หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แรงงานเขมรพูดตรง! ไม่อยากกลับประเทศ หลัง ‘ฮุน เซน’ เรียกคืน บอกชัด “คนไทยใจดี”

โพสท์โดย zzz1111

แรงงานกัมพูชาโอด ไม่อยากกลับบ้าน แม้ 'ฮุน เซน' เรียกร้อง – คนไทยใจดี ไม่มีใครไล่ แต่ถ้ามีคำสั่งก็พร้อมกลับอย่างจำใจ

กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดทั้งในไทยและกัมพูชา เมื่อ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และบิดาของผู้นำคนปัจจุบันอย่าง สมเด็จฮุน มาเนต ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 โดยเรียกร้องให้แรงงานกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทยโดยไม่มีเอกสารที่ถูกต้องตามกฎหมาย ควรเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินการเนรเทศจากทางการไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อศักดิ์ศรีและความรู้สึกอับอายของตนและครอบครัว

คำกล่าวของฮุน เซน นำไปสู่การตอบสนองอย่างรวดเร็วจากภาครัฐของกัมพูชา โดยเฉพาะผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ที่ได้มีการสั่งเตรียมรถโดยสารมากกว่า 400 คัน เพื่อรองรับแรงงานที่ต้องการเดินทางกลับอย่างเร่งด่วน สะท้อนให้เห็นถึงความจริงจังของรัฐบาลกัมพูชาในการดำเนินการเรื่องนี้

 

แรงงานส่วนใหญ่ยังไม่อยากกลับบ้าน เหตุผลหลักคือ "ปากท้อง" และ "ชีวิตที่มั่นคงกว่า"

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณตลาดสี่มุมเมือง อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งทำงานสำคัญของแรงงานกัมพูชาจำนวนมาก และได้พูดคุยกับกลุ่มแรงงานโดยตรง พบว่ากลุ่มแรงงานส่วนใหญ่ “ไม่ต้องการกลับประเทศ” ในขณะนี้ โดยให้เหตุผลหลักว่า ค่าแรงในประเทศไทยสูงกว่า มีความมั่นคงในการทำงานมากกว่า และที่สำคัญคือ คนไทยส่วนใหญ่ให้ความเมตตาและเป็นมิตร

แรงงานหญิงรายหนึ่ง ซึ่งขอใช้นามสมมุติว่า น.ส.หนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เธอและแฟนหนุ่มเข้ามาทำงานในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี แล้ว แม้จะมีโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านในกัมพูชาบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็เลือกที่จะตั้งหลักแหล่งในไทย เพราะที่นี่มีโอกาสในการทำงานมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดแรงงานที่ยังขาดแรงงานจำนวนมากในบางภาคส่วน เช่น แรงงานก่อสร้าง โรงงาน และตลาดสด

 “คนไทยใจดีมากค่ะ ไม่เคยมีใครมาไล่ หรือแสดงท่าทีไม่พอใจเลย ถ้าไม่มีคำสั่งบังคับ เราก็อยากอยู่ทำงานต่อค่ะ” — น.ส.หนึ่ง กล่าว

นายเอ: "มีงานให้ทำเยอะ คนไทยไม่เคยรังเกียจ"

นายเอ แรงงานชายชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในตลาดเดียวกันก็กล่าวในทำนองเดียวกัน โดยบอกว่า ตนเคยทำงานในภาคก่อสร้างมาก่อน และย้ายมาทำงานในตลาดสี่มุมเมืองได้หลายปีแล้ว แม้ค่าแรงไทยอาจไม่ต่างจากกัมพูชามากนัก แต่ที่นี่มี โอกาสและงานให้ทำตลอดเวลา อีกทั้งเจ้านายคนไทยก็มีเมตตา ดูแลกันเหมือนคนในครอบครัว

 “ถ้ามีคำสั่งจากทางการแล้วเราฝ่าฝืนไม่ได้ เราก็ยินดีกลับบ้านครับ แต่ถ้าไม่บังคับ ผมก็อยากอยู่ที่นี่ต่อ เพราะยังไงก็มีงานทำ มีรายได้ส่งให้ครอบครัว”

นายโอ: "อยู่ไทยตั้งแต่เด็ก ไม่รู้จักแม้แต่ระบบงานในบ้านเกิด"

อีกหนึ่งเสียงสะท้อนจากแรงงานรุ่นใหม่อย่าง นายโอ ซึ่งพึ่งเริ่มทำงานได้เพียง 2 ปี หลังจากอายุครบเกณฑ์ตามกฎหมาย นายโอเล่าว่า ตนอยู่เมืองไทยตั้งแต่เด็ก เพราะแม่พาเข้ามาและทำงานในไทยมานาน แต่ตอนนี้แม่กลับไปกัมพูชาแล้ว ส่วนตัวไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานในบ้านเกิดเลย และไม่รู้จักสภาพแวดล้อมของแรงงานในกัมพูชา แต่แม่เคยบอกว่าค่าแรงในไทยยังดีกว่า

