หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เดือดไม่ไว้หน้า! แทค ภรัณยู ฟาดแรง “อยากแบนแต่ไม่มีอะไรให้แบน!”

เนื้อหาโดย zzz1111

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงข้ามแดน ที่กำลังสะเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา เมื่อปมปัญหาชายแดนที่เกี่ยวพันกับการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ส่อเค้าร้าวลึกถึงระดับผู้นำประเทศ โดยล่าสุด พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกมาประกาศผ่านเฟซบุ๊กอย่างชัดเจนว่า กัมพูชาจะ หยุดซื้ออินเทอร์เน็ตและไฟฟ้าจากประเทศไทย และพร้อม แบนละคร-ภาพยนตร์ไทย โดยจะให้ความสำคัญกับ เนื้อหาทางวัฒนธรรมภายในประเทศตนเองเท่านั้น

มาตรการตอบโต้ที่พลิกเกมการทูตแบบไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าครั้งนี้ สร้างแรงสะเทือนทั้งในเชิงเศรษฐกิจ ความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จนทำให้ชาวโซเชียลไทยจำนวนมากรู้สึกไม่พอใจ และบางส่วนถึงกับเดือดดาล โดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่ต่างแสดงความเห็นในเชิงประชดประชันและตั้งคำถามกลับไปถึงฝั่งกัมพูชาว่า “แล้วกัมพูชามีอะไรให้ไทยแบนบ้าง?”

จุดเริ่มต้น: ปมคอลเซ็นเตอร์ข้ามแดนและการประกาศตัดเน็ตของไทย

ปัญหานี้เริ่มต้นจากการที่ฝั่งไทยพยายามกวาดล้างขบวนการคอลเซ็นเตอร์ซึ่งมีฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และพบว่ามีหลายกลุ่มเชื่อมโยงกับพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้มีแนวคิดจากฝั่งไทยว่าจะ ดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาด อาทิ การตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตในบางพื้นที่ หากไม่สามารถเจรจาให้เกิดความร่วมมือได้

แต่ก่อนที่ฝ่ายไทยจะดำเนินการจริง พล.อ.ฮุน มาเนต กลับออกมาชิงตัดหน้าด้วยถ้อยคำอันดุดัน โดยโพสต์เฟซบุ๊กประกาศ หยุดพึ่งพาอินเทอร์เน็ตและไฟฟ้าจากประเทศไทย และยืนยันว่ากัมพูชามีศักยภาพในการจัดหาทั้งสองอย่างได้เอง 100%

นอกจากนี้ยังมีคำสั่ง ห้ามฉายละครและภาพยนตร์จากประเทศไทย บนสื่อในประเทศกัมพูชาอีกด้วย ซึ่งถือเป็นการ “ตัดขาดทางวัฒนธรรม” แบบไม่ทันตั้งตัว โดยให้เหตุผลว่า ควรส่งเสริมอุตสาหกรรมบันเทิงของชาติ และลดอิทธิพลจากต่างประเทศ

แทค ภรัณยู เดือดแทนคนไทย! สวนกลับตรงประเด็น "ประเทศมึงไม่มีอะไรให้แบน"

หนึ่งในคนบันเทิงไทยที่ออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นนี้ คือ "แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม" นักแสดงและพิธีกรชื่อดังที่มักมีท่าทีตรงไปตรงมาและไม่กลัวดราม่า โดยเจ้าตัวโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กอย่างเผ็ดร้อนว่า:

 “กูก็อยากจะแบนประเทศมึงบ้าง แต่ประเทศมึงไม่มีอะไรให้แบน นอกจากแก๊งคอลฯ 😅 นึกไม่ออกว่ะมีอะไรบ้าง 🤣”

พร้อมกับคอมเมนต์เพิ่มเติมที่แสบสันไม่แพ้กัน: “มีอะไรให้แบนวะ.. ละคร หนัง รายการ สินค้า อาหาร การท่องเที่ยว 🤷‍♂️ เกมส์ ROV มึงยังไม่มีอย่ามาเก่ง, คนของมึงยังมารักษาโรงบาลกูเลย, นึกอะไรอะไรของเขมร คนเล่นของ”

โพสต์นี้กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว ได้รับทั้งเสียงชื่นชมและเสียงหัวเราะจากชาวเน็ตไทยจำนวนมาก พร้อมตั้งคำถามกลับถึงฝั่งกัมพูชาในเชิงประชดว่า “วัฒนธรรมกัมพูชามีอะไรโดดเด่นพอให้ไทยรู้จักหรือแบนกลับ?”

