โป๊ะแตก! เปิดอาชีพจริง “ทหารหญิงส้นตึก” ก่อนโดนกัมพูชาเชิญปรับทัศนคติ
"เจ้าวรรณมรณา" หรือ "ทหารหญิงส้นตึก" แม่ค้าออนไลน์จากกัมพูชา ผู้ปลุกกระแสฮือฮาในโลกโซเชียล ก่อนถูกเรียกปรับทัศนคติ!
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คงไม่มีใครไม่รู้จัก "ทหารหญิงส้นตึก" ที่กลายเป็นไวรัลไปทั่วทั้งโซเชียลมีเดียในประเทศไทยและกัมพูชา ด้วยรูปลักษณ์และการแต่งกายที่ฉีกแนวจากภาพจำของ "ทหารหญิง" ที่ทุกคนคุ้นเคย เพราะเธอมาในลุคสุดแหวกแนว สวมรองเท้าส้นตึกสูงไม่ต่ำกว่า 5 นิ้ว แต่งหน้าเต็มยศ เดินตรวจแถวอย่างมั่นใจ พร้อมท่าทางที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ จนหลายคนถึงกับตั้งคำถามว่าเธอคือใครกันแน่?
จากคลิปไวรัลที่ถูกเผยแพร่ใน TikTok และ Facebook ทำให้หญิงสาวรายนี้ถูกตั้งฉายาโดยชาวเน็ตว่า “เจ้าวรรณมรณา” หรือ “แม่ทัพหญิงส้นตึก” กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ จนมีผู้ติดตามนับแสน และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่คนกัมพูชาเท่านั้น คนไทยจำนวนมากก็หลงเสน่ห์ความมั่นใจของเธอ รวมถึงการแต่งกายที่ดูสะดุดตาและกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
จุดเริ่มต้นของกระแส "ทหารหญิงส้นตึก" จากแม่ค้าสู่แม่ทัพโลกโซเชียล
แม้จะดูเหมือนว่าเธอเป็นข้าราชการทหารตัวจริงจากฝั่งกัมพูชา แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะภายหลังมีการตรวจสอบจนพบว่าเธอไม่ได้มีสถานะเป็นทหารของกัมพูชาแต่อย่างใด แต่เป็นเพียง "แม่ค้าออนไลน์" ชาวกัมพูชาที่อาศัยกลยุทธ์การตลาดแนวใหม่ ด้วยการสร้างคาแร็กเตอร์เป็น "ทหารหญิงสุดแซ่บ" เพื่อสร้างคอนเทนต์หวังเพิ่มยอดขายสินค้าและเพิ่มผู้ติดตามในโลกโซเชียล
แนวคิดการสร้างตัวตนเช่นนี้ แม้จะเรียกเสียงฮือฮาได้มากมาย แต่ก็ต้องแลกมากับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ตามมาเป็นเงา และยิ่งเมื่อความจริงถูกเปิดเผยว่าเธอไม่ได้เป็นทหารจริงๆ หลายฝ่าย โดยเฉพาะในกัมพูชา ต่างออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างมาก
ดอกเหมย เพ็ญนภา COVER จนกลายเป็นกระแสต่อเนื่อง
ในประเทศไทยเอง กระแสของ "ทหารหญิงส้นตึก" ก็ไม่ได้น้อยหน้ากัน เพราะอยู่ๆ นักร้องหมอลำชื่อดังอย่าง “ดอกเหมย เพ็ญนภา สมสุข” ก็ได้ทำการแปลงโฉมแต่งคอสเพลย์เป็นทหารหญิงรายนี้แบบเต็มยศ พร้อมทั้งมีหนุ่มข้างกายที่ถอดแบบกันมาแทบทุกกระเบียดนิ้ว จนกลายเป็นไวรัลอีกรอบในโลกโซเชียลไทย
แฟนคลับต่างพากันกดไลก์ แชร์ และคอมเมนต์กันสนั่น โดยมีทั้งชื่นชมความสร้างสรรค์ของดอกเหมย และแสดงความประทับใจกับการนำวัฒนธรรมโซเชียลมาผสมผสานในวงการบันเทิงไทย
