ไม่โพสต์ไม่แชร์ เด็กกับโซเชียลยุคใหม่ของกลุ่มคนที่เลือกไร้ตัวตนบนโลกออนไลน์
คนรุ่นใหม่กับโลกออนไลน์: ทำไมบางคนเลือกเงียบในยุคที่ใครๆ ก็แชร์
ในยุคที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน หลายคนอาจคิดว่าเด็กและเยาวชนที่เติบโตมาพร้อมโลกดิจิทัลจะคุ้นเคยและใช้งานสื่อออนไลน์ได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งก็จริงในหลายกรณี เราเห็นคนรุ่นใหม่สร้างคอนเทนต์ ทำงานออนไลน์ และใช้แพลตฟอร์มเป็นช่องทางแสดงตัวตนอย่างอิสระ
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่เลือกจะ “เงียบ” บนโซเชียล มีบัญชีแต่ไม่โพสต์ ไม่คอมเมนต์ ไม่เปิดเผยอะไรเลย หรือแม้กระทั่งลบข้อมูลออกเป็นระยะ พฤติกรรมนี้ไม่ได้สะท้อนถึงการต่อต้านเทคโนโลยี แต่กลับบอกเล่าเรื่องราวของความระมัดระวัง ความตระหนักรู้ และแรงกดดันทางจิตใจที่มากับโลกออนไลน์
ใช้หนักก็จริง แต่เริ่มรู้ทัน
แม้คนรุ่นใหม่จะใช้สื่อออนไลน์อย่างเป็นธรรมชาติ แต่การ “รู้ทัน” สื่อก็เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน หลายคนเริ่มตั้งคำถามกับพฤติกรรมการใช้งานของตัวเอง ตั้งแต่การแชร์เรื่องส่วนตัว ไปจนถึงการเปิดเผยข้อมูลที่อาจย้อนกลับมาสร้างปัญหาในอนาคต การเงียบ ไม่ได้หมายถึงการเลิกใช้ แต่อาจหมายถึงการเลือกใช้แบบมีสติ
เงียบเพราะระวัง ไม่ใช่ไม่ใช้
บางคนกลายเป็นผู้ใช้งานแบบ “สังเกตการณ์” หรือ lurker คือใช้เวลาในโลกออนไลน์ไปกับการเสพข้อมูลมากกว่าการแสดงออก ไม่ใช่เพราะไม่รู้ หรือไม่สนใจ แต่เพราะมีเหตุผลเชิงจิตวิทยาและสังคมที่ลึกซึ้งกว่านั้น เช่น ไม่อยากตกเป็นเป้าของการตัดสิน หรือรู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวคือสิ่งที่ต้องรักษาไว้ให้มากที่สุด
Digital Footprints กับการถูกตัดสิน
คำว่า Digital Footprints หรือ “รอยเท้าดิจิทัล” หมายถึงข้อมูลทุกอย่างที่เราทิ้งไว้บนโลกออนไลน์ ตั้งแต่โพสต์ รูปภาพ ไลก์ คอมเมนต์ ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้อาจดูไม่สำคัญในวันนี้ แต่ในอนาคตอาจถูกนำมาใช้พิจารณาในเรื่องสำคัญ เช่น การรับเข้าทำงาน หรือการประเมินความเหมาะสมในแวดวงวิชาชีพ
หลายบริษัทเริ่มใช้โซเชียลมีเดียเป็นหนึ่งในช่องทางตรวจสอบผู้สมัคร บางคนจึงเลือกไม่เปิดเผยตัวเองเลย หรือคอยลบข้อมูลเพื่อควบคุมภาพลักษณ์ของตนเองในระยะยาว
แรงกดดันทางจิตใจ: เมื่อโลกออนไลน์ไม่ปลอดภัยอย่างที่เคยคิด
1. ความคาดหวังต่อภาพลักษณ์
คนรุ่นใหม่มักรู้สึกว่าต้อง “ดูดี” บนโซเชียล โพสต์แต่ละโพสต์อาจมีแรงกดดันว่าจะถูกไลก์ ถูกแชร์ หรือเป็นที่ยอมรับในสายตาผู้อื่น จึงไม่แปลกที่บางคนจะเลือกเงียบ เพื่อไม่ต้องเผชิญกับความรู้สึกว่า “ไม่พอ”
2. การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น
เมื่อเห็นชีวิตของคนอื่นผ่านโซเชียล ซึ่งมักเป็นด้านที่สวยงามและประสบความสำเร็จ อาจทำให้รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ไม่ดีพอ หรือไม่มีอะไรน่าสนใจจะเล่า ส่งผลต่อ self-esteem และความมั่นใจในตัวเอง
3. ความรู้สึกไม่ปลอดภัยและหวาดระแวง
หลายคนเริ่มระแวงว่าข้อมูลหรือความคิดเห็นเล็กๆ น้อยๆ อาจถูกนำไปขยายผล หรือตัดสินโดยไม่เข้าใจบริบท ยิ่งในยุคที่ทุกสิ่งถูกแคป ถูกแชร์ และวิจารณ์ได้อย่างรวดเร็ว ความเงียบจึงกลายเป็นการปกป้องตัวเองจากความเสี่ยงทางอารมณ์
4. ความเหนื่อยล้าทางจิตใจจากข้อมูลล้นทะลัก
โลกออนไลน์เต็มไปด้วยข้อมูล ข่าวสาร ดราม่า ความเห็นแตกต่าง การเสพสิ่งเหล่านี้ต่อเนื่องโดยไม่พัก อาจทำให้หลายคนล้า เบื่อ หรือหมดพลังใจ จึงเลือก “ถอย” เพื่อดูแลสุขภาพจิตของตัวเอง
อยู่กับโลกออนไลน์แบบมีสติ
พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้สะท้อนถึงความต่อต้านเทคโนโลยี แต่สะท้อนถึงการเข้าใจธรรมชาติของโลกออนไลน์มากขึ้น คนรุ่นใหม่จำนวนมากอาจไม่ได้อยากโดดเด่นบนโซเชียล แต่เลือกจะอยู่กับมันอย่างระมัดระวัง และมีสติ เพื่อรักษาทั้งภาพลักษณ์และจิตใจของตัวเองให้อยู่รอดในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
คนรุ่นใหม่ที่เลือกเงียบในโลกออนไลน์





















