โยงมั่ว? เมียนักร้องดังไม่ทน โพสต์ตอบกลับ หลังถูกจับตามองคดีพระกับสีกา
ดราม่าวงการสงฆ์สะเทือน! ภาพลับอดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย “กกสีกา” โยง “นัส จุฑารัตน์” ภรรยาโชคมงคล – เจ้าตัวลั่น “ใจเย็น อันนั้นคากิ!”
วงการผ้าเหลืองต้องสะเทือนอีกครั้ง! หลังมีภาพลับที่ถูกแชร์ว่อนโลกออนไลน์ เป็นภาพของชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์กำลังมีพฤติกรรมใกล้ชิดกับหญิงสาวปริศนา โดยในภาพมี "มือปริศนา" ปรากฏให้เห็นเพียงเสี้ยวเดียว แต่ที่ทำให้โลกออนไลน์ลุกเป็นไฟคือ สีเล็บสีเขียวอ่อน ซึ่งถูกชาวเน็ตจับโยงทันทีว่า เหมือนกับที่ "นัส จุฑารัตน์" ภรรยาของโชค โชคมงคล เพิ่งโพสต์ไว้ในภาพล่าสุด จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์สนั่นโซเชียลว่า “ใช่เธอหรือไม่?”
ไทม์ไลน์ดราม่า: จุดเริ่มต้นของภาพหลุดอดีตเจ้าอาวาส
ประเด็นร้อนเริ่มต้นจากการแชร์ภาพลับของ พระรูปหนึ่ง ซึ่งต่อมาถูกระบุว่าเป็น ทิตประดิษฐ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ในจังหวัดสระบุรี ซึ่ง ภาพดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับการอยู่ในสถานการณ์สองต่อสองกับหญิงสาว โดยในมุมหนึ่งของภาพปรากฏ มือผู้หญิงทาเล็บสีเขียวอ่อนอย่างชัดเจน ที่กลายเป็นหลักฐานสำคัญจุดกระแส “กกสีกา” ที่กำลังร้อนแรง
ภาพหลุดนี้จุดกระแสวิพากษ์ในสื่อออนไลน์อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อชาวเน็ตนำไปเปรียบเทียบกับ เล็บของนัส จุฑารัตน์ ซึ่งปรากฏในภาพที่เธอเพิ่งโพสต์เมื่อไม่นานนี้ ทำให้เกิดกระแสตั้งคำถามว่า หญิงสาวในภาพนั้นใช่เธอหรือไม่
นัส จุฑารัตน์ เคลื่อนไหวทันที โพสต์ปฏิเสธกลางเฟซบุ๊ก
หลังจากภาพดังกล่าวถูกแชร์อย่างต่อเนื่อง และมีการโยงไปยังชื่อของตน นัส จุฑารัตน์ ภรรยาของนักร้องชื่อดัง โชค โชคมงคล ก็ไม่รอช้า รีบออกมา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า นาโอกิ เรน โดยโพสต์ข้อความสุดจี๊ดว่า:
“Xถึงใจเย็น อันนั้นมือ อันนั้นคากิ จะบ้า XII ไม่ได้ชอบผู้ชายเทศดี!!!”
ข้อความดังกล่าวจุดชนวนความฮือฮาและเสียงหัวเราะจากชาวเน็ตในทันที โดยหลายคนมองว่าเธอกำลัง ปฏิเสธว่าไม่ใช่หญิงในภาพ และยืนยันว่า ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดกับอดีตเจ้าอาวาสที่ปรากฏในภาพหลุด
โลกออนไลน์เสียงแตก! บ้างเชื่อ บ้างแซว บ้างตั้งคำถาม?
หลังจากโพสต์ดังกล่าวของนัสแพร่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์ เสียงของชาวเน็ตก็เริ่มแตกออกเป็นหลายฝ่าย:
✦ ฝ่ายที่เชื่อว่า “นัสไม่เกี่ยว”:
มองว่าเป็นแค่ “เล็บสีเดียวกัน” ไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้
นัสมีครอบครัวแล้ว และไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงแบบนั้น
✦ ฝ่ายที่ “ยังสงสัย”:
ถามว่า “เล็บมันบังเอิญไปไหม?”