 “ผมมีเพื่อน พี่น้อง อยู่ไทยกันเยอะ คนไทยที่ทำงานด้วยก็ดีมาก ดูแลเราเหมือนน้องจริงๆ ไม่เคยมีใครพูดจาไล่เลย ถ้าไม่มีใครบังคับ ก็ยังอยากทำงานที่นี่ต่อ”

เขายังบอกว่าไม่ค่อยติดตามข่าวสารบ้านเมือง เพราะสนใจแต่เรื่องการทำงาน จึงไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคำสั่งหรือประกาศของฮุน เซน มากนัก

ยังไม่มีคำสั่งเนรเทศจากทางการไทย – จับตาแนวทางออกในเชิงมนุษยธรรม

ในขณะนี้ยังไม่มีการออกประกาศหรือคำสั่งอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทยเกี่ยวกับการเนรเทศแรงงานกัมพูชากลุ่มใด ๆ อย่างชัดเจน โดยฝ่ายไทยยังคงอยู่ในระหว่างการหารือและประสานงานกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งต้องคำนึงถึงทั้งหลักกฎหมาย และ หลักสิทธิมนุษยชน

หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงว่า หากมีการผลักดันให้แรงงานกลับประเทศโดยไม่สมัครใจ อาจส่งผลให้แรงงานกลุ่มนี้ตกอยู่ในภาวะลำบาก เพราะบางคนเกิด เติบโต และทำงานในไทยมาเกือบทั้งชีวิต ไม่มีเครือข่ายหรือบ้านเรือนในกัมพูชาที่จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ได้ง่าย ๆ

นอกจากนี้ ประเทศไทยเองก็ยังต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจระดับล่าง เช่น ก่อสร้าง เกษตรกรรม การผลิตอาหาร และบริการ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่คนไทยเองไม่ค่อยนิยมเข้าไปทำงาน

 ทางออกที่เหมาะสม ต้องเป็น "สมดุลระหว่างความมั่นคงกับมนุษยธรรม"

สถานการณ์แรงงานกัมพูชาในไทยขณะนี้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของ “เอกสาร” หรือ “กฎหมาย” เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย์ ที่ตั้งรกราก หวังความมั่นคงในชีวิต และยึดไทยเป็นบ้านหลังที่สอง

แม้คำกล่าวของฮุน เซน อาจจะมาจากความหวังดีต่อคนในชาติของตน แต่การบังคับให้คนกลับบ้านทั้งที่ยังไม่มีความพร้อม อาจส่งผลกระทบทางจิตใจและสังคมตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น การหาทางออกที่อยู่ตรงกลางระหว่าง “ความมั่นคงภายในประเทศ” และ “ศักดิ์ศรีของแรงงานต่างด้าว” จึงเป็นเรื่องที่ทั้งรัฐบาลไทยและกัมพูชาต้องหารือกันอย่างรอบคอบ

และสุดท้ายนี้ คำกล่าวของแรงงานกัมพูชาหลายคนสะท้อนใจได้ชัดเจนว่า

 “ประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่สองของเรา เพราะคนไทยใจดี ไม่มีใครเคยไล่เราเลย”

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: Brother single
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หวยเด็ด 16 กันยายน 2568 รวมทุกสำนัก เลขดังตรงกันมาแรง!เมื่อให้Chatgptคิดหวยให้ ถูกมา3งวดแล้ว“กำไรสคารับ” ความหมายเชิงสัญลักษณ์ตัวแทนการเกิดใหม่ในอารยธรรมอียิปต์เลขเด็ด "แม่จำเนียรล็อตเตอรี่" งวดวันที่ 16 กันยายน 68 มาแล้ว!..คอหวยส่องด่วน!!7 วีรบุรุษตำนานกรีกในมหากาพย์อีเลียด(The Iliad)เลขเด็ด "ไทยรัฐ" งวดวันที่ 16 กันยายน 6810 เลขขายดี "สลากใบแดง" งวดวันที่ 16 กันยายน 68..พรุ่งนี้รวย คอหวยส่องด่วน!!เลขเด็ด "ทักษามหารานี" งวดวันที่ 16 กันยายน 68..อยากรวย ส่องด่วน!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ยูทูปเบอร์สาวไต้หวันถูกหนุ่มเกาหลี ทำร้ายปางตายหลังไม่ยอมให้ซั่มBank Run คืออะไร ?ไวรัลฮัสกี้ขึ้นรถผิดคัน! ตำรวจถึงกับจำหน้าได้เพราะมาบ่อยพนักงานในสนามบินของญี่ปุ่นถูกจับกุมตัว หลังแอบขโมยเงินผู้โดยสาร
ตั้งกระทู้ใหม่