Alexandr Wang : ซีอีโอผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการ AI วัยเพียง 28 ปี ที่ทั่วโลกจับตามอง
ในช่วงที่กระแสเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence - AI) กำลังร้อนแรงอย่างต่อเนื่องทั่วโลก บุคคลหนึ่งที่กำลังถูกจับตามองอย่างมากในวงการนี้ คือ นาย Alexandr Wang ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Scale AI ผู้ได้รับการขนานนามจากหลายสื่อเทคโนโลยีระดับโลกว่าเป็น “CEO ที่อันตรายที่สุดในโลก AI” ทั้งจากอิทธิพลเบื้องหลังอุตสาหกรรม ไปจนถึงเครือข่ายข้อมูลที่ครอบคลุมบริษัทชั้นนำทั่วโลก
จุดเริ่มต้นของเส้นทางผู้ควบคุมข้อมูลระดับโลก
นาย Wang เริ่มต้นก่อตั้งบริษัท Scale AI ขณะมีอายุเพียง 19 ปี หลังตัดสินใจลาออกจากสถาบัน MIT โดยมุ่งเน้นไปที่การจัดเตรียม “ข้อมูลคุณภาพสูง” สำหรับฝึกฝนระบบ AI ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขับเคลื่อนการพัฒนา AI อย่างแท้จริง บริษัทของเขามีบทบาทในการช่วยเหลือบริษัทชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น OpenAI, Google, Microsoft และ Meta ในการจัดการข้อมูลมหาศาลเพื่อให้สามารถนำไปใช้ฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างแม่นยำ
เบื้องหลังความอันตราย: ข้อมูลคืออำนาจ
สิ่งที่ทำให้นาย Wang ถูกมองว่า “อันตราย” ไม่ได้เกิดจากคำกล่าวอ้างหรือการสร้างกระแสผ่านสื่อสังคมออนไลน์ แต่เกิดจากข้อเท็จจริงที่ว่าเขาคือบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังการจัดการข้อมูลระดับโครงสร้างพื้นฐานของแทบทุกนวัตกรรม AI ที่โลกรู้จัก ข้อมูลนับเป็น “วัตถุดิบต้นทาง” ที่ใช้ในการฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ การที่บริษัทของเขาทำหน้าที่ในจุดนี้จึงทำให้เขามีบทบาทสำคัญทั้งเชิงกลยุทธ์และเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ Scale AI ยังได้ขยายบทบาทไปสู่ภาคการทหาร โดยมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมในสงครามยูเครน และเป็นผู้รับสัญญางานจากรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 60.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้บริษัทมีสถานะเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงของรัฐอีกด้วย
ดีลมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์จาก Meta
สิ่งที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการเทคโนโลยีคือ การที่บริษัท Meta ภายใต้การนำของ Mark Zuckerberg ยอมทุ่มเงินสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเข้าซื้อกิจการของ Scale AI พร้อมดึงตัวนาย Wang มาร่วมพัฒนาศูนย์วิจัยด้าน “ซูเปอร์อินเทลลิเจนซ์” (Super Intelligence) ซึ่งเป็นโครงการ AI ขั้นสูงที่มีเป้าหมายเหนือกว่าความสามารถของมนุษย์
การได้ตัวนาย Wang มาร่วมทีมไม่ได้หมายถึงการได้เพียงบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ แต่ยังเท่ากับการเข้าถึงเครือข่ายข้อมูลเบื้องลึกที่ Scale AI มีต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ทั่วโลก
เบื้องหลังความสำเร็จ: แรงงานไร้ชื่อและความท้าทายเบื้องหน้า
เบื้องหลังของ Scale AI ยังมีระบบแรงงานขนาดใหญ่จากกว่า 240,000 คนทั่วโลก ผ่านบริษัทลูกในประเทศต่าง ๆ เช่น เคนยา ฟิลิปปินส์ และเวเนซุเอลา ซึ่งทำหน้าที่จัดระเบียบและติดป้ายกำกับข้อมูล โดยได้รับค่าตอบแทนในระดับต่ำ สิ่งนี้ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามด้านจริยธรรมต่อระบบเบื้องหลังของอุตสาหกรรม AI
นอกจากนี้ Scale AI ยังเผชิญแรงกดดันจากความเปลี่ยนแปลงในตลาด โดยมีการปลดพนักงานถึง 20% และมูลค่าหุ้นในตลาดรองลดลงกว่า 40% อีกทั้งยังเริ่มถูกท้าทายโดยบริษัทคู่แข่งหน้าใหม่ที่มีแนวทางพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการข้อมูลที่หลากหลายยิ่งขึ้น
แม้จะเผชิญกับความผันผวน แต่ความเชื่อมั่นในตัวนาย Wang ยังคงอยู่ ด้วยคุณลักษณะด้านความทุ่มเท วินัยการทำงานอย่างเข้มข้น และวิสัยทัศน์ระยะยาวที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อประโยชน์ในระดับโลก เขายังเคยกล่าวไว้ว่า
“ผมเชื่อมั่นในสองสิ่ง หนึ่งคือ AI เป็นพลังยิ่งใหญ่ที่สามารถนำมาซึ่งสิ่งดีงาม และควรถูกนำมาใช้ให้กว้างที่สุด สองคือ เราต้องทำให้อเมริกาเป็นผู้นำ”
วิสัยทัศน์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการใช้ AI ไม่เพียงในเชิงพาณิชย์หรือเทคโนโลยี แต่ยังครอบคลุมมิติของอำนาจรัฐและภูมิรัฐศาสตร์อีกด้วย
สรุป
Alexandr Wang คือผู้นำรุ่นใหม่ที่มีบทบาทเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์อย่างลึกซึ้ง แม้จะมีอายุเพียง 28 ปี แต่เขากลับสามารถวางตัวเองในตำแหน่งผู้มีอิทธิพลสูงสุดในระบบนิเวศ AI ระดับโลก และอาจเป็นผู้กำหนดทิศทางอนาคตของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงมนุษยชาติ
การติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลผู้นี้ จึงไม่ใช่แค่การจับตาบุคคลที่ประสบความสำเร็จ หากแต่เป็นการมองอนาคตของโลกที่อาจกำลังถูกกำหนดโดย "ข้อมูลในมือของชายคนหนึ่ง"










