ข่าวเช้าหยุดยิงยังดำรงอยู่…แต่รู้สึกสั่นคลอน30/7/68
ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทย–กัมพูชาเริ่มมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม ตามการเจรจาที่มาเลเซียภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯและจีน แม้ว่าจะมีรายงานการละเมิดข้อตกลงในบางจุด เช่น ที่ภูมะเขือ (Phu Makhuea) ฝ่ายไทยระบุว่าพบการยิงซ้ำ แม้กัมพูชาจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและเชิญให้มีผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศมาเฝ้าดูสถานการณ์
👥 การหารือระดับกองทัพ
ผู้บัญชาการทหารไทย-กัมพูชาจัดประชุมร่วมตามข้อตกลงเพื่อวางมาตรการรักษาสันติภาพ เช่น งดเคลื่อนกำลัง จัดตั้งทีมประสานงาน 4 ฝ่าย และจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) อีกครั้งในวันที่ 4 สิงหาคม
🧍 ผลกระทบต่อประชาชน
มีผู้เสียชีวิตประมาณ 38–43 คน โดยเน้นที่พลเรือน ส่วนผู้ไร้ที่อยู่อาศัยข้ามฝั่งรวมกว่า 300,000 คน ทั้งชาวไทยและกัมพูชา และเริ่มมีประชาชนทยอยกลับบ้านแล้ว แต่หลายคนยังระมัดระวังสถานการณ์
💰 ความเสียหายทางเศรษฐกิจ & มาตรการช่วยเหลือ
ทางการไทยประเมินความเสียหายเบื้องต้นไว้กว่า 10,000 ล้านบาท (ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และจัดงบเยียวยา 25,000 ล้านบาท สำหรับฟื้นฟูสาธารณูปโภค บ้านเรือน และกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการผ่อนปรนดอกเบี้ย เงินกู้และลดหย่อนภาษี
🌐 บทบาทระหว่างประเทศ
สหรัฐฯ โดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อ้างว่าเขาเป็นผู้นำการเจรจาหยุดยิง และได้ใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจ (เช่น ขู่เก็บภาษี 36%) เป็นโอกาสให้นานาชาติเข้ามามีบทบาท
การเจรจาจัดขึ้นภายใต้การประสานของมาเลเซีย (อันวาร์ อิบราฮิม) และมีตัวแทนจากจีนร่วมสังเกตการณ์
---
✅ สถานะภาพรวม (30 กรกฎาคม 2025)
ประเด็นหลัก สถานะล่าสุด
การหยุดยิง อยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีรายงานละเมิดบางจุด ฝ่ายไทยกล่าวอ้าง กัมพูชาปฎิเสธ
การเจรจาทางทหาร ดำเนินการตามข้อตกลงร่วม คณะกรรมการชายแดนจะประชุมวันที่ 4 ส.ค.
ผู้เสียชีวิตและไร้บ้าน ฆ่ายราว 40 คน, มากกว่า 300,000 คนไร้ที่อยู่อาศัยจากทั้งสองฝ่าย
ความเสียหายทางเศรษฐกิจ กว่า 10,000 ล้านบาท ไทยเยียวยา 25,000 ล้านบาท
แรงกดดันระหว่างประเทศ สหรัฐฯ, มาเลเซีย และจีนมีบทบาทสำคัญในการนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงสถานที่ที่ไทยระบุว่ามีการละเมิดหยุดยิง
ตามคำแถลงของกองทัพบกไทย โดยโฆษกใหญ่ฯ พลตรี วินทัย สุวรี ระบุว่า เหตุการณ์ยิงเกิดขึ้นอย่างน้อย 5 จุด ได้แก่:
ช่องอานม้า (Chong An Ma)
ช่องบก (Chong Bok)
ปราสาทตาควาย (Prasat Ta Kwai)
ภูมะเขือ (Phu Makhuea)
และบริเวณ สมเต (Sam Tae)
ซึ่งฝ่ายไทยระบุว่าตอบโต้ตามสิทธิในการป้องกันตัวอย่างเหมาะสม
---
🔎 รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบางจุดสำคัญ
ภูมะเขือ (Phu Makhuea): นับเป็นจุดที่มีรายงานการปะทะซ้ำหลังหยุดยิง ฝ่ายไทยบอกว่าได้รับการยิงเข้าไปในพื้นที่ไทย แม้กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และเชิญชวนให้มีผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ
บริเวณโอสมาช (O Smach) ใกล้จุดผ่านแดน อำเภออุดรเขตฯ จังหวัดสุรินทร์: รายงานการได้ยินเสียงปืนและระเบิด ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนลูกหลง
จุดอื่นๆ อีกประมาณ 5 พื้นที่: เป็นการรายงานระดับกว้างว่าเกิด "การโจมตี" หลายจุดในช่วงเช้าหลังหยุดยิง Sãoเฉลี่ย ซึ่งฝ่ายไทยกล่าวว่ามีการยิงลักษณะกระจัดกระจาย แต่ไม่มีการยืนยันตำแหน่งอย่างละเอียดทั้งหมด
---
🛑 สถานะภาพรวม
ผู้บัญชาการทหารไทยและกัมพูชายืนยันว่าไม่มีการบานปลาย สถานการณ์ยัง "สงบ" ในภาพรวม
ทั้งสองฝ่ายตกลงให้ผู้บัญชาการระดับกองทัพหารือร่วมแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ยังไม่มีการประชุมแบบลงรายละเอียดในพื้นที่ปะทะหลักในทันที แม้จะแจ้งกำหนดพบกันที่ด่านช่องชุม (จังหวัดสุรินทร์) แต่ถูกเลื่อนโดยยังไม่กำหนดใหม่
---
📋 สรุปสถานการณ์
จุดที่มีรายงานยิง รายละเอียด
ช่องอานม้า, ช่องบก, ปราสาทตาควาย, ภูมะเขือ, สมเต ฝ่ายไทยรายงานว่าถูกยิงหลังหยุดยิง และตอบโต้ในสิทธิตามระบบ
O Smach (ใกล้จังหวัดสุรินทร์) มีการรายงานกระสุนลูกหลง ถูกยิงหรือคลุ้งจากการยิงข้ามเขต
จุดอื่นๆ หลายพื้นที่ รายงานการยิงกระจัดกระจายในช่วงเช้าของวันที่ 29 ก.ค. โดยไม่ระบุตำแหน่งชัดเจน
---
ℹ️ หมายเหตุ
ฝ่ายกัมพูชา ปฏิเสธข้อกล่าวหาการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงทั้งหมด และเชิญให้มีผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศมาตรวจสอบความสงบสงบตามข้อตกลง



















