สรรพากรงานเข้า รายได้ภาษีนิติบุคคลวูบหนัก เตรียมเล็งภาษีใหม่เพิ่มรายได้รัฐบาล
ช่วงนี้ใครที่ติดตามข่าวเศรษฐกิจคงได้ยินข่าวว่ากรมสรรพากรกำลังเจอโจทย์หินเรื่องการจัดเก็บรายได้ค่ะ โดยเฉพาะภาษีนิติบุคคลที่ลดลงแบบน่าเป็นห่วง ขนาดว่าช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค. 67 – เม.ย. 68) ยังพอเก็บได้เกินเป้าหน่อย ๆ แต่พอเข้าสู่กลางปี รายได้จากการยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51 ก็เริ่มหายวับไปกับตา
ท่านอธิบดีกรมสรรพากร คุณปิ่นสาย สุรัสวดี ออกมาบอกเองเลยค่ะว่า ปีหน้าเป้าการจัดเก็บภาษีตั้งไว้ถึง 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีนี้อีกแสนล้าน เรียกได้ว่าเหนื่อยแน่นอนค่ะ เพราะเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยเอื้อ คนทำมาหากินก็ลำบาก
กรมจึงเริ่มมองหาฐานภาษีใหม่ ๆ เช่น
ภาษีการเดินทางออกนอกประเทศ (สมัยก่อนเก็บ 500 บาท/คน แต่ตอนนี้งดไปแล้ว ถ้าจะกลับมาเก็บอีกก็ต้องแก้กฎหมาย)
ภาษีการลงทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นต่างประเทศที่มาจดในไทย
การพิจารณาเก็บ VAT กับผู้มีรายได้ตั้งแต่ 1.5 ล้านบาท/ปี (อันนี้ยังศึกษาอยู่ค่ะ)
ปรับเพดานรายได้ที่ต้องจด VAT จาก 1.8 ล้าน เป็น 2.4 ล้านบาท เพื่อกันไม่ให้บางรายแกล้งอั้นรายได้ให้ต่ำกว่าที่ต้องจดภาษี
แถมยังมีปัญหาเรื่องต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในไทยแต่ไม่เสียภาษีจริง เช่น จดทะเบียนไว้ แต่ขายของจริงอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องอาศัยการเจรจาระหว่างประเทศ และอิงตามข้อตกลงระดับโลก
สรุปคือ ตอนนี้กรมสรรพากรพยายามสุดความสามารถในการหารายได้เข้าประเทศให้ได้ตามเป้า แต่อะไรที่ต้องปรับ หรือเก็บภาษีใหม่ ๆ ก็คงต้องรอรัฐบาลเป็นคนตัดสินใจอีกทีค่ะ
พวกเราคนธรรมดาก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า จะมีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือภาษีแบบไหนจะมาในอนาคต... เพราะไม่ว่าอย่างไรสุดท้ายก็อาจกระทบถึงพวกเราอยู่ดีค่ะ





















