ทำไมเวียดนามได้อัตราภาษีนำเข้าสหรัฐ ดีกว่าหลายประเทศในโลก เพราะสหรัฐมองเวียดนามคือศูนย์กลางค้าและการลงทุนในภูมิภาคนี้ ไม่ใช่ไทย

เวียดนามได้รับอัตราภาษีที่ดีกว่าหลายชาติ เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลเวียดนามที่มุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment - FDI) มีเขามีจุดดึงดูด แต่ไทยไม่มี

อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax - CIT) ที่ลดลง แม้ว่าอัตราภาษี CIT มาตรฐานของเวียดนามจะอยู่ที่ 20% แต่รัฐบาลได้เสนออัตราภาษีพิเศษที่ลดลง (เช่น 10% หรือ 17%) สำหรับโครงการลงทุนที่เข้าเงื่อนไข เช่น ในภาคส่วนที่ได้รับการส่งเสริม หรือในพื้นที่ที่ด้อยพัฒนา โดยอาจได้รับอัตราพิเศษเป็นระยะเวลา 10-15 ปี หรือตลอดอายุโครงการ

การยกเว้นและลดหย่อนภาษี (Tax Holidays) โครงการลงทุนใหม่ที่เข้าเงื่อนไขมักจะได้รับการยกเว้นภาษี CIT เป็นระยะเวลา 2-4 ปีแรก และลดหย่อนภาษี 50% สำหรับช่วง 4-9 ปีถัดไป ซึ่งช่วยลดภาระภาษีในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินงาน

การยกเว้นภาษีนำเข้า สำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างสินทรัพย์ถาวร รวมถึงวัตถุดิบและส่วนประกอบที่จำเป็นสำหรับการผลิตที่ไม่สามารถผลิตได้ภายในประเทศ

การยกเว้น/ลดหย่อนค่าเช่าที่ดิน เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษหรือพื้นที่ที่รัฐบาลต้องการส่งเสริม

สิทธิประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เวียดนามให้ความสำคัญกับการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เทคโนโลยีขั้นสูง การวิจัยและพัฒนา การปกป้องสิ่งแวดล้อม การศึกษา สาธารณสุข และโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีมาตรการจูงใจพิเศษสำหรับภาคส่วนเหล่านี้

การเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ เวียดนามมีนโยบายเศรษฐกิจที่เปิดกว้างและส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

ข้อตกลงการค้าเสรี (FTAs) และข้อตกลงยกเว้นการเก็บภาษีซ้อน (DTAs) เวียดนามได้ทำข้อตกลงกับหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งช่วยลดอุปสรรคทางการค้าและภาษี ทำให้การลงทุนและการค้ากับเวียดนามมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น

รัฐบาลเวียดนามลงทุนอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ท่าเรือ ถนน และนิคมอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ

แรงงานมีทักษะและค่าแรงที่แข่งขันได้ เวียดนามมีประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมากและค่าแรงที่ยังคงแข่งขันได้เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ทำให้เป็นที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่ต้องการฐานการผลิต ขณะที่ไทยมีแรงงานน้อย ค่าแรงแพงกว่า และคุณภาพแรงงานสู้เวียดนามไม่ได้

การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ (ล่าสุด)

เวียดนามได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ จะเก็บภาษีตอบโต้ (reciprocal tax) จากเวียดนามในอัตราร้อยละ 20 ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ (อาจสูงถึง 46%) และต่ำกว่าบางประเทศในอาเซียน รวมถึงประเทศไทย (ที่อาจถูกเก็บสูงกว่า) ข้อตกลงนี้เป็นผลมาจากการที่เวียดนามยอมเปิดทางให้สหรัฐฯ ส่งสินค้าเข้าเวียดนามโดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญสำหรับเวียดนาม โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์

ปัจจัยเหล่านี้รวมกันทำให้เวียดนามมีความสามารถในการเสนออัตราภาษีที่ดีกว่าและสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางการผลิตและการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้