🔥 ไทย-กัมพูชา หยุดยิงแต่ยังมีการยิงข้ามเส้นเขตแดน — ต่อไปจะทำอย่างไร?
1. 🇹🇭 การดำเนินการของไทยหลังพบการยิงข้ามเส้นหยุดยิง
ไทยได้ยื่น คำร้องทางการต่อ ASEAN, สหรัฐฯ และจีน เพื่อแจ้งให้รับทราบกรณีที่ฝ่ายกัมพูชายังยิงเข้ามา หลังข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมีผลเพียงไม่กี่ชั่วโมง
พล.อ.ภูมิธรรม เวชชยะชัย และโฆษกรัฐบาลยืนยันว่ามีการตอบโต้ตามสิทธิ์ “ป้องกันตัวเองอย่างเหมาะสม” โดยไม่มีการขยายปฏิบัติการ
2. 🤝 การประชุมระดับทหารและกลไกบูรณาการ
เมื่อเช้าวันที่ 29 ก.ค. ผู้บัญชาการกองทัพไทยและกัมพูชาเจรจาฉุกเฉินเพื่อ **ยุติการเคลื่อนกำลัง ทหารต้องหยุดเพิ่มจำนวน และตั้งทีมประสานร่วม (4 ฝ่าย)**
ทั้งสองฝ่ายตกลงจะจัดประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee – GBC) ในวันที่ 4 สิงหาคม เพื่อหารือแนวทางระยะยาว
3. 🕵️ การติดตามผลและผู้สังเกตการณ์ภายนอก
มีการเรียกร้องให้มี ผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศ เข้ามาตรวจสอบการปฏิบัติตามหยุดยิง เช่น เจ้าหน้าที่จากจีน สหรัฐฯ และมาเลเซีย
4. 📌 ปัญหาระยะยาวและบทบาทของฝ่ายผู้มีบทบาท
ข้อตกลงหยุดยิงเกิดขึ้นภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ ที่ขู่ว่าจะขึ้นภาษี 36% หากความรุนแรงยังดำเนินต่อไป และได้รับการประสานจากมาเลเซียและจีน
นักวิเคราะห์เตือนว่าทั้งสองฝ่ายยังยึดถือผลประโยชน์ทางการเมืองภายใน และหากไม่แก้ไขข้อพิพาทเขตแดนตามแผนที่ระบบจากยุคล่าอาณานิคม อาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำได้ใหม่
---
📋 สรุป “ทางออก” ของทั้งสองฝ่าย
มิติ แนวทางของไทยที่ดำเนินการ แนวทางที่รอปฏิบัติในอนาคต
การประสานนานาชาติ ยื่นเรื่องต่อ ASEAN, สหรัฐฯ, จีน ให้ผู้สังเกตการณ์มาเฝ้าดูสถานการณ์
การควบคุมชายแดน ห้ามเคลื่อนกำลังเพิ่ม ปฏิบัติตามข้อตกลง ประชุม GBC วันที่ 4 ส.ค. เพื่อแก้ไขข้อพิพาท
การป้องกันตนเอง ตอบโต้แบบป้องกันในจุดที่ถูกปะทะ ร่วมสร้างกลไกตรวจสอบกรณีละเมิด
การดำเนินการเศรษฐกิจ ใช้มาตรการการค้ากดดันผ่านสหรัฐฯ รักษาเสถียรภาพทางการค้าหากการเจรจาล่ม
---
🧭 โดยรวมแล้ว แม้สถานการณ์ดูสงบในภาพใหญ่ แต่ ความไม่เชื่อใจระหว่างฝ่ายยังอยู่ และข้อตกลงหยุดยิงยังเปราะบางอย่างเห็นได้ชัด
ไทยเน้นการใช้แรงกดดันทางการค้าและการยื่นเรื่องในเวทีนานาชาติ
การประชุมในวันที่ 4 สิงหาคม และบทบาทของผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเท
ศ จะเป็นตัวชี้ชะตาว่าข้อตกลงนี้จะยืนยาวหรือไม่
















