นักศึกษาถูกช่วยชีวิตจากภูเขาสองครั้งในสี่วัน หลังย้อนกลับไปหามือถือที่หล่นหาย
เมื่อไม่นานมานี้ มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจและน่าติดตามเกี่ยวกับนักศึกษาหนุ่มชาวจีนวัย 27 ปี ที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยบนภูเขาฟูจิถึงสองครั้งภายในระยะเวลาเพียงสี่วัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาตัดสินใจย้อนกลับขึ้นไปบนภูเขาเพื่อหามือถือและของใช้ส่วนตัวที่ตกหล่นไว้ในครั้งแรก
ครั้งแรกเกิดขึ้น ขณะที่นักศึกษาคนดังกล่าวกำลังปีนภูเขาฟูจิในช่วงนอกฤดูปีนเขา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยและมีความเสี่ยงสูง เขาได้สูญเสียอุปกรณ์ช่วยปีนเขาที่เรียกว่าครัมปอง (crampons) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ติดกับรองเท้าเพื่อช่วยยึดเกาะบนพื้นน้ำแข็ง ทำให้เขาไม่สามารถเดินลงจากภูเขาได้อย่างปลอดภัย และต้องเรียกขอความช่วยเหลือ จนเจ้าหน้าที่ต้องส่งเฮลิคอปเตอร์ขึ้นมาช่วยเหลือและนำตัวเขาลงมาอย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับการช่วยเหลือและกลับมาพักฟื้นเพียงไม่กี่วัน เขากลับตัดสินใจปีนขึ้นภูเขาฟูจิอีกครั้ง เพื่อไปหามือถือและของใช้ส่วนตัวที่ตกหล่นไว้ในครั้งแรก แต่ครั้งนี้เขาเกิดอาการแพ้ความสูงจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และถูกพบโดยนักปีนเขาคนอื่นที่ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลืออีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้วิธีหามลงจากภูเขาและนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาอาการแพ้ความสูง ซึ่งตอนนี้เขาอยู่ในสภาพปลอดภัยและกำลังพักฟื้น
เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลและเป็นอุทาหรณ์ให้กับนักปีนเขาทุกคน เพราะภูเขาฟูจิจะเปิดให้ปีนเขาได้อย่างปลอดภัยในช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงต้นกันยายนเท่านั้น การปีนเขานอกฤดูนั้นมีความเสี่ยงสูงและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ นอกจากนี้ยังทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเสียเวลาและทรัพยากรในการช่วยเหลือ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการช่วยเหลือฉุกเฉินในกรณีอื่น ๆ ด้วย
เรื่องราวของนักศึกษาคนนี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่เตือนใจให้ทุกคนระมัดระวังและปฏิบัติตามข้อแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น




