กองทัพภาคที่ 2 ยัน "เขมรละเมิดข้อตกลหยุดยิง"
วันนี้ เพจเฟสบุ๊ก "กองทัพภาคที่ 2" ได้โพสต์ว่า "ฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พบการก่อกวนและการใช้อาวุธโจมตี เข้ามาในหลายพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้กลับตามสถานการณ์" และ "กองทัพบก ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา โดยหลังจากฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง หลังเวลา 00.00 น." และ "เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในแนวหน้าอย่างใกล้ชิด"
หน่วยทหารในพื้นที่ได้รายงาน พบการปฏิบัติทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ในหลายเหตุการณ์ตลอดคืนจนถึงช่วงเช้า โดยพบการก่อกวนและใช้อาวุธยิงสนับสนุนเข้ามา ในพื้นที่ฝ่ายไทย ในหลายพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ช่องบก, พื้นที่ช่องอานม้า, พื้นที่ซำแต, พื้นที่ปราสาทตาควาย และพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งฝ่ายไทยได้ตอบโต้ตามสถานการณ์ โดยใช้กำลังในแนวหน้าและอาวุธยิงสนับสนุน เพื่อยับยั้งการปฏิบัติดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา
จากกรณีดังกล่าว โฆษกกองทัพบก พลตรี "วินธัย สุวารี" ได้ออกแถลงการณ์ว่า "ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบ ทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน"
กองทัพบกขอเรียนว่า "ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง" และ "ยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกัน ของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว" และ "ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตรการ โต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล"
นอกจากนี้โฆษกกองทัพบก ยังได้เปิดเผยถึงกำหนดการพบปะผู้นำหน่วยทหาร ในพื้นที่ของทั้ง 2 ฝ่ายที่มีแผนพบกันในช่วงเช้าของวันนี้ว่า "ยังคงมีความพยายามในการเดินหน้า พบปะพูดคุยกันของผู้นำทางทหารทั้ง 2 ประเทศ" และ "ขณะนี้ทราบว่ามีการปรับเวลาแล้ว ส่วนเรื่องรายละเอียดอื่นๆ จะได้มีการเปิดเผยให้ทราบอีกครั้ง"
อ้างอิง: เพจเฟสบุ๊ก "กองทัพภาคที่ 2"






















