หมอเตือน! พฤติกรรมนี้ที่หลายคนทำตอนเล่นมือถือ อาจเป็น "ระเบิดเวลา" ทำลายสมองแบบเงียบๆ โดยไม่รู้ตัว
ขออนุญาตมาเล่าเรื่องที่อ่านเจอแล้วรู้สึกสะดุ้งเลยครับ เพราะเป็นสิ่งที่เราทำกันอยู่ทุกวันแบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะคนที่ชอบนอนเล่นมือถือก่อนนอน หรือเล่นมือถือในที่มืด
คือหมอหลายท่านออกมาเตือนว่า “การเล่นมือถือในที่มืด” เป็นพฤติกรรมที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วมันส่งผลต่อสมองมากกว่าที่คิด!
สรุปใจความสำคัญที่อ่านเจอ:
เวลาที่เราเล่นมือถือในที่มืด ดวงตาจะต้องปรับตัวอย่างหนัก เพราะแสงจากจอมือถือจะสว่างจ้ามากกว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวหลายเท่า
แสงสีฟ้า (Blue Light) จากหน้าจอจะรบกวนวงจรการหลั่ง “เมลาโทนิน” ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้หลับสบาย
พอเมลาโทนินถูกกด การนอนหลับจะผิดปกติ หลับไม่สนิท สมองไม่ได้พักเต็มที่ ทำให้ "สมองเสื่อม" ลงแบบช้าๆ โดยไม่รู้ตัว
ที่น่ากลัวคืออาการเริ่มจากเล็กๆ อย่างเช่น ความจำสั้น อารมณ์แปรปรวน สมาธิสั้น ก่อนที่จะลุกลามไปถึงภาวะสมองเสื่อมหรือแม้แต่โรคซึมเศร้าในระยะยาว
กลุ่มที่เสี่ยงสุดคือ “วัยรุ่นและวัยทำงาน” ที่ติดมือถือและมักเล่นในที่มืดหรือก่อนนอน
แชร์จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง:
ผมเองเคยเป็นคนนึงที่ต้องจับมือถือก่อนนอนทุกคืน กว่าจะวางก็เกือบตีหนึ่งตลอด ตื่นมาก็ง่วง สมองตื้อทั้งวัน แต่พอลองเปลี่ยนพฤติกรรม หยุดใช้มือถือก่อนนอน 30 นาที แล้วไปอ่านหนังสือแทน ปรากฏว่านอนหลับง่ายขึ้น ตื่นมาก็สดชื่นกว่าเดิมเยอะเลยครับ
ทางออกที่คุณหมอแนะนำมีดังนี้:
หลีกเลี่ยงการใช้มือถือในที่มืด
ถ้าจำเป็นต้องใช้ ให้เปิดไฟห้องให้สว่างพอประมาณ
ใช้โหมดถนอมสายตาหรือฟิลเตอร์แสงสีฟ้า
พยายามวางมือถือก่อนเข้านอนอย่างน้อย 30 นาที
ถ้าอยากผ่อนคลาย ลองฟังเพลงเบาๆ หรืออ่านหนังสือแทน
สรุปสั้นๆ: มือถือไม่ผิด แต่การใช้ไม่ถูกวิธีต่างหากที่ทำให้มันกลายเป็น "ระเบิดเวลาทำลายสมอง" แบบเงียบๆ ใครที่ชอบเล่นมือถือในที่มืดหรือก่อนนอน ลองปรับดูครับ สุขภาพสมองเรามีค่ามากกว่าความบันเทิงแค่ไม่กี่นาทีจริงๆ
แหล่งที่มา:
รายการ “คนสู้โรค” โดย ThaiPBS
บทความจากสมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
สัมภาษณ์คุณหมอศุภกร เกียรติจินดา (แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง)
#สุขภาพสมอง #เล่นมือถือก่อนนอน #แสงสีฟ้า #วัยรุ่นยุคใหม่ #หมอเตือน #หลับไม่สนิท #ระเบิดเวลาสมอง #งดมือถือก่อนนอน





