 

วิเคราะห์ผลกระทบและคำถามถึงอนาคต

แม้หลายคนจะมองว่าการ “แบนหนังไทย” หรือ “ตัดเน็ตไทย” ดูเป็นเรื่องไร้สาระในยุคโลกาภิวัตน์ แต่ในทางการทูต มันสะท้อนถึงการตัดสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ และความไม่ไว้วางใจในเชิงยุทธศาสตร์อย่างชัดเจน

1. ด้านเศรษฐกิจ:

การหยุดซื้ออินเทอร์เน็ตจากไทยอาจกระทบผู้ประกอบการไทยที่ส่งออก bandwidth ไปกัมพูชา

แต่ในภาพรวม การที่กัมพูชา "ประกาศหยุดซื้อ" อาจไม่ได้ส่งผลมหาศาลต่อ GDP ไทย เพราะกัมพูชายังมีขนาดเศรษฐกิจที่เล็ก และมีคู่ค้าหลักคือจีนและเวียดนามมากกว่าไทยในหลายหมวดสินค้า

2. ด้านวัฒนธรรม:

ละครไทยเป็นที่นิยมในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม) การแบนละครไทยอาจทำให้ผู้ชมกัมพูชาบางส่วนไม่พอใจ

ขณะเดียวกัน ก็อาจเป็นโอกาสให้กัมพูชาเร่งพัฒนาวงการภาพยนตร์ของตนเอง แต่คำถามคือ “พร้อมจริงหรือ?”

3. ด้านความมั่นคง:

หากปัญหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ยังไม่ถูกแก้ไขจริง ฝ่ายไทยอาจพิจารณาตัดระบบสนับสนุนในพื้นที่ชายแดนบางจุด ซึ่งจะส่งผลต่อความร่วมมือชายแดนในระยะยาว

 

กัมพูชากับความพยายามแสดง “อธิปไตย”

การออกมาประกาศของฮุน มาเนต ไม่เพียงแต่เป็นการตอบโต้ไทยเท่านั้น แต่ยังเป็น “การแสดงความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง” ให้ประชาชนกัมพูชาเห็นว่า รัฐบาลของเขาสามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่จำเป็นต้องง้อประเทศเพื่อนบ้าน หรืออยู่ใต้เงาของไทยอีกต่อไป

แต่คำถามคือ การแสดงออกเชิงอธิปไตยนั้น จะทำได้ยั่งยืนแค่ไหน? เพราะในความเป็นจริง โครงสร้างพลังงานของกัมพูชายังต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากไทยและลาวเป็นระยะ รวมถึงอินเทอร์เน็ตหลักยังมาจากโครงข่ายผ่านประเทศไทย

 

ไทยควรรับมืออย่างไร?

รัฐบาลไทยต้องรักษาสมดุลระหว่าง “ความมั่นคง” และ “การทูตแบบนุ่มนวล” เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งนี้บานปลายไปสู่ระดับที่กระทบภาพลักษณ์ระดับอาเซียน

โดยเฉพาะในยุคที่ไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกอาเซียนที่มีบทบาทเชิงรุก การขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านย่อมไม่เป็นผลดี ไม่ว่าจะในเวทีเศรษฐกิจหรือเวทีความร่วมมือด้านความมั่นคง

 

ละครยังไม่จบ อย่าเพิ่งลุกจากเก้าอี้

ประเด็นศึกน้ำลายนี้คงจะยังไม่จบง่าย ๆ เพราะมีทั้งมิติการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง และวัฒนธรรมซ้อนอยู่ภายใน แถมยังมีแรงผลักจากโลกโซเชียลที่ตอกย้ำความรู้สึกของผู้คนทั้งสองประเทศ

สุดท้ายนี้ คำพูดของ “แทค ภรัณยู” อาจจะดูแรง แต่ก็สะท้อนความรู้สึกของคนไทยจำนวนมากที่เห็นว่าการตอบโต้แบบนี้ของฝั่งกัมพูชานั้น เกินกว่าเหตุและขาดตรรกะในยุคโลกาภิวัตน์

โลกยุคนี้ไม่ใช่เวทีให้ใครมาเก่งใส่กันด้วยการ “แบน” หรือ “ประกาศตัดความร่วมมือ” อย่างไร้หลักการ เพราะสุดท้ายแล้ว ทุกประเทศก็ล้วนต้องพึ่งพาอาศัยกัน – ถ้าอยากก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

 

เนื้อหาโดย: zzz1111
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
zzz1111's profile


โพสท์โดย: zzz1111
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: paktronghie
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เลขเด็ด "หวยปฏิทินจีน" งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 68..คอหวยห้ามพลาด!แห่เทียนเข้าพรรษา ปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่อำเภอเดียวในประเทศไทย ที่มีจำนวนประชากรมากกว่า 5 แสนคน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อำเภอเดียวในประเทศไทย ที่มีจำนวนประชากรมากกว่า 5 แสนคน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
สาวเมืองคอนเครียดปัญหาครอบครัวกระโดดคลองหวังฆ่าตัวตาย ตำรวจกู้ภัย ช่วยระทึกหญิงมาเลเซียร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด หลังเห็นเพื่อนของเธอถูกรถตายต่อหน้า“ทรัมป์ประกาศ: ทองแดงไม่รอด! ภาษีใหม่ 50% งานนี้ใครจะรอด?”ทรัมป์งอนปูติน แต่ปูตินหันหลังเฉย
ตั้งกระทู้ใหม่