ช็อกทั้งร้าน! พระทองคำ 3 แสนที่บูชา 30 ปี พอพิสูจน์แล้วแทบล้มทั้งยืน
ไวรัลดัง! ลูกค้านำ "พระทองคำ" ที่บูชามา 30 ปี มูลค่า 3 แสนบาทให้ร้านทองตรวจสอบ สุดท้ายรู้ความจริงถึงกับช็อก!
เป็นเรื่องราวไวรัลที่กำลังได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม TikTok หลังจากผู้ใช้บัญชีชื่อว่า @namobanchanglongdaengsou หรือร้าน “นะโมบ้านช่างทอง” ซึ่งเป็นร้านรับทำทองและตรวจสอบทองชื่อดังในพื้นที่ ได้เผยเรื่องราวของลูกค้ารายหนึ่งที่นำ “พระทองคำ” ที่เชื่อและศรัทธาว่าเป็นพระทองคำแท้มานานกว่า 30 ปี มาให้ตรวจสอบ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นสร้างความตกตะลึงทั้งต่อเจ้าของพระและผู้ชมในโลกโซเชียล
เรื่องราวเริ่มต้นจากลูกค้าจำนวน 2 คน ได้นำพระพุทธรูปที่ตนเชื่อว่าเป็นทองคำแท้ พร้อมกับทองคำอื่นๆ ที่เป็นงานสั่งทำ มาให้ทางร้านช่วยตรวจสอบ โดยเฉพาะพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่เจ้าของกล่าวว่าได้มาเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ด้วยราคา 300,000 บาท ซึ่งในยุคนั้นถือว่าเป็นราคาที่สูงมาก ถ้าเทียบเป็นมูลค่าปัจจุบันก็อาจแตะถึง 2-3 ล้านบาท เลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อคำนวณจากน้ำหนักของพระพุทธรูปองค์นี้ที่มากกว่า 2 กิโลกรัม
ลูกค้าให้เหตุผลที่นำพระมาให้ร้านช่วยตรวจสอบว่า แม้ตนเองจะศรัทธาและบูชาพระองค์นี้มานาน แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า พระพุทธรูปองค์นี้เป็น “ทองคำแท้” จริงหรือไม่ เพราะไม่เคยมีการตรวจสอบอย่างละเอียดมาก่อน อีกทั้งยังได้ยินข่าวเกี่ยวกับการปลอมทองคำในรูปแบบต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง จึงอยากรู้ให้แน่ใจ
เพื่อเป็นการเปรียบเทียบเบื้องต้น ทางร้านนะโมจึงได้เริ่มจากการเอ็กซเรย์ทองคำที่ลูกค้านำมาพร้อมกัน ซึ่งเป็นทองคำที่เป็นงานสั่งทำ ปรากฏว่า มีเปอร์เซ็นต์ทองสูงถึง 96% ซึ่งจัดว่าเป็นทองแท้แน่นอนตามมาตรฐานทองคำไทย เมื่อเทียบกับสีของทองจากพระพุทธรูปก็พบว่าคล้ายกัน แต่เพื่อความแน่ใจ ร้านจึงดำเนินการตรวจสอบในเชิงลึก
การเอ็กซเรย์เผยความจริง
ขั้นตอนต่อไป ทางร้านได้นำบริเวณ “ฐานพระ” ซึ่งมักเป็นส่วนที่ใช้วัสดุจริงในการขึ้นรูปพระพุทธรูปไปทำการ เอ็กซเรย์ด้วยเครื่องวิเคราะห์โลหะ พบว่า:
ทองคำอยู่ที่ประมาณ 82%
มีส่วนผสมของ เงิน 2%
มี ทองแดง 11%
และมี สังกะสี 4%
ซึ่งการพบ “สังกะสี” ในชิ้นงานทองคำถือเป็น สัญญาณเตือนสำคัญ เพราะสังกะสีเป็นส่วนประกอบหลักที่ใช้ในโลหะประเภท “ทองเหลือง” ซึ่งมีสีและลักษณะคล้ายทองคำมาก แต่มีมูลค่าต่ำกว่ามาก
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำยิ่งขึ้น ทางร้านจึงนำบริเวณ “รอบกลอก” หรือขอบฐานด้านหลังขององค์พระไปตรวจสอบเพิ่มเติม และพบว่า เปอร์เซ็นต์ทองลดลงเหลือเพียง 16% และมีปริมาณ สังกะสีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งชี้ให้เห็นว่าบริเวณนี้อาจเป็น “งานชุบ” มากกว่าจะเป็นเนื้อทองคำแท้
