เที่ยววัดไม่รอดดราม่า! “คิวเท โอปป้า” เจอชาวโซเชียลวิจารณ์ยับ

คิวเท โอปป้า เที่ยวคำชะโนดสุดวุ่น เจอลอตเตอรี่รุมขายเกินราคา กลายเป็นดราม่าร้อนกลางโซเชียล

กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงอย่างดุเดือดในโลกออนไลน์ เมื่อยูทูบเบอร์ชื่อดัง "คิวเท โอปป้า" หรือที่หลายคนรู้จักกันในนามยูทูบเบอร์สายฮาจากเกาหลีที่มาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย ได้ปล่อยคลิปล่าสุดลงช่องของเขาในหัวข้อ “เที่ยวอุดรธานีโนแพลน คำชะโนด!” ซึ่งเผยให้เห็นบรรยากาศทริปท่องเที่ยวในจังหวัดอุดรธานีเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568

คลิปดังกล่าวในช่วงต้นยังคงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ การเดินทางที่เรียบง่ายแบบไม่มีแผนล่วงหน้า (No Plan) ซึ่งเป็นสไตล์ของคิวเทที่แฟนคลับหลายคนชื่นชอบ แต่แล้วสถานการณ์ก็เริ่มพลิกเมื่อเขาเดินทางไปยังวัดชื่อดังแห่งหนึ่งที่สายมูเตลูนิยมไปขอโชคลาภอย่างคำชะโนด

จากรอยยิ้มสู่ความวุ่นวาย: คิวเทโดน "ล้อม" ด้วยลอตเตอรี่

ทันทีที่คิวเทลงจากรถ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าก็เข้ามาเสนอขายของไหว้อย่างคึกคัก ซึ่งเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ อุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าท้องถิ่นโดยไม่ปริปากบ่นอะไร

แต่เรื่องเริ่มไม่ธรรมดาเมื่อกลุ่มแม่ค้าลอตเตอรี่ทยอยเข้ามาเสนอขาย ลอตเตอรี่ชุดใหญ่ 10 ใบ ในราคา 3,900 บาท คิวเทพยายามพูดคุยต่อรองเพื่อหาซื้อชุดที่เล็กลง ซึ่งแม่ค้าเสนอชุด 5 ใบในราคา 800 บาท เจ้าตัวก็ยังไม่ถอดใจ พยายามขอต่อเหลือชุดละ 500 บาท ด้วยเจตนาชัดเจนว่าอยากอุดหนุนหลาย ๆ คน คนละนิดคนละหน่อยเพื่อกระจายรายได้

แม่ค้าหลายรายยินดีลดราคาเหลือ 700 บาท แต่ก็อ้างว่า “ถ้าลดมากกว่านี้จะขาดทุน” ขณะเดียวกันก็พยายามหว่านล้อมให้ซื้อด้วยคำพูดหลากหลายแบบ สุดท้าย คิวเทก็ตัดสินใจซื้อจากแม่ค้ากลุ่มแรกประมาณ 3-4 คน

ซื้อแล้วไม่จบ! แม่ค้าลอตเตอรี่แห่ตามขายจนเข้าโซนวัด

สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ดูตึงเครียดคือ หลังจากเริ่มซื้อแล้ว กลับมีแม่ค้ารายอื่น ๆ เดินตามเข้ามาขายเพิ่มอีก โดยเฉพาะเมื่อคิวเทเข้าไปในบริเวณวัด กลับเจอแม่ค้าลอตเตอรี่เพิ่มขึ้นอีกหลายสิบคน ต่างกรูเข้ามารุมล้อม ยื่นลอตเตอรี่ให้เต็มสองมือ สุดท้ายคิวเทตัดสินใจซื้ออีกหลายชุดในราคาเท่ากันคือ 700 บาทต่อชุด โดยบอกว่า “จะซื้อเท่าที่ไหว”

จากการคำนวณภายหลัง เขาซื้อลอตเตอรี่ไปทั้งหมด 44 ชุด คิดเป็นเงินรวม 30,800 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกินกว่าการเที่ยวธรรมดาของยูทูบเบอร์คนหนึ่ง แต่คิวเทก็ยังคงยิ้มแย้มและพูดจาดีตลอดทั้งคลิป พร้อมแจกจ่ายลอตเตอรี่ที่ซื้อมาให้กับผู้คนภายในวัดบางส่วนด้วย

เขาได้ทิ้งท้ายในคลิปด้วยคำพูดที่หลายคนประทับใจว่า

 “ไม่ได้หวังจะถูกรางวัลอะไร แค่อยากช่วยเท่าที่เราไหว ผมไหวแค่นี้จริง ๆ”

เสียงสะท้อนจากโซเชียล: เห็นใจคิวเท-ติงราคาขายเกินจริง

หลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่บนยูทูบและแพลตฟอร์มอื่น ๆ โลกออนไลน์ต่างระเบิดความเห็นหลากหลายมุม โดยเฉพาะในกลุ่มแฟนคลับของคิวเท ที่รู้สึกเห็นใจเขาอย่างมาก หลายคอมเมนต์มองว่าสถานการณ์ที่เขาเผชิญคือ “การยัดเยียดขาย” และสร้างความรบกวนต่อผู้มาเยือน

 “ตั้งใจไปไหว้ขอพร แต่กลายเป็นโดนบังคับซื้อของตลอดเวลา ใครจะอยากไปอีก?”

