"พิธา" โพสต์เดือด! สะกิดใจทั้งประเทศ พูดชัดหน้าที่แท้จริงของ "ทหาร"
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก: "ทหารมีไว้ปกป้อง ไม่ใช่ปกครองประเทศ" ชี้แนวคิดประชาธิปไตยต้องชัดเจน ย้ำต้องจัดการความขัดแย้งอย่างมียุทธศาสตร์
เมื่อสถานการณ์ชายแดนกลับมาเป็นที่จับตามองของสังคมอีกครั้ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ซึ่งกลายเป็นที่สนใจในหมู่ผู้ติดตามทางการเมืองอย่างรวดเร็ว
ข้อความดังกล่าวสะท้อนทัศนคติอันชัดเจนของนายพิธาต่อบทบาทของทหารในระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะในบริบทของการเมืองไทยที่มักมีความขัดแย้งซับซ้อนระหว่าง “อำนาจพลเรือน” กับ “อำนาจทหาร” ซึ่งหลายครั้งในอดีตประเทศไทยต้องเผชิญกับการรัฐประหารและการแทรกแซงทางการเมืองจากกลุ่มผู้มีอำนาจนอกระบบ
“ทหารมีไว้ปกป้อง ไม่ใช่ปกครอง”
นายพิธาเริ่มต้นด้วยข้อความที่เด็ดขาดและตรงประเด็นว่า
“ทหารมีไว้ปกป้องประเทศ ไม่ใช่ปกครองประเทศครับ”
คำพูดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นแนวคิดพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยที่ทหารต้องอยู่ใต้การควบคุมของรัฐบาลพลเรือน ไม่ใช่เป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองโดยตรง การเมืองและการบริหารประเทศต้องดำเนินไปตามเจตจำนงของประชาชน ไม่ใช่ผ่านอำนาจปืนหรือรถถัง
ย้ำจุดยืนของอดีตพรรคก้าวไกล: สนับสนุน “ทหารที่ปกป้อง” และปฏิเสธ “ทหารที่ปกครอง”
ในข้อความที่โพสต์ นายพิธาได้อธิบายเพิ่มเติมถึงจุดยืนของอดีตพรรคก้าวไกลอย่างชัดเจนว่า พรรคฯ พยายาม ปกป้องทหารที่ปกป้องประเทศ แต่ ปฏิเสธทหารที่พยายามจะปกครองประเทศ
เขายกตัวอย่างถึงภาพของ “ทหารมืออาชีพ” ที่ควรยืนอยู่เคียงข้างประชาชน มีสิทธิมนุษยชน ได้รับสวัสดิการที่ดี ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน และมีเส้นทางอาชีพที่มั่นคง พร้อมเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและใช้งานได้จริง
ในขณะเดียวกัน เขาวิพากษ์ทหารที่ “ปกครอง” ประเทศว่าเป็นกลุ่มที่ใช้อำนาจนอกระบบ ยึดอำนาจด้วยการรัฐประหาร แทรกแซงการเมือง ไม่เคารพประชาชน และใช้งบประมาณรัฐอย่างไม่เป็นธรรม ยิ่งไปกว่านั้น เขายังชี้ว่า การทำสงครามข่าวสาร (information warfare) กับประชาชน และการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนทั้งในและนอกประเทศ คือสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ในสังคมประชาธิปไตย
ความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดน: แต่ไม่ต้องการให้ความเห็นเป็นชนวนความขัดแย้ง
ในช่วงท้ายของโพสต์ นายพิธาได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทยที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในขณะนี้ โดยยืนยันว่า เขาติดตามสถานการณ์ด้วยความห่วงใยเช่นเดียวกับประชาชนทุกคน แต่ไม่ประสงค์จะตอบโต้หรือแสดงความเห็นที่อาจทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
เขาย้ำว่า สมาชิกของพรรคประชาชน ซึ่งเขาเชื่อว่ามีความรู้ความสามารถ กำลังทำหน้าที่ในการให้คำแนะนำแก่รัฐบาลเป็นอย่างดีแล้ว
“ความเห็นผมคงไม่จำเป็นในตอนนี้”
“แต่นานๆ จะโพสต์ทีหนึ่ง คิดว่าประชาชนอยากเห็นการจัดการความขัดแย้งอย่างมียุทธศาสตร์ รู้ว่าอะไรคือระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว”
คำกล่าวของเขาชี้ให้เห็นถึงแนวคิดเชิงระบบ (Strategic, Comprehensive และ Proportionate) ในการจัดการปัญหาความมั่นคง ไม่ใช่เพียงการใช้อำนาจทางทหารเท่านั้น แต่ต้องมีการบูรณาการมาตรการหลากหลาย และเข้าใจสถานการณ์อย่างรอบด้าน
แนวคิด "ยุทธศาสตร์ - ครบถ้วน - พอเหมาะ": การบริหารความขัดแย้งในโลกสมัยใหม่
นายพิธายังกล่าวถึงแนวคิดในการจัดการความขัดแย้งในสถานการณ์เปราะบางว่า ต้องใช้ “ความเข้าใจเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic) การพิจารณาองค์รวม (Comprehensive) และการใช้มาตรการที่พอเหมาะพอควร (Proportionate)”
แนวคิดนี้สะท้อนถึงการไม่มองปัญหาเพียงแง่มุมเดียว เช่นการส่งทหารไปรักษาความสงบ หรือใช้อำนาจพิเศษเพื่อระงับสถานการณ์ แต่ต้องเข้าใจบริบททางสังคม เศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และผลกระทบระยะยาวด้วย
นายพิธายังแอบเปิดเผยในตอนท้ายว่า เขาได้ส่งบทความวิเคราะห์สถานการณ์ให้กับสำนักพิมพ์ เพื่อแสดงความเห็นเชิงวิชาการแทนการใช้พื้นที่โซเชียลมีเดีย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่สะท้อนความเป็น “นักการเมืองยุคใหม่” ที่ไม่ได้เพียงแสดงความคิดเห็น แต่ยังใช้เครื่องมือทางความรู้เพื่อผลักดันสังคมไปข้างหน้า
สรุป: เสียงสะท้อนของประชาธิปไตยจากพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
โพสต์ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในครั้งนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นการส่งสารถึงผู้มีอำนาจทั้งหลายว่า “ประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องเริ่มจากการรู้ว่าใครควรอยู่ตรงไหน” ทหารควรมีบทบาทปกป้องประเทศ ไม่ใช่ปกครองประเทศ
นอกจากนี้ เขายังแสดงให้เห็นถึงวิธีคิดที่ลึกซึ้งต่อการบริหารความขัดแย้ง ที่ไม่ใช่การ “โต้กลับทันที” แต่เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบด้านและเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสม
เสียงของพิธาอาจเงียบลงจากการเป็นฝ่ายค้าน แต่ความคมของเนื้อหาที่เขานำเสนอยังคงมีอิทธิพล และทำให้หลายฝ่ายต้องหยุดคิด ว่าประเทศไทยควรไปทางไหนในยุคที่ประชาชนต้องการความโปร่งใส ยุติธรรม และมีอนาคตที่มั่นคง

















