มีคนแทรก! กัน จอมพลัง โพสต์เดือด ปมเยียวยาตา-ยายถูกมือที่ 3 ขวาง
ชนะทั้งแม่ทั้งลูก! “น้ำอ้อย-ลูกพีช” คว้าชัยเลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี ขอบคุณชาวบ้านแม้มีดราม่า – ปัดบ้านใหญ่ ย้ำเป็นบ้านที่อบอุ่น
การเมืองท้องถิ่นกลับมาร้อนระอุอีกครั้งในจังหวัดปทุมธานี หลังปิดหีบเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรีอย่างเป็นทางการ ล่าสุดผลคะแนนจากทุกหน่วยเลือกตั้งปรากฏว่า “นางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “น้ำอ้อย” ผู้สมัครหมายเลข 4 ได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 ขึ้นแท่น “ว่าที่นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี” ไปอย่างสวยงาม ขณะที่บุตรชาย “สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์” หรือ “ลูกพีช” ก็ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลในเขตเดียวกันอีกด้วย
ครองเทศบาลธัญบุรียกทีม - ประกาศชัยชนะ
ภายหลังจากที่ผลคะแนนออกมาอย่างไม่เป็นทางการ ทีมของ “น้ำอ้อย” ก็ได้ออกมาประกาศชัยชนะอย่างเป็นทางการ พร้อมโพสต์ข้อความขอบคุณประชาชนชาวตำบลธัญบุรีที่ยังคงให้ความไว้วางใจ เลือกเธอและลูกชายให้กลับมาทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองอีกครั้ง แม้ช่วงก่อนหน้าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงกระแสดราม่าต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ “ลูกพีช” ซึ่งก่อนหน้านี้มีประเด็นทางสังคมที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ทีมงานของน้ำอ้อยได้ใช้แคมเปญ “ครอบครัวอบอุ่น บ้านไม่ใหญ่แต่ใจถึง” เป็นหนึ่งในจุดขายหลัก พร้อมย้ำว่า “บ้านของตนนั้นไม่ใช่บ้านใหญ่ในทางการเมือง แต่เป็นบ้านที่อบอุ่น ที่พร้อมจะรับใช้ประชาชนด้วยใจจริง”
ชาวบ้านกินหญ้า...แต่เป็นหญ้าหวาน
หนึ่งในวาทกรรมที่เป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียลคือถ้อยคำที่ “น้ำอ้อย” กล่าวไว้ในเวทีปราศรัยว่า “ชาวธัญบุรีกินหญ้าก็จริง แต่เป็นหญ้าหวาน และจะกินหญ้าหวานนี้ตลอดไป” ซึ่งแม้จะดูเหมือนถ้อยคำประชดประชัน แต่กลับถูกตีความในทางบวกโดยกลุ่มผู้สนับสนุนว่าเป็นการยืนยันความภักดีของประชาชนที่ยังคงเลือกเธอแม้จะมีข่าวลือหรือการโจมตีทางการเมืองจากฝั่งตรงข้าม
ลูกพีช – ดราม่าร้อนแรงที่ตามมาทันทีหลังชนะ
หลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปไม่นาน ประเด็นดราม่าที่เกี่ยวข้องกับ “ลูกพืช” กลับถูกจุดไฟขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในกรณีที่สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต และกรณีที่มีบุคคลที่สามเข้ามาแทรกแซงการเยียวยาสองตายายคู่กรณีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง “กัน จอมพลัง ช่วยสู้” ซึ่งมักทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนในสังคม ได้โพสต์ข้อความอ้างถึงเหตุการณ์นี้ พร้อมกล่าวพาดพิงถึง “มือที่สาม” ที่ทำให้กระบวนการเยียวยาล่าช้า โดยระบุว่า
“มือที่ 3 แทรกแซงเลยเยียวยาไม่ได้ นี่มือที่ 3 มันเก่งขนาดทำให้คู่กรณีไม่มีปัญญาเยียวยาเลยหรอ หรือปัญหาที่ไม่ได้เพราะปากที่ 3 ที่พูดแทนรึเปล่า…”
นอกจากนี้ ยังมีคอมเมนต์ต่ออีกว่า
“มือที่ 3 มันทำให้คนที่ถูกย่องมาฟาดหัวจากด้านหลังเมื่อ 19 ปีที่แล้ว ได้เยียวยา 100,000 อะ คนจะช่วยมันช่วยเลย ไม่มีข้ออ้าง ไม่มีข้อแก้ตัว ไม่มีเงื่อนไขหรอกครับ ช่วยก็คือช่วย”
กระแสสังคมแตกเป็นสองฝั่ง
ประเด็นดังกล่าวทำให้โลกออนไลน์แตกออกเป็นสองฝั่ง ฝ่ายหนึ่งมองว่า หากเกิดการกระทำที่ผิดจริงในอดีต ควรแสดงความรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย และดำเนินการเยียวยาอย่างจริงใจ ขณะที่อีกฝั่งกลับมองว่าหากเรื่องราวเกิดขึ้นมานานแล้ว และไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่ต้น ก็ไม่ควรนำมาโจมตีในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งอาจเป็นเกมทางการเมืองมากกว่าความปรารถนาดี
แม้จะมีคำถามมากมาย แต่เสียงจากประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ชัดเจนว่า “น้ำอ้อยและลูกพีช” ยังได้รับความไว้วางใจจากคนในพื้นที่
น้ำอ้อยโต้ไม่ใช่บ้านใหญ่ - โวยคนกันลูกพืชไม่ให้เยียวยา
ในแถลงการณ์หลังชนะเลือกตั้ง “น้ำอ้อย” ได้กล่าวถึงดราม่าที่เกิดขึ้น โดยปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นบ้านใหญ่หรือกลุ่มการเมืองใดๆ แต่เป็นแค่ครอบครัวที่ตั้งใจทำงานเพื่อชาวบ้าน พร้อมระบุว่า “ลูกพีช” มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือและเยียวยาคู่กรี แต่กลับมี “มือที่สาม” หรือบุคคลบางคนเข้ามากีดกัน จนกระบวนการไม่สามารถเดินหน้าต่อได้
“บางคนอ้างเป็นตัวแทนคนเจ็บ แต่กลับพูดแทนในแบบที่ไม่ยอมให้เราเข้าถึงหรือช่วยเหลือ ชาวบ้านก็คงเห็นว่าเราตั้งใจแค่ไหน”
ความไว้วางใจจากประชาชนคือคำตอบ
แม้กระแสดราม่าจะยังไม่จางหาย แต่ผลการเลือกตั้งก็สะท้อนความเชื่อมั่นของประชาชนชาวธัญบุรีที่มีต่อ “น้ำอ้อย” และ “ลูกพีช” อย่างชัดเจน การครองเก้าอี้ทั้งตำแหน่งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลถือเป็นความสำเร็จที่น่าจับตามอง
คำถามคือ ทีมงานของบ้านนี้จะใช้ความไว้วางใจที่ได้รับไปในทิศทางใด จะสามารถนำพาตำบลธัญบุรีให้พัฒนาไปข้างหน้าได้จริงหรือไม่? และจะมีการคลี่คลายประเด็นดราม่าที่ติดตามมาหลังจากนี้อย่างไร?
อ้างอิงจาก: ภาพและข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก กันจอมพลังช่วยสู้






















