นักวิชาการชำแหละแนวคิด “กาสิโนไทย” วิจารณ์นโยบายรัฐบาล ปมกระทบความสัมพันธ์จีน-ไทย และความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมและแวดวงวิชาการ ภายหลังจากกรณีการตอบโต้ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายส่งเสริม “บ่อนกาสิโน” ต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวจีน
นายอนุทินได้นำเสนอข้อมูลว่าผลจากการเปิดเผยนโยบายกาสิโนต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนลดจำนวนลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่นางสาวแพทองธารตอบโต้โดยระบุว่า จีนเองก็มีตัวอย่างความสำเร็จจากกาสิโนในมาเก๊า ซึ่งก่อให้เกิดการจ้างงานและเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ดี รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและผลกระทบจากธุรกิจการพนันระดับนานาชาติ ได้ออกมาให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา โดยชี้ว่า นายกรัฐมนตรีของไทยขาดความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และระบบปกครองของจีน โดยเฉพาะกรณีของมาเก๊าซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษภายใต้หลัก “หนึ่งประเทศ สองระบบ” และธุรกิจกาสิโนเริ่มต้นขึ้นโดยรัฐบาลโปรตุเกสในสมัยอาณานิคม ไม่ใช่โดยรัฐบาลจีนแต่อย่างใด
จีนมีจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับการพนัน โดยห้ามทั้งกาสิโนออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงการพนันของพลเมืองจีนในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมาย และรัฐบาลจีนยังเคยออกประกาศผ่านสถานทูตในประเทศต่าง ๆ เช่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ให้พลเมืองหลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องกับการพนันทุกรูปแบบ นอกจากนี้ ยังมีการผลักดันให้ประเทศในอาเซียนระงับกิจกรรมกาสิโนและพนันออนไลน์ เช่น กรณีของลาว กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ที่มีคำสั่งยกเลิกบ่อนและธุรกิจการพนันหลังเกิดเหตุอาชญากรรมร้ายแรงที่เชื่อมโยงกับชาวจีน
แม้จะมีการกล่าวอ้างว่าอุตสาหกรรมกาสิโนในมาเก๊าประสบความสำเร็จ แต่ รัฐบาลจีนมองว่ากาสิโนในมาเก๊าคือรอยด่างทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในช่วงปี 2542 ที่มีคดีฆาตกรรมในหมู่มาเฟียมากกว่า 120 ราย และการใช้มาเก๊าเป็นแหล่งฟอกเงินมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี การปราบปรามอย่างจริงจังภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา ได้ลดบทบาทของกาสิโนลงอย่างมาก เพื่อเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมอื่นที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและถูกต้องตามกฎหมาย
การที่นายกรัฐมนตรีของไทยกล่าวถึงมาเก๊าในฐานะตัวอย่างที่ดีต่อหน้าผู้นำจีน จึงถูกมองว่าเป็น การแสดงให้เห็นถึงความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และนโยบายการทูตเชิงอ่อนไหว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตารัฐบาลจีน
ในขณะเดียวกัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแสดงความเห็นว่านโยบายกาสิโนไทยยังไม่มีการเริ่มดำเนินการ และไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนของนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง อย่างไรก็ดี มีรายงานจากสื่อต่างประเทศบางสำนักที่วิเคราะห์ว่า การเพิ่มระยะเวลาพำนักของนักท่องเที่ยวจีนโดยไม่ต้องขอวีซ่า การไม่ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน และการเติบโตของการพนันออนไลน์ในไทย อาจมีส่วนทำให้ภาพลักษณ์ของไทยในสายตานักท่องเที่ยวจีนกลายเป็น "ดินแดนไม่ปลอดภัย" ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยว
รัฐบาลจีนถึงขั้นส่ง นายหลิวจงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคง มายังประเทศไทยเพื่อหารือและบริหารจัดการในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ
รศ.ดร.ชิดตะวัน สรุปว่า แนวคิดการใช้กาสิโนเป็นเครื่องมือฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล ถือเป็น นโยบายที่ไร้ทิศทางและขาดความเข้าใจบริบทระหว่างประเทศ เพราะไม่เพียงไม่ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจในระยะยาว แต่ยังส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ความเชื่อมั่นจากนักลงทุน และความมั่นใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนที่มีความอ่อนไหวต่อประเด็นด้านกฎหมายและความปลอดภัย