ทำไมถึงต้องรีบออกมาโพสต์ทั้งที่ไม่มีใครเอ่ยชื่อโดยตรงในภาพ
✦ ฝ่ายที่ “เอาฮา”:
แซวว่า “ใจเย็นอันนั้นคากิ” กลายเป็นมุกฮิตใหม่ในโซเชียล
มีการตัดต่อภาพ ใส่แคปชั่นล้อเลียนเต็ม TikTok และ Facebook
ประเด็นเจ้าอาวาส-สีกา: ไม่ใช่ครั้งแรกของวงการสงฆ์
เหตุการณ์เจ้าอาวาสถูกโยงกับสีกาไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการพระสงฆ์ไทย โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีมานี้ที่โซเชียลมีเดียทำให้ การเปิดโปงภาพ/คลิปลับทำได้ง่ายขึ้น
บางกรณีก็ มีหลักฐานจริงจังจนพระถูกจับสึก หรือถูกดำเนินคดี บางกรณีกลับเป็นการจัดฉาก โยงชื่อคนดังเพื่อเรียกยอดวิว หรือเป็นแค่ความเข้าใจผิดจากภาพมุมเดียว
กรณีของ ทิตประดิษฐ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย กำลังถูกสังคมเพ่งเล็ง เพราะตำแหน่งที่เคยดำรงนั้นเป็นถึงเจ้าอาวาสวัดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ และหากเกี่ยวข้องกับเรื่องเสื่อมเสียก็อาจสร้างผลกระทบเชิงภาพลักษณ์ต่อศาสนาอย่างมาก
เจาะชื่อ “วัดพระพุทธฉาย” : วัดประวัติศาสตร์ ศรัทธาชาวพุทธ
วัดพระพุทธฉาย ตั้งอยู่ในจังหวัดสระบุรี เป็นวัดที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่อง “พระพุทธฉาย” หรือ เงาพระพุทธเจ้าที่ประทับอยู่บนผาหิน ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีประชาชนเดินทางไปกราบไหว้ตลอดทั้งปี
ดังนั้น เมื่อชื่อของอดีตเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ถูกโยงเข้ากับคดีเชิงชู้สาวและการกกสีกา ก็ยิ่งทำให้สังคมให้ความสนใจอย่างมาก เพราะเกี่ยวพันกับสถานที่ที่คนเคารพบูชา
บทเรียนจากดราม่าผ้าเหลือง: ภาพเสี้ยวเดียว อาจเปลี่ยนชีวิตคน
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของภาพ “เพียงเสี้ยวเดียว” ว่าสามารถปลุกกระแสให้สังคมหันมามองประเด็นใดประเด็นหนึ่งได้อย่างรุนแรง แม้ยังไม่มีข้อพิสูจน์แน่ชัดว่าภาพนั้นหมายถึงใคร และเกิดขึ้นจริงในสถานการณ์ใด
คำถามที่ควรคิดต่อ:
ภาพมุมเดียวมีสิทธิทำลายชื่อเสียงใครได้ขนาดไหน?
การโยงชื่อคนดังโดยไม่มีหลักฐานครบถ้วนเป็นการล้ำเส้นหรือไม่?
เราควรรับข้อมูลจากโซเชียลมีเดียอย่างมีวิจารณญาณมากกว่านี้หรือเปล่า?
สรุป: ภาพลับเจ้าอาวาส-มือเล็บเขียว กำลังสั่นสะเทือนวงการพระไทย!
ดราม่า “ภาพลับเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย กกสีกา” ที่โยงไปถึง “นัส จุฑารัตน์” กลายเป็นหนึ่งในกระแสที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ไม่เพียงแต่กระทบต่อภาพลักษณ์ของพระสงฆ์ไทยเท่านั้น แต่ยัง กระทบต่อชื่อเสียงของบุคคลในวงการบันเทิงด้วย
แม้ล่าสุดเจ้าตัวจะออกมาโพสต์ปฏิเสธอย่างมีสีสันและเป็นกันเอง แต่ประเด็นนี้ยังคงถูกพูดถึงในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นทางศาสนา สังคม จริยธรรม หรือแม้แต่ “อารมณ์ขัน” ของโลกออนไลน์
หากคุณมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เห็นด้วยหรือไม่กับการตัดสินใจของอดีตเจ้าอาวาส? หรือคิดว่าโซเชียลทำให้คนต้องรับผิดในสิ่งที่ยังไม่พิสูจน์? แสดงความคิดเห็นและร่วมแชร์มุมมองของคุณได้เลยที่ด้านล่าง






















