาเซียน เข้าสังเกตการณ์ในพื้นที่ของไทยและกัมพูชา ก่อนการประชุม GBC ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม 2568
"ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์" ยังได้กล่าวอีกว่า "ในกรณีที่ฝ่ายไทยรู้สึกว่าถูกยั่วยุ เสนอให้ใช้กลไกประสานงานผ่านผู้ช่วยทูตทหารไทย-มาเลเซีย หรือ คณะประสานงานที่จัดตั้งไว้ เข้าแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย" พร้อมย้ำว่า "การหยุดยิงจะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งมาเลเซียพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ฝ่ายมาเลเซียยังสอบถามเรื่องทหารกัมพูชาที่อยู่ภายใต้การควบคุม ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าได้ดำเนินการและดูแลอย่างเหมาะสมตามหลักมนุษยธรรม" และ "จะเร่งส่งกลับภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ"
กองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยผลการหารือระหว่าง "ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์" กับ พลโท "อมฤต บุญสุยา" แม่ทัพภาคที่ 1 ณ กองทัพภาคที่ 1 กรุงเทพมหานคร โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซียกล่าวว่า "มาเลเซียพร้อมจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง ในการทำให้เกิดความสงบและสันติสุข ในภูมิภาคชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเตรียมจัดตั้งทีมผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ และ ทีมสังเกตการณ์อาเซียน เพื่อสังเกตการณ์หยุดยิงและรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ให้กลุ่มประเทศอาเซียนได้รับทราบข้อเท็จจริง"
"ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์" เน้นว่า "จุดมุ่งหมายคือสันติภาพ โดยเสนอ 3 ข้อหลัก ได้แก่ 1. หยุดยิงในทันที, 2. ห้ามเพิ่มกำลังทหาร และ 3. เน้นความช่วยเหลือทางการแพทย์ พร้อมแนะให้ฝ่ายไทยประสานกับกัมพูชาแบบไม่เป็นทางการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว..."
ในส่วนของแม่ทัพภาคที่ 1 ได้สรุปสถานการณ์หลังการหยุดยิง และ ผลการพบปะกับผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ของฝ่ายกัมพูชาให้ "ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์" ได้รับทราบ พร้อมยืนยันว่า "ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด" และ "ยินดีให้การสนับสนุนทีมสังเกตการณ์ที่จะตั้งขึ้นต่อไป..."
อ้างอิง: เพจเฟสบุ๊ก "Army Military Force - สำรอง"






















