ดราม่าศรัทธา! เจ้าอาวาสวัดชะอวดสึก หลังถูกกล่าวหาคบชู้เมียชาวบ้าน
สึกแล้ว! เจ้าอาวาสวัดดัง อ.ชะอวด แชตสยิวเมียชาวบ้าน ยอมรับมั่วสีกาจริง แต่ปฏิเสธนำเงินวัดปรนเปรอสาว
กลายเป็นข่าวฉาวที่สั่นสะเทือนวงการพระสงฆ์และศรัทธาของชาวพุทธ เมื่อมีกรณีเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ตกเป็นข่าวอื้อฉาวว่าแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกา ซึ่งต่อมาปรากฏว่าเป็น “เมียชาวบ้าน” โดยมีการแชตข้อความสยิวที่หลุดออกมาสู่สื่อสังคมออนไลน์ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาชนทั่วไปและชาวบ้านในพื้นที่ที่ร่วมกันเรียกร้องให้เจ้าอาวาสรูปนี้ “สึก” ออกจากสมณเพศทันที
จุดเริ่มต้นของข่าวฉาว: เจ้าอาวาสวัดทุ่งคุ้ม กับแชตสยิวเมียชาวบ้าน
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อชาวบ้านในพื้นที่ ต.นางหลง อ.ชะอวด ได้ร้องเรียนไปยังประธานชมรมนักข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เข้าช่วยตรวจสอบและจัดการกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเจ้าอาวาสวัดทุ่งคุ้ม หมู่ 7 ซึ่งเป็นพระที่ได้รับความนับถือ แต่กลับถูกเปิดโปงว่ามี พฤติกรรมมั่วสีกา โดยการแอบคบหาและมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับภรรยาของช่างในพื้นที่
หลักฐานสำคัญที่ถูกเปิดเผยคือ แชตข้อความสุดสยิว ระหว่างเจ้าอาวาสและฝ่ายหญิง ที่แสดงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งเกินกว่าความเหมาะสม เช่น ข้อความว่า
“พี่กลัวน้องไม่ทำให้พี่”
“ทำสิ อยากอยู่น้องจะทำให้พี่เสียว ใครเสร็จก่อนหรือหลังได้ทั้งนั้น ขอให้มีความสุข”
“พี่สามี น้องรักพี่นะ”
การใช้คำว่า “พี่สามี” โดยฝ่ายหญิง สะท้อนให้เห็นถึงความใกล้ชิดที่ผิดศีลสมณเพศอย่างชัดเจน และยิ่งทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอใจ จนมีการจับกลุ่มเตรียมรวมตัวประท้วงและขับไล่เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวออกจากวัด
ความเคลื่อนไหวล่าสุด: เจ้าอาวาสสึกแล้วหลังยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา
หลังจากข่าวดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์ รวมถึงสื่อมวลชนในท้องถิ่น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดหนองจิก ต.นางหลง อ.ชะอวด ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการประกอบพิธีลาสิขาหรือการสึกออกจากพระภิกษุให้กับพระครูใบฎีกาสมชาย วิสุทธสีโล หรือ “หลวงเอียด” เจ้าอาวาสวัดทุ่งคุ้ม ที่ตกเป็นข่าวฉาว
พระครูโกศลรัตนธรรม เจ้าอาวาสวัดหนองจิก และเจ้าคณะตำบลกิติมาศักดิ์ เป็นผู้ประกอบพิธีลาสิกขา โดยเปิดเผยว่า
“อดีตพระหลวงเอียดได้เดินทางมาพบอาตมาเพื่อขอลาสิขา โดยได้สารภาพทุกอย่างตามที่เป็นข่าวว่าเป็นความจริงทั้งหมด อาตมาจึงดำเนินการสึกให้ทันทีตามระเบียบ”
แม้จะไม่มีการบันทึกภาพหรือเอกสารการสึกไว้เป็นหลักฐาน แต่พระครูโกศลรัตนธรรมยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “สึกจริงแล้วแน่นอน”
ประเด็นเรื่องเงินวัด: ยืนยันไม่ได้ใช้เงินวัดปรนเปรอสีกา
