"พี่ฮวด" คือใคร? ล่ามปริศนาในคลิปนายกฯแพทองธาร–ฮุนเซน กับบทบาทลับไทย–กัมพูชา
“พี่ฮวด” ล่ามลับผู้มากบารมี เบื้องหลังสัมพันธ์ลึกซึ้ง “แพทองธาร - ฮุน เซน” กับบทบาทปริศนาที่โยงใยไทย-กัมพูชา
ในโลกการเมืองระหว่างประเทศ รายละเอียดเบื้องหลังมักสำคัญไม่แพ้สิ่งที่ปรากฏในสายตาสาธารณชน เหตุการณ์ล่าสุดที่กลายเป็นกระแสร้อนแรง คือการหลุดคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร กับ สมเด็จฮุน เซน อดีตผู้นำสูงสุดของกัมพูชา ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างสองผู้นำ และเปิดเผยบทบาทสำคัญของบุคคลลับที่ยืนอยู่ในเงามืด แต่มีอิทธิพลต่อความเข้าใจและการตัดสินใจของทั้งสองฝ่าย นั่นก็คือชายที่รู้จักกันในชื่อ “พี่ฮวด”
หลายคนสงสัยว่า “พี่ฮวด” คือใคร? ทำไมเขาจึงมีบทบาทในบทสนทนาระหว่างผู้นำระดับประเทศ และเหตุใดบุคคลผู้นี้จึงถูกพูดถึงในฐานะ ผู้รู้ใจทั้งสองตระกูล ที่อยู่เบื้องหลังการประสานงานอันซับซ้อนระดับรัฐบาล
ใครคือ “พี่ฮวด”? ล่ามแห่งอำนาจที่ไม่ได้มีแค่หน้าที่แปลภาษา
จากการเปิดเผยของสื่อชื่อดังอย่าง "เนชั่นทีวี" ได้ระบุว่า “พี่ฮวด” มีชื่อจริงว่า นายเคลียง ฮวด ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างสนิทสนมในหมู่คนใกล้ชิดของตระกูลชินวัตร โดยเฉพาะในแวดวงของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ที่เรียกเขาว่า “ผอ.ฮวด” อย่างให้เกียรติและเป็นกันเอง
ตำแหน่งทางการของเขาไม่ธรรมดาเลย เพราะเขาคือนายกเทศมนตรีของเขต จรอย จองวา และยังดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของประเทศกัมพูชา และที่สำคัญที่สุด เขาคือ ผู้ช่วยคนสนิทของสมเด็จฮุน เซน มาตั้งแต่สมัยที่ผู้นำรายนี้ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากล่ามทั่วไปคือความสามารถพิเศษในการ พูดภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว และเข้าใจบริบททางการเมืองของไทยเป็นอย่างดี ทำให้เขากลายเป็น บุคคลสำคัญ ที่สามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชาได้อย่างแนบเนียน
ล่ามที่มากกว่าล่าม: เลขาฯ ส่วนตัวผู้รู้ใจ “ฮุน เซน - ชินวัตร”
จากคำบอกเล่าของอดีตคนใกล้ชิดตระกูลชินวัตร เปิดเผยว่า “พี่ฮวด” ทำหน้าที่เสมือน เลขาฯ ส่วนตัว และเป็นผู้ช่วยที่สมเด็จฮุน เซนไว้วางใจสูงสุดในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย
เขาไม่เพียงสนิทกับสมเด็จฮุน เซนเท่านั้น แต่ยังมีความใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร อย่างยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทักษิณต้องหลบหนีคดีไปอยู่ในต่างประเทศ “พี่ฮวด” ทำหน้าที่ประสานงานหลายด้านให้ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าพบผู้มีอำนาจในกัมพูชา การอำนวยความสะดวก หรือแม้แต่การสื่อสารในนามของอดีตผู้นำไทย
หลายคนอาจไม่ทราบว่า ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นนี้เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานนับทศวรรษ ไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองระยะสั้น หรือเพียงการแปลภาษาเท่านั้น
เบื้องหลังชีวิต "พี่ฮวด": นักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ และผู้ดูแลผู้ลี้ภัย?
