พูดคุย หรือ ไม่พูดคุย: ใครกระพริบตาก่อนในสงครามการค้า?
...ชวนคุยเรื่องร้อนระหว่างสองยักษ์เศรษฐกิจของโลก! 🇺🇸⚔️🇨🇳
"พูดคุย หรือ ไม่พูดคุย: ใครกระพริบตาก่อนในสงครามการค้า?"
🎯 ฉากเปิด: เกมจ้องตาแห่งภาษี
ในสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ กับ จีน มานานหลายปี
มันไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลขหรือภาษีเท่านั้น
แต่คือ เกมจิตวิทยา ที่ถามว่า:
"ใครจะยอมถอยก่อน ใครจะกระพริบตาก่อน?"
📍 ฝั่งสหรัฐฯ: บีบแรง หวังจีนเจรจา
-
เริ่มจากการขึ้นภาษีสินค้าจีนกว่า $300,000 ล้านดอลลาร์
-
ปิดกั้นบริษัทจีน เช่น Huawei และ TikTok
-
สนับสนุนการย้ายฐานผลิตออกจากจีน
-
หวังให้จีนยอมเปิดตลาด หยุดอุดหนุนภาคอุตสาหกรรมของรัฐ
🧠 กลยุทธ์: ใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจบีบให้จีน "นั่งโต๊ะ"
📍 ฝั่งจีน: โต้กลับแบบเย็นชา
-
ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ
-
กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเพื่อลดพึ่งพาตะวันตก
-
ดึงพันธมิตรใหม่ เช่น BRICS และขยายอิทธิพลในเอเชีย-แอฟริกา
-
สื่อจีนใช้คำว่า "จะไม่ยอมเจรจาในสภาพกดดัน"
🧠 กลยุทธ์: อดทน ฟันฝ่า หวังว่าสหรัฐฯ จะเหนื่อยก่อน
🕊️ แล้วมีใคร "กระพริบตา" ไหม?
✅ มีการพูดคุยกันหลายรอบ
แต่ไม่มีฝ่ายไหน "ยอมอย่างชัดเจน"
-
ทั้งคู่ต่างถอยนิดๆ แล้วเดินเกมใหม่
-
คล้ายการ เลี้ยงไก่ในสนามแข่ง ใครหักพวงมาลัยก่อนคือแพ้
-
บางช่วงจีนกระพริบตา เช่น ยอมซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐฯ
-
บางช่วงสหรัฐฯ ก็ผ่อนคลาย เช่น เลื่อนภาษีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
🧠 ...สรุป:
"สงครามการค้า" กลายเป็น การต่อสู้ทางยุทธศาสตร์ระยะยาว
ไม่มีใครกระพริบตาถาวร มีแต่ กะพริบเพื่อเดินหมากใหม่
และคำว่า “พูดคุย” หรือ “ไม่พูดคุย” ขึ้นกับว่าใครรู้สึกว่าได้เปรียบในเกมนั้น ณ เวลานั้น
อ้างอิงจาก: bbc cnn






















