โฆษกไทยโต้โฆษกเขมรยับ!!
วันนี้ เพจเฟสบุ๊ก "สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว" ได้โพสต์ว่า "โฆษก ทบ. โต้ "มาลี" โฆษกกลาโหมกัมพูชา ยันไทยรักสงบ อดทนมาตลอด แต่กัมพูชาบีบบังคับใช้กำลังก่อน ทั้งยังใช้อาวุธหนักถล่มเป้าหมายพลเรือน ใช้เด็ก-ผู้หญิงโฆษณาชวนเชื่อ หวังหลอกประชาคมโลกให้เข้าใจว่าตัวเองคือผู้ถูกกระทำ"
พลตรี "วินธัย สุวารี" โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณี พล.ท.หญิง "มาลี โสเจียตา" โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวหาไทยสร้างเรื่องเท็จ หาความชอบธรรมเพื่อรุกรานกัมพูชา ว่าไทยเป็นประเทศที่รักสงบ ไม่คิดรุกรานใครอย่างที่มีการกล่าวอ้าง กรณีมีปัญหาก็จะใช้แนวทางสันติวิธี อาศัยความอดทนอดกลั้นมาตลอด แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้บีบบังคับ เป็นฝ่ายเริ่มต้นในการใช้กำลังก่อน ฝ่ายไทยจึงจำเป็นจะต้องใช้สิทธิ์ในการป้องกันตนเอง เนื่องจากถูกรุกราน
ในช่วงที่ผ่านมา พบว่าฝ่ายกัมพูชามักละเมิดในกฎกติกา และหลักมนุษยธรรมสากล มีการใช้จรวดพิสัยไกลแบบไม่เลือกเป้า ใช้อาวุธปืนใหญ่ และ จรวด ยิงถล่มใส่ชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหารอยู่หลายครั้ง ชัดเจนว่าเป็นการจงใจโจมตีเป้าหมายพลเรือน รวมถึงการนำอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตั้งในเขตชุมชน เพื่อหลีกเลี่ยงการตอบโต้กลับ ถือเป็นการใช้ "โล่ห์มนุษย์" ซึ่งผิดอนุสัญญาเจนีวา อีกทั้งมีการใช้เด็กและผู้หญิงเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อหลอกลวงสายตาประชาคมโลก หวังให้เข้าใจว่าตัวเองคือผู้ถูกกระทำ สิ่งต่างๆ ที่กล่าวไปในข้างต้น เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ขอเรียนว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายที่กำลังพยายามบิดเบือนสายตาของประชาคมระหว่างประเทศ ไม่ใช่ฝ่ายไทย
ส่วนกรณีการพบกระสุนปืนใหญ่ไปตกที่ชายแดนของ สปป.ลาว จำนวนมากถึง 10 นัดนั้น ในพื้นที่บริเวณนั้นมีเพียงไทยและกัมพูชาเท่านั้นที่มีการใช้อาวุธต่อกันในช่วงนี้ และเมื่อฝ่ายไทยยืนยันแล้วว่าปืนใหญ่ของไทย ไม่มีการยิงไปยังทิศทางในพื้นที่นั้น จึงคิดเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นการยิงไปโดยปืนใหญ่ของทางฝ่ายกัมพูชา ประกอบกับที่ผ่านมา กัมพูชามีการใช้อาวุธยิงระยะไกล ทั้งปืนใหญ่ และจรวด ผิดพลาดต่อเป้าหมายอยู่บ่อยครั้ง
กองทัพไทยยืนหยัดในการป้องกันตนเอง ป้องกันการรุกราน และปกป้องอธิปไตย โดยใช้กำลังทางทหารตามตวามเหมาะสมของสถานการณ์ ภายใต้กฎกติกาหลักสากล
เพจเฟสบุ๊ก "สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว"
