แหล่งข่าวจากฝั่งไทยที่เคยมีส่วนร่วมในการประสานงานกับพี่ฮวด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เขาอาจมีบทบาทในภาคธุรกิจด้วย โดยมีตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐกัมพูชา แต่ไม่ปรากฏว่าเขามีธุรกิจในประเทศไทย
อายุของพี่ฮวดคาดว่าน่าจะราว 50 ปีเศษ และเคยเดินทางมายังประเทศไทยหลายครั้งในภารกิจที่ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน
ที่น่าสนใจคือ สื่ออิสระอย่าง ประชาไท รายงานว่า “พี่ฮวด” เคยมีบทบาทสำคัญในกรณีของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยชาวไทยที่หายตัวไปอย่างลึกลับในกรุงพนมเปญ โดยข้อมูลชี้ว่าเขาเป็น ผู้ที่ดูแลผู้ลี้ภัยจากประเทศไทย ที่หนีไปกัมพูชาหลังการรัฐประหารปี 2557 รวมถึงอาจให้ การสนับสนุนด้านการเงิน แก่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองจากไทย
ความสัมพันธ์โยงใยนักการเมืองไทย
จากภาพถ่ายที่ปรากฏในสื่อหลายสำนัก แสดงให้เห็นว่า “พี่ฮวด” ไม่ได้ปรากฏตัวเฉพาะในฉากการเมืองระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังมีภาพคู่กับนักการเมืองคนสำคัญของไทยในอดีตหลายราย เช่น
นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส.สิงห์บุรี และแกนนำ นปช.
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. ปัจจุบันเป็นวิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมี ภาพถ่ายคู่กับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตอกย้ำสถานะของเขาว่า ไม่ใช่เพียงเจ้าหน้าที่แปลภาษา หากแต่เป็นผู้ที่มีบทบาทลึกซึ้งระดับนโยบายในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้นำสองประเทศ
“พี่ฮวด” กับภาพสะท้อนของความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
การปรากฏตัวของ “พี่ฮวด” ในฐานะผู้แปลและประสานการสนทนาในคลิปเสียงระหว่างผู้นำไทยและกัมพูชา สะท้อนให้เห็นถึง มิติที่ลึกกว่าความสัมพันธ์ทางการทูต นั่นคือมิติของ ความไว้วางใจส่วนบุคคล และ เครือข่ายความสัมพันธ์เชิงลึกทางการเมือง
ความสามารถของเขาในการเชื่อมโยงคนระดับผู้นำ การสื่อสารด้วยภาษาที่สองฝ่ายเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง และบทบาทในอดีตที่เชื่อมโยงทั้งกับฝ่ายไทยและกัมพูชา ทำให้เขากลายเป็น กุญแจสำคัญในการเจรจา หรือแม้กระทั่ง การวางยุทธศาสตร์ระดับชาติ
บทสรุป: ชายผู้เป็นเงาแต่ทรงอิทธิพล
ในโลกการเมืองที่เต็มไปด้วยการคำนวณและการต่อรอง “ล่าม” ไม่ใช่เพียงผู้ถ่ายทอดภาษาอีกต่อไป แต่คือ ตัวแปรสำคัญของความเข้าใจระหว่างผู้นำ และในกรณีของ “พี่ฮวด” เขาได้ก้าวข้ามขอบเขตของบทบาทล่ามทั่วไป มาสู่การเป็นผู้กำหนดทิศทางความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาในยุคใหม่
การรู้จักเขาให้ลึกซึ้ง คือการเข้าใจกลไกเบื้องหลังทางการทูต ที่คนธรรมดาอย่างเรามักมองข้าม เพราะบางครั้ง บุคคลที่สำคัญที่สุดในวงสนทนา อาจไม่ใช่ผู้นำที่นั่งอยู่ตรงหน้า แต่คือคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง... และ “พี่ฮวด” คือหนึ่งในนั้น