จากไวรัลกลายเป็นประเด็นระดับชาติ: การเรียกปรับทัศนคติ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวเริ่มบานปลาย ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ทาง กองทัพกัมพูชา ได้ดำเนินการสอบสวนหญิงสาวรายนี้ และได้มีการ เรียกปรับทัศนคติ อย่างเป็นทางการ โดยผู้บัญชาการหน่วยทหารของกัมพูชาได้เชิญตัว "เจ้าวรรณมรณา" และสามีมาทำการตักเตือน เนื่องจากการแต่งกายเลียนแบบเครื่องแบบทหารและการแสดงบทบาทในที่สาธารณะนั้น ถือว่าเป็นการละเมิดความมั่นคงของชาติ และสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนทั้งในและนอกประเทศ
ตามรายงานระบุว่า เธอถูกว่ากล่าวอย่างเคร่งครัดในเรื่องการนำชุดเครื่องแบบทหารมาใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการตลาด และถูกขอความร่วมมือให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมทั้งลบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องออกจากโซเชียลมีเดีย
เสียงสะท้อนจากสังคมออนไลน์กัมพูชา
แม้ว่าจะมีผู้ชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ของเธอจำนวนไม่น้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมกัมพูชาเองมีเสียงตำหนิออกมาอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มที่เคารพในเกียรติของกองทัพ และกลัวว่าการกระทำของเธออาจสร้างภาพลักษณ์ที่ผิดเพี้ยนของทหารหญิงกัมพูชาในสายตาชาวโลก
ในโลกออนไลน์กัมพูชา มีการแชร์ข้อความในเชิงตำหนิ เช่น:
“นี่ไม่ใช่เรื่องตลก การแต่งชุดทหารคือการให้เกียรติ ไม่ใช่การทำเพื่อยอดวิว”
“ขอให้หน่วยงานรัฐลงโทษอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นใครก็ทำตามได้หมด”
“เราภูมิใจในกองทัพ ไม่อยากให้ใครมาล้อเล่นกับเครื่องแบบที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้”
การตลาดแนวใหม่ หรือ การละเมิดจริยธรรม?
กรณีของ "เจ้าวรรณมรณา" สะท้อนให้เห็นถึง เส้นบางๆ ระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับความเหมาะสม เพราะในยุคที่การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์สามารถพลิกชีวิตคนธรรมดาให้กลายเป็นเซเลบได้ภายในไม่กี่วัน บางคนอาจมองว่าการสวมบทบาททหารหญิงก็เป็นเพียงคอนเทนต์สนุกๆ แต่ในสายตาของหน่วยงานรัฐและกลุ่มผู้มีจิตสำนึกต่อสังคม อาจมองว่าเป็นการล้อเลียน หรือบิดเบือนความจริง ซึ่งอาจนำไปสู่ผลกระทบในระดับที่ไม่ควรมองข้าม
บทเรียนของ "เจ้าวรรณมรณา" และยุคใหม่ของการสร้างตัวตนออนไลน์
เรื่องราวของ "ทหารหญิงส้นตึก" หรือ "เจ้าวรรณมรณา" ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของคนในยุคดิจิทัล ที่การสร้างคอนเทนต์และตัวตนบนโลกโซเชียลสามารถนำมาซึ่งชื่อเสียง รายได้ และความสนใจจากผู้คนทั่วโลกในเวลาอันสั้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจกลายเป็นบูมเมอแรงที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง หากเนื้อหานั้นไปกระทบต่อประเด็นละเอียดอ่อน เช่น ชาติ ศาสนา สถาบัน หรือความมั่นคง
แม้จะมีการปรับทัศนคติและลบคลิปบางส่วนออกไปแล้ว แต่ปรากฏการณ์ "แม่ทัพหญิงส้นตึก" ก็ยังคงเป็นที่จดจำ และพูดถึงในฐานะตัวอย่างของพลังไวรัล ที่สามารถสร้างได้ทั้งโอกาสและปัญหาในคราวเดียวกัน





















