หญิงสาวใช้เงินกว่า 3 ล้านบาทในการทำศัลยกรรม แต่ผลลัพธ์ที่ได้ถูกตั้งคำถามว่าเธอเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง

มันไม่คุ้ม! นางสาว Ren วัย 35 ปี ในปีนี้ เกิดในครอบครัวชนบทในเหอหนาน ประเทศจีน เธอออกจากโรงเรียนมัธยมต้นเพื่อไปทำงาน หลังจากดิ้นรนในปักกิ่งมานานกว่า 10 ปี เธอก็เปิดร้านชานมไข่มุกด้วยกำไรเดือนละประมาณ 50,000 หยวน (ประมาณ 230,850 บาท)ต่อเดือน แต่เธอเก็บเงินได้เพียง 100,000 หยวน (ประมาณ 461,741บาท) ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เธอใช้เงินไปในการทำศัลยกรรมตกแต่ง โดยเข้ารับการผ่าตัดถึง 30 ครั้ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ค่อยดีนัก

คุณเหรินเริ่มทำศัลยกรรมในปี 2014 และใช้เงินไปทั้งหมดมากกว่า 800,000 หยวน(ราว 3.69 ล้านบาท) แต่การทำศัลยกรรมไม่ได้ทำให้เธอสวยขึ้นเลย แต่เธอกลับต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการแพ้ผิวหนังและความรู้สึกเหมือนพลาสติกอย่างรุนแรง ผู้คนยังตั้งคำถามเกี่ยวกับเพศของเธอและถามว่าเธอเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เธอกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ฉันไม่รู้ว่าเขาถามคำถามแบบนี้เพื่อทำให้ฉันอับอายหรือเปล่า หรือว่าเขาไม่รู้จริงๆ?”

หลังจากการทำศัลยกรรมของคุณ Ren ล้มเหลว แฟนหนุ่มของเธอก็เลิกกับเธอ เนื่องจากเขาไม่ได้ทำงานในช่วงที่คบกัน เธอจึงเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพของเขา เธอยังให้เงินเขาไปซื้อรถจักรยานยนต์และลงทุนเปิดร้านด้วย ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในบ้านในเขตชานเมืองโดยมีค่าเช่าเดือนละ 800 หยวน (ประมาณ 3,695 บาท) แม้ว่าเธออยากจะทำศัลยกรรมต่อไป แต่เธอก็ต้องการเก็บเงินเพื่อซื้อบ้าน

ทันทีที่ข่าวนี้ถูกเปิดเผย ก็เกิดการโต้เถียงอย่างดุเดือด และชาวเน็ตก็ฝากข้อความเอาไว้เรื่อยๆ "ฉันคิดว่าการแสวงหาความสวยความงามไม่มีอะไรผิด แต่กรณีของเธอ เธอควรแก้ไขทัศนคติของตัวเองเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น" "เธอจำเป็นต้องทำศัลยกรรมไหม?" "ถ้าคุณติดกับดักของศัลยกรรม คุณก็จะเสียโฉมไปเลย" "โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งควรประกาศให้ทุกคนได้รับรู้"