อีกหนึ่งประเด็นร้อนที่ตามมาก็คือ มีชาวบ้านจำนวนมากตั้งข้อสงสัยว่า เจ้าอาวาสได้นำ เงินวัดหรือเงินทำบุญ ที่ได้รับจากญาติโยมไปใช้เพื่อปรนเปรอสีกาหรือไม่ เพราะมีข่าวลือว่า ฝ่ายหญิงได้รับเงินจำนวนหนึ่งจากพระรูปนี้
ในส่วนนี้ อดีตพระครูใบฎีกาสมชาย หรือ “สมีเอียด” ได้ยอมรับว่าเรื่องการมีความสัมพันธ์กับสีกาเป็นความจริง แต่ยืนกรานว่า เงินที่ให้ฝ่ายหญิงนั้นเป็นเงินส่วนตัว ไม่ใช่เงินวัดหรือเงินทำบุญจากญาติโยม และไม่ได้เป็นจำนวนมากแต่อย่างใด
พระครูโกศลรัตนธรรมยังกล่าวเสริมว่า
“ผมได้แนะนำและสั่งสอนไปแล้วว่า เรื่องที่ผิดไปก็ให้มันจบ อย่าไปก่อเรื่องอีก และอย่าทำให้ศาสนาเสื่อมเสียมากไปกว่านี้”
เสียหายต่อศรัทธา: เมื่อพระแชตสยิวกลายเป็นไวรัล
กรณี พระแชตสยิวกับสีกา ไม่ใช่กรณีแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่ในครั้งนี้กระแสข่าวแรงจนกลายเป็นกระแส “ไวรัล” อย่างรวดเร็ว เพราะเนื้อหาของแชตนั้นชัดเจนเกินกว่าจะปฏิเสธได้ พร้อมคำพูดสื่อทางเพศชัดเจนจำนวนมาก
ชาวบ้านในพื้นที่ต่างรู้สึกผิดหวัง เพราะวัดทุ่งคุ้มถือเป็นวัดที่มีโครงการพัฒนาต่อเนื่อง และได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้านเป็นอย่างดี ชาวบ้านหลายรายยังเผยว่า “ไม่คิดว่าเจ้าอาวาสจะเป็นคนแบบนี้” เพราะภาพลักษณ์ภายนอกดูเคร่งขรึม มีเมตตา และตั้งใจพัฒนาวัดมาตลอด
บทเรียนที่ต้องจดจำ: ความผิดพลาดของพระรูปหนึ่ง ส่งผลกระทบต่อวงการสงฆ์ทั้งประเทศ
กรณี “เจ้าอาวาสมั่วสีกา” ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำลายชื่อเสียงของวัดทุ่งคุ้ม และทำลายความน่าเชื่อถือของพระภิกษุรูปหนึ่งเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อ ภาพลักษณ์ของวงการพระสงฆ์โดยรวม และลดทอนความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจำนวนมากในสังคมไทย
เมื่อพระผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านกลับประพฤติตนไม่เหมาะสม ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงเกินกว่าจะเยียวยาเพียงคำขอโทษ หรือแม้แต่การสึกออกจากพระ
สรุป: เมื่อเจ้าอาวาสผิดศีล เสื่อมศรัทธา จนต้องสึกออกจากสมณเพศ
กรณีเจ้าอาวาสวัดทุ่งคุ้ม อ.ชะอวด ที่ แอบแชตสยิวกับเมียชาวบ้าน และยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจริง แต่ปฏิเสธการนำเงินวัดไปให้ฝ่ายหญิง เป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการ ตรวจสอบพฤติกรรมของพระสงฆ์ และการเรียกร้องให้มีมาตรการที่ชัดเจนในการลงโทษพระที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม
ขณะที่เจ้าคณะสงฆ์และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมมือกันในการ ผลักดันให้ออกจากสมณเพศโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ แต่ความเชื่อมั่นของญาติโยมยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นกลับมาได้
หากคุณมีความคิดเห็นเพิ่มเติมต่อเหตุการณ์นี้ หรือประสบการณ์เกี่ยวกับการพบพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ในพื้นที่ สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อสร้างการตื่นรู้แก่สังคมพุทธได้ในช่องแสดงความเห็นด้านล่าง




















