ไม่เหลืออะไรแล้ว! “กำเงิน” โอดหมดตัว ลั่นถูกกลั่นแกล้งเพราะจน
"กำเงิน" ลูกสาวครอบครัวคลิปลับ ไลฟ์ทั้งน้ำตา ตัดพ้อชีวิตหลังเจอมรสุมคดี ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ ซัดแรง! อย่าโยนความจนเป็นข้ออ้าง
เป็นอีกหนึ่งคดีที่สร้างแรงสะเทือนให้กับสังคมไทย เมื่อข่าวครอบครัวหนึ่งในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยมี “แม่วัย 34 ปี” เป็นหัวเรือใหญ่ และมีลูก ๆ ทั้งหมด 9 คน ร่วมกันถ่ายทำคลิปวิดีโอลามกอนาจารเพื่อนำไปจำหน่ายในกลุ่มลับออนไลน์ กลายเป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง เพราะเนื้อหาในคลิปเข้าข่ายละเมิดสิทธิเด็กและการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากผู้เยาว์อย่างร้ายแรง
หลังจากที่หน่วยงานด้านกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าดำเนินการทางคดี โดยจับกุมผู้เกี่ยวข้องและนำสู่กระบวนการยุติธรรม เรื่องราวดูเหมือนจะซาไปบ้าง แต่ล่าสุดกลับมีความเคลื่อนไหวที่ทำให้สังคมหันกลับมาสนใจอีกครั้ง
“กำเงิน” ลูกสาวคนโต ไลฟ์สดกลางดึก พูดทั้งน้ำตา: “ตอนนี้ชีวิตจะหมดตัวแล้ว”
เมื่อวันที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง “ท่านเปา” ได้เผยคลิปบางช่วงที่ได้จากไลฟ์สดของ “กำเงิน” ลูกสาวคนโตในครอบครัวที่ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับคลิปอนาจาร โดยในคลิปดังกล่าว “กำเงิน” ปรากฏตัวพร้อมน้ำตาคลอเบ้า พูดตัดพ้อถึงชีวิตในปัจจุบันว่า “ตอนนี้เงินทองไม่มีเหลือแล้ว ทุกบาททุกสตางค์ที่เคยได้จากการขายคลิปก็ต้องเอาไปจ่ายค่าทนาย ค่าดำเนินการทางคดี จำนำทรัพย์สินก็หมดแล้ว ตอนนี้ครอบครัวเรากำลังจะหมดตัว…”
เพจ “ท่านเปา” ยังเขียนแคปชั่นที่มีลักษณะสะเทือนใจว่า
“กำเงินหลั่งน้ำตา ทำไมชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทำไมต้องรังแกคนจน….”
ชาวเน็ตแห่วิจารณ์ สนั่นโซเชียล: “จนไม่ใช่ข้ออ้างในการทำผิดกฎหมาย!”
หลังคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างพากันเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม และเสียงส่วนใหญ่ต่างแสดงความไม่เห็นด้วยกับการกระทำของครอบครัวดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำลูก ๆ ซึ่งยังเป็นเยาวชน เข้ามาเกี่ยวข้องกับการถ่ายคลิปลามกอนาจาร โดยมองว่าเรื่องนี้เป็นการละเมิดสิทธิเด็กและผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง ไม่สามารถแก้ตัวได้ด้วยคำว่า "ความจน"
“มีคนจนอีกตั้งเยอะที่เขาเลือกจะทำมาหากินสุจริต ทำไมครอบครัวนี้ถึงต้องเลือกทางผิด?”
“ขายคลิปโป๊แล้วบอกว่าจน เลือกทางลัดเองแท้ ๆ แล้วจะมาเรียกร้องความสงสารทำไม?”
“น้อง ๆ ที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นี่มันโหดร้ายเกินไป…”
มีบางความคิดเห็นที่ตั้งคำถามถึง “กำเงิน” ว่าเธอเองก็โตพอที่จะตัดสินใจได้ว่าอะไรผิดอะไรถูก แต่กลับร่วมมือในการกระทำดังกล่าว แล้ววันนี้ออกมาไลฟ์ร้องไห้ อาจเป็นแค่การพยายามเรียกร้องความเห็นใจหรือไม่?
ด้านนักสิทธิมนุษยชน: เห็นใจแต่ไม่สามารถยกเว้นโทษ
แม้ว่าหลายความคิดเห็นจะรุมตำหนิการกระทำของครอบครัวนี้อย่างรุนแรง แต่ก็มีบางมุมจากนักสิทธิมนุษยชนที่ออกมาแสดงความเห็นว่า
“เราต้องแยกแยะระหว่างการเข้าใจปัญหาสังคมกับการยกเว้นความผิด การที่ครอบครัวนี้อาจตกอยู่ในความยากลำบากจริง แต่การนำเด็กมาเกี่ยวข้องกับการผลิตสื่ออนาจารเป็นเรื่องที่ผิดอย่างไม่มีข้อยกเว้น”
พร้อมเน้นย้ำว่า รัฐควรเร่งเยียวยาเด็ก ๆ ที่เป็นเหยื่อในครั้งนี้ เพราะพวกเขายังมีอนาคตที่ต้องเดินต่อ และไม่ควรต้องแบกรับบาปกรรมจากการตัดสินใจผิดของผู้ใหญ่ในครอบครัว
“ท่านเปา” จุดประเด็นสังคม: ความจน = เหยื่อ หรือ = ข้ออ้าง?
สิ่งที่น่าสนใจในกรณีนี้ คือบทบาทของเพจ “ท่านเปา” ที่มักจะหยิบยกประเด็นร้อนในสังคมมาเล่าให้ผู้คนได้ร่วมกันคิดและวิจารณ์ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อมีการตั้งคำถามผ่านแคปชั่นอย่าง “ทำไมต้องขังแค่คนจน” ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ถกเถียงถึงประเด็นว่า ความยากจนในประเทศนี้เป็นต้นตอของปัญหาหรือไม่ และควรถูกมองว่าเป็น “เหตุผล” หรือ “ข้ออ้าง” ของการทำผิดกฎหมาย?
หลายคนมองว่า การนำเสนอเรื่องราวของกำเงินในมุมที่น่าสงสาร อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า “คนจนคือเหยื่อของระบบ” แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นจากการกระทำที่ละเมิดสิทธิเด็กและผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง ซึ่งหากไม่พูดถึงตรงนี้อย่างชัดเจน ก็อาจทำให้ปัญหาซ้ำซากและไม่ได้รับการแก้ไขในระยะยาว
กรณีของครอบครัวคลิปลับนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการกระทำผิดกฎหมายธรรมดา แต่สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำของสังคม การขาดความรู้เท่าทันสื่อ และการไร้ระบบป้องกันที่เข้มแข็งเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเปราะบางอย่างเด็กและเยาวชน
ขณะเดียวกันก็ยังเป็นบทเรียนสำคัญว่า ความจนไม่ควรเป็นข้ออ้างในการเลือกทางผิด และความรับผิดชอบต่อการกระทำยังคงเป็นหลักการที่ต้องยึดถือไว้เหนือทุกสิ่ง โดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวพันกับอนาคตของเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
สุดท้าย แม้จะมีเสียงเห็นใจต่อสถานการณ์ของ “กำเงิน” แต่เสียงของชาวเน็ตที่สะท้อนถึงศีลธรรม ความถูกต้อง และอนาคตของสังคมไทยในระยะยาวก็ยังคงดังก้องและเป็นเครื่องเตือนใจที่สำคัญสำหรับสังคมในยุคนี้.
อ้างอิงจาก: เพจเฟสบุ๊ค ท่านเปา






















