ไฟลุก! “กัน จอมพลัง” เดือดจัด ฟาดเขมรแรง พร้อมแนะเอา 2 สิ่งนี้กลับบ้านไปด้วย!
กัน จอมพลัง เดือด! ฝากถึงรัฐบาลกัมพูชา “อย่าเลือกปฏิบัติ รับพลเมืองตัวเองกลับด้วย” หลังเขมรเตรียมแบนเน็ต-ละครไทย #กันจอมพลัง ขึ้นเทรนด์ร้อนในชั่วข้ามคืน
เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่จุดไฟให้โซเชียลเดือดปุด ๆ ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เมื่อ “กัน จอมพลัง” หรือ กัณพงศ์ บำรุงพงศ์ นักเคลื่อนไหวด้านสังคมชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอผ่านบัญชี TikTok @guntouch เพื่อ แสดงจุดยืนต่อท่าทีของรัฐบาลกัมพูชา ที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า จะไม่สนับสนุนสื่อไทย ทั้งละครและเน็ตไทย รวมถึงกำลังพิจารณาแบนสินค้าจากประเทศไทย
แต่แทนที่กัน จอมพลังจะโต้กลับด้วยคำด่าหรือวาทกรรมรุนแรง เขากลับเลือกใช้แนวทางที่แสบคันไปถึงหัวใจคนดู โดย ตั้งคำถามเชิงประชดประชันและเสนอแนวทางกลับไปยังรัฐบาลกัมพูชาแบบตรง ๆ ว่า “ถ้าท่านไม่ต้องการอะไรจากไทย งั้นก็ช่วย รับพลเมืองของท่านกลับประเทศด้วยเถอะครับ ไม่ว่าจะเป็นพวกขอทานที่มากระจายอยู่ตามสี่แยกในกรุงเทพ หรือพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงประชาชน”
“เจ้าหน้าที่ไทยต้องจับขอทานชาวกัมพูชาทุกวัน ถ้าไม่อยากให้คนกัมพูชาถูกดูถูก ก็ช่วยจัดการเรื่องนี้ อย่าปล่อยให้พลเมืองตัวเองมานอนกลางถนนในบ้านคนอื่น” – กัน จอมพลัง กล่าวในคลิป
📌 คลิปเดียวจุดกระแสลุกว่อน! คนดูทะลุ 6 ล้านวิวในไม่ถึงวัน
หลังคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงใน TikTok เมื่อช่วงเย็นของวันที่ผ่านมา ก็เกิดการแชร์ต่อแบบถล่มทลาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้โซเชียลที่มีความห่วงใยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงผู้ที่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับขอทานชาวต่างชาติหรือเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน
ยอดผู้เข้าชมคลิปพุ่งทะลุ 6 ล้านวิวภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง พร้อมติดแฮชแท็ก #กันจอมพลัง ที่ขึ้นเทรนด์บน TikTok และ Twitter (X) อย่างรวดเร็ว มีคนร่วมแสดงความเห็นมากมาย ทั้งสนับสนุน เห็นด้วย และบางส่วนก็ตั้งคำถามในเชิงนโยบายระหว่างประเทศ
🧨 จุดเริ่มต้นของไฟความขัดแย้ง: เมื่อกัมพูชา “บอกปัด” สื่อไทย
ต้องอธิบายก่อนว่า ที่มาของการออกมาเคลื่อนไหวของกัน จอมพลังในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ รัฐบาลกัมพูชา มีท่าทีแข็งกร้าวต่อประเทศไทย โดยเฉพาะการออกนโยบายไม่รับชมละครไทยและไม่ใช้งานอินเทอร์เน็ตจากบริษัทไทย ทั้งยังมีข่าวลือว่ากำลังพิจารณาแบนสินค้าบางประเภทจากไทย ซึ่งถูกมองว่าเป็นการตอบโต้กรณีพิพาททางการเมืองที่กำลังคุกรุ่น
แม้รัฐบาลไทยจะยังไม่มีการออกมาตอบโต้อย่างเป็นทางการ แต่การแบนวัฒนธรรมและสื่อถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเริ่มมีรอยร้าวเพิ่มขึ้น
👊 กัน จอมพลัง พูดแทนใจคนไทย? เสียงจากโซเชียลสะท้อนปัญหาเรื้อรัง
จากในคลิป กัน จอมพลังไม่ได้เพียงแค่แสดงความคิดเห็น แต่ยัง ตั้งคำถามปลายเปิด ว่า “ถ้าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับไทย แล้วทำไมยังปล่อยให้พลเมืองตัวเองมาหากินบนผืนแผ่นดินไทยอยู่ทุกวัน?”
