คนจีนนับร้อยบุกขโมยของในร้านขายของหลังน้ำท่วมหนัก
คนจีนนับร้อยบุกขโมยของในร้านขายของหลังน้ำท่วมหนัก
คลิปที่กำลังเป็นไวรัลในตอนนี้ คือ คลิปที่ถ่ายในเมืองจ้าวชิง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ซึ่งผู้คนนับร้อยกำลังดิ้นรน เพื่อรับมือกับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุด ในประวัติศาสตร์ของเมือง ด้วยการบุกเข้าไปในร้านขายของ และ ขโมยทุกอย่างที่อยู่ในร้านดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ แสวงหากำไร จากภัยพิบัติทางธรรมชาติ...
ฉากในคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นฝูงชน รวมทั้งผู้สูงอายุและเด็กๆ กำลังแย่งชิงสินค้ากันอย่างโกลาหล พนักงานขายไม่สามารถห้ามหรือทำอะไรได้เลย พวกเขาทำได้เพียงใช้โทรศัพท์ ถ่ายคลิปดังกล่าวและอัพลงเน็ต เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการตามจับ...
ก่อนหน้านี้ เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วม จนทำให้เมืองและหมู่บ้าน 19 แห่ง ในหวยจี๋จมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนประมาณ 183,000 คน และ มีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยตรงซึ่งมากกว่า 41 ล้านหยวน โดยรัฐบาลจังหวัดได้ระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัย มากกว่า 10,000 คนจากทุกระดับ รวมถึงองค์กรอาสาสมัครจำนวนมาก ในการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน
"ชี เซียง" หัวหน้าทีมบลูสกาย กล่าวว่า "แม่น้ำสุยเจียงอันตรายมาก มันเหมือนกับล่องลอยอยู่ ในแม่น้ำที่เชี่ยวกราก" และ 'เจ้าหน้าที่กู้ภัยของผม ก็ทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน"
เจ้าของร้านที่ถูกปล้น กล่าวว่า "หลังกจากที่น้ำท่วม ไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ ก็ถูกตัดทันที ซึ่งนั่นทำให้ร้านเราไม่มีกล้องวงจรปิด แล้วชาวบ้านก็แห่ทุบกระจก พังประตูร้าน แล้วบุกเข้ามาขโมยทุกอย่าง" และ "เราขอเตือนว่า ใครจะมาลงทุนที่เมืองนี้ อย่ามาเด็ดขาด ที่นี่คือเมืองของพวกโจร..." และ "พนักงานของเรา โดนชาวบ้านทำร้ายหลายคน ขณะห้ามไม่ได้พวกเขาขโมยของ โทรไปแจ้งตำรวจๆก็ไม่มา"
ทางการท้องถิ่นได้เปิดการสอบสวน เพื่อตอบโต้คำวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน โดยชาวเน็ตหลายคนเรียกร้องให้มีการลงโทษอย่างเข้มงวด ต่อผู้ที่แสวงหาผลประโยชน์ โดยระบุว่า "หากไม่มีการลงโทษที่เหมาะสม เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นซ้ำอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในสังคม" และ "ถ้าไม่ลงโทษมันก็ไม่ต่างกับ การชอปปิ้งฟรี ที่เกิดขึ้นเหมือนในอเมริกาเลย..."