สรุปผลการตรวจสอบ: พระองค์นี้ "ไม่ใช่ทองคำแท้"
จากการวิเคราะห์หลายจุดขององค์พระ ทางร้านสรุปว่า พระพุทธรูปองค์นี้ไม่ได้ทำจากทองคำแท้แบบที่เจ้าของเข้าใจมาโดยตลอด แต่เป็นเพียง ทองเหลืองที่ผ่านการชุบ เพื่อให้ดูเหมือนทองคำ หรืออาจมีการใช้ทองคำผสมเพียงเล็กน้อยในบางจุดเท่านั้น ซึ่งแม้จะมีเนื้อทองคำอยู่บ้างแต่ไม่เพียงพอให้ถือว่าเป็นทองคำแท้ตามมาตรฐาน
การที่ส่วนฐานมีทองคำประมาณ 82% ก็อาจหมายถึงการ ใส่แผ่นทอง หรือส่วนผสมบางอย่างไว้เฉพาะจุดเพื่อหลอกตา และสร้างความเชื่อถือว่านี่คือพระทองคำแท้ แต่เมื่อพิจารณาทั้งองค์กลับไม่พบเนื้อทองคำที่มีคุณภาพตามที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะส่วนสำคัญอย่างฐานและด้านหลัง
แม้ว่าผลตรวจสอบจะเป็นที่ชัดเจนว่า พระพุทธรูปองค์นี้ไม่ใช่ทองคำแท้ตามที่เข้าใจ แต่ลูกค้ากลับไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองหรือเสียใจมากนัก ตรงกันข้ามยังคงเลือก เก็บพระองค์นี้ไว้บูชาต่อไป ด้วยความศรัทธาเดิม พร้อมกับกล่าวว่าแม้จะไม่ใช่ทองคำแท้ แต่ก็เป็นพระที่ตนเคารพและมีคุณค่าทางจิตใจมาโดยตลอด
ในอีกด้านหนึ่ง ทองคำที่เป็น “งานสั่งทำ” ซึ่งลูกค้านำมาด้วยเพื่อเปรียบเทียบและตรวจสอบกลับพบว่าเป็นทองคำแท้แน่นอน ทางร้านจึงช่วยหลอมและตีราคาให้ ซึ่งเดิมลูกค้าคาดหวังว่าจะได้ราว 300,000 บาท ปรากฏว่าราคาประเมินล่าสุดอยู่ที่ 301,211 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับที่คาดไว้ และถือเป็นข่าวดีท่ามกลางความผิดหวังจากพระองค์ก่อน
หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ใน TikTok ก็กลายเป็นไวรัลที่มีคนแชร์ต่อกันอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงวิจารณ์และมุมมองที่หลากหลาย บางคนรู้สึกสงสารเจ้าของที่ถูกหลอกมาตลอด 30 ปี ขณะที่บางคนมองว่านี่คือ “บทเรียนราคาแพง” เกี่ยวกับการซื้อขายสิ่งของมีค่าที่ไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียด
หลายคนยังกล่าวชื่นชมทางร้านนะโมบ้านช่างทองที่ให้บริการด้วยความเป็นธรรม ซื่อสัตย์ และกล้าพูดความจริงกับลูกค้า แม้ว่าจะเป็นความจริงที่อาจเจ็บปวดก็ตาม พร้อมกันนี้ยังเป็นการเปิดเผยให้เห็นถึง เทคนิคการตรวจสอบทองคำในปัจจุบัน ว่าสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ส่วนประกอบทางเคมีได้อย่างแม่นยำ โดยไม่จำเป็นต้องเจาะหรือทำลายชิ้นงาน
ความศรัทธาอยู่เหนือมูลค่าทางวัตถุ
แม้สุดท้ายพระองค์นี้จะไม่ใช่ทองคำแท้ตามที่เชื่อ แต่ความศรัทธาของเจ้าของยังคงไม่เปลี่ยนแปลง บางทีสิ่งนี้อาจสำคัญกว่าราคาหรือมูลค่าที่สามารถประเมินได้ เพราะ "คุณค่าทางจิตใจ" ไม่มีเครื่องเอ็กซเรย์ใดวัดได้
อ้างอิงจาก: TikTok@namobanchanglongdaengsou




