เขาชี้ให้เห็นว่า ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ไทยต้องใช้กำลังทรัพยากรจำนวนมาก ในการจัดการกับปัญหาขอทานและแรงงานผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะชาวกัมพูชาที่ถูกขบวนการลักลอบนำเข้า หรือบางรายอาจเดินทางเข้ามาเองเพื่อมาทำมาหากินในไทยโดยไม่มีเอกสาร
🔍 ข้อมูลที่น่าสนใจ: ขอทานกัมพูชาในไทย ปัญหาเรื้อรังที่ไร้ทางออก
มีรายงานจากหน่วยงานของรัฐและสื่อมวลชนว่า ขอทานต่างชาติในประเทศไทยจำนวนมากเป็นชาวกัมพูชา โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ พบว่ามีขบวนการนำคนเข้ามาอย่างเป็นระบบ พาเด็กและผู้พิการออกมานั่งขอเงินในที่สาธารณะ แลกกับเงินเล็กน้อยที่ส่งกลับให้หัวหน้าแก๊ง
สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยัง สะท้อนภาพลักษณ์ที่ไม่น่าภูมิใจของประเทศต้นทาง อย่างกัมพูชาเช่นกัน และนี่คือประเด็นที่กัน จอมพลังพยายามชี้ให้เห็น
“ท่านไม่อยากให้คนกัมพูชาถูกดูถูกใช่ไหมครับ งั้นก็อย่าปล่อยให้เขามาขอทานที่ไทยเลยครับ พากลับไปดูแลให้ดีในบ้านของท่านจะดีกว่า” – กัน กล่าวอย่างจริงจัง
💬 กระแสจากชาวเน็ต: “พูดแทนใจ”, “ตรงไปตรงมา” และ “ต้องมีคนกล้าพูดแบบนี้”
ในโลกออนไลน์ เสียงสนับสนุนกัน จอมพลังหลั่งไหลอย่างต่อเนื่อง หลายคนแสดงความคิดเห็นว่า สิ่งที่เขาพูดแม้จะตรงแรงแต่ก็เป็นความจริงที่ไม่ค่อยมีใครกล้าหยิบมาพูดออกสื่อ
“ในที่สุดก็มีคนพูดความจริงออกมาเสียที”
“กัน จอมพลังไม่ได้พูดเกลียดคนต่างชาติ แต่พูดถึงปัญหาที่ต้องแก้จริง ๆ”
“อย่าดราม่าเลย พูดตรงแบบนี้แหละที่สังคมต้องการ”
“ห่วงภาพลักษณ์ประเทศตัวเองก็ดีแล้ว งั้นก็ห่วงคนของตัวเองก่อนดีกว่า”
ขณะเดียวกันก็มีบางความเห็นที่เสนอให้มองปัญหาในมิติมนุษยธรรม แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ประเด็นนี้กำลังจุดประกายให้สังคมกลับมาทบทวนเรื่องแรงงานผิดกฎหมายและการจัดการระดับประเทศมากขึ้น
เสียงจากคนธรรมดาที่กำลังปลุกสังคมให้ตื่น
สิ่งที่น่าสนใจคือ กระแสของคลิปนี้ไม่ได้เกิดจากคนมีตำแหน่งในรัฐบาล แต่เกิดจาก “คนธรรมดา” ที่เป็นกระบอกเสียงของสังคม จับประเด็นไวและสื่อสารออกมาในเวลาที่ผู้คนกำลังตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
กัน จอมพลัง ได้แสดงให้เห็นว่า แม้จะไม่มีอำนาจทางการเมือง แต่คนธรรมดาก็สามารถตั้งคำถามต่อรัฐบาลได้ หากสิ่งนั้นกระทบต่อสังคมและความมั่นคงของประเทศ
“ไม่ใช่การเหยียด ไม่ใช่การไล่ แต่คือการพูดให้เห็นปัญหา เพื่อให้ทั้งสองประเทศอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน”
หากคุณยังไม่ได้ดูคลิปนี้ แนะนำให้ลองเปิดดูผ่านบัญชี TikTok @guntouch แล้วคุณอาจจะเข้าใจว่าทำไมหลายล้านคนถึงพร้อมใจกันกดไลก์ แชร์และพูดถึง #กันจอมพลัง ในชั่วข้ามคืน