“ราคาลอตเตอรี่ชุดละ 700-800 บาทเกินจริงมาก กฎหมายกำหนดไว้ชุดละเท่าไหร่ก็รู้อยู่ ยังขายแพงกันไม่หยุด”

บางคนตั้งคำถามว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่จึง ไม่จัดระเบียบหรือควบคุมการค้าขาย โดยเฉพาะในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างคำชะโนด ซึ่งถือเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งไทยและต่างชาติ

มุมกลับ: เสียงจากแม่ค้าบางส่วน

ในขณะเดียวกัน ยังมีคนบางกลุ่มที่เข้าใจฝั่งแม่ค้าด้วย โดยมองว่าอาชีพขายลอตเตอรี่ก็มีต้นทุนสูง จากระบบการซื้อจองลอตเตอรี่ในราคาแพงมาจากต้นทาง และต้องรับความเสี่ยงจากลอตเตอรี่ที่ขายไม่หมด หลายคนจึงยอมขายแพงเพื่อหวังอยู่รอด

 “อย่ามองว่าเขาเอาเปรียบอย่างเดียว บางคนก็ไม่มีทุนสำรอง ถ้าไม่ขายแพงก็ไม่มีกำไรเลย”

อย่างไรก็ตาม หลายเสียงก็เห็นตรงกันว่า ควรมีขอบเขตและการจัดระเบียบ ไม่ให้เกิดภาพลักษณ์เชิงลบกับสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม

วัดคำชะโนด: ศูนย์รวมความศรัทธา แต่ภาพลักษณ์เริ่มสั่นคลอน

คำชะโนดหรือ "วังนาคินทร์คำชะโนด" เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สายมูทั่วประเทศนิยมไปกราบไหว้ โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ ความเชื่อเรื่องพญานาค และเลขเด็ด ส่งผลให้มีพ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่กระจุกตัวอยู่มาก และนำไปสู่ปัญหาการแย่งขายหรือการเสนอขายแบบรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของนักท่องเที่ยว

เคยมีหลายกรณีก่อนหน้านี้ที่นักท่องเที่ยวร้องเรียนเรื่องการถูกกดดันให้ซื้อของ ไม่ว่าจะเป็นของไหว้ หรือสลากกินแบ่งฯ แต่เหตุการณ์ของคิวเทนับว่าเป็นหนึ่งในกรณีที่ ชัดเจนที่สุดและเผยแพร่กว้างที่สุด ผ่านแพลตฟอร์มยูทูบ

บทเรียนและทางออก: การท่องเที่ยวต้องมีระบบ

จากเหตุการณ์นี้ ทำให้สังคมหันมาพูดถึงเรื่อง “ความสมดุลระหว่างศรัทธา พาณิชย์ และสิทธิของนักท่องเที่ยว” ว่าควรอยู่ร่วมกันอย่างไร

หน่วยงานท้องถิ่นอาจต้องเร่งเข้ามาจัดการ เช่น

จัดระเบียบพื้นที่จำหน่ายลอตเตอรี่

จำกัดจำนวนผู้ขายภายในวัด

ตั้งราคามาตรฐาน และมีป้ายแจ้งชัดเจน

กำหนดโซนให้ชัดเจนระหว่างพื้นที่ทำบุญกับพื้นที่จำหน่ายสินค้า

หากไม่มีการบริหารจัดการที่เหมาะสม สถานที่อันเป็นที่เคารพนับถืออย่างคำชะโนด อาจถูกมองว่าเป็น “ตลาดค้าลอตเตอรี่” มากกว่าจะเป็นแหล่งศรัทธาของพุทธศาสนิกชน

กรณี “คิวเท โอปป้า” อาจดูเหมือนเพียงยูทูบเบอร์คนหนึ่งที่มาเที่ยววัดแล้วเจอประสบการณ์ไม่ดี แต่ในความเป็นจริง นี่คือ ภาพสะท้อนของปัญหาที่ใหญ่กว่าตัวบุคคล เป็นบทเรียนสำหรับทั้งนักท่องเที่ยว หน่วยงานรัฐ และผู้ประกอบการท้องถิ่น ว่าการท่องเที่ยวไทยต้องพัฒนาไปควบคู่กับการดูแลสิทธิ ความสะดวก และความเคารพซึ่งกันและกัน

เพราะหากเราไม่ใส่ใจสิ่งเล็ก ๆ แบบนี้ วันนี้อาจเป็นยูทูบเบอร์ชื่อดัง แต่พรุ่งนี้อาจเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ไม่กลับมาอีกเลยก็ได้