ขวัญผวา! สาวเจอชายแปลกหน้าจ้องตาใต้เตียงในโรงแรมดัง เหมือนเจอผี

ประสบการณ์สุดช็อก! สาวจ่ายเงินหมื่นนอนโรงแรมดัง พบชายแปลกหน้าอยู่ใต้เตียง

เรื่องราวสุดสะเทือนใจของ นาตาลี นักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติคนหนึ่งได้กลายเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับนักเดินทางทั่วโลก โดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัยในที่พัก เมื่อเธอได้แชร์ประสบการณ์สุดช็อกที่เกิดขึ้นในโรงแรมดังแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวผ่านอินสตาแกรมของเธอ natalisi_taksisi ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับผู้ที่ได้ฟังและตามอ่านรายละเอียดของเหตุการณ์

เหตุการณ์สุดช็อกที่เกิดขึ้นในโรงแรมดังเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่สองที่นาตาลีเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ โดยหลังจากที่เธอเช็คอินและใช้เวลาช่วงกลางวันท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน เมื่อกลับมาถึงห้องพักในตอนเย็น เธอตัดสินใจนอนพักผ่อนตามปกติ แต่ในระหว่างที่เธอนอนอยู่บนเตียง ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกตกใจและหวาดกลัวอย่างมาก

ขณะที่นาตาลีเอนหลังนอนหลับอย่างสบายบนเตียงในห้องพักของโรงแรม เธอเริ่มได้กลิ่นแปลกๆ ซึ่งโชยมาเป็นระยะจากใต้เตียงของห้องที่เธอกำลังนอนอยู่ ในตอนแรกเธอคิดว่าอาจจะเป็นกลิ่นจากการทำความสะอาดหรือกลิ่นจากภายนอกห้อง แต่กลิ่นนั้นยังคงมีอยู่และเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นจนทำให้เธอต้องลุกขึ้นจากเตียงและก้มลงไปดูใต้เตียง

เมื่อเธอก้มลงไปดูที่ใต้เตียง ก็พบกับภาพที่ทำให้เธอแทบหยุดหายใจ เมื่อเธอเห็น ชายแปลกหน้า คนหนึ่งกำลังจ้องมองเธอจากใต้เตียงอย่างไม่คาดคิด ชายคนนั้นยังคงจ้องตาเธอโดยไม่ขยับเขยื้อน ทำให้เธอรู้สึกถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้

นาตาลีไม่รอช้า เธอรีบกรีดร้องออกมาดังๆ และรีบหนีออกจากห้องทันที โดยทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง เมื่อเธอออกจากห้องแล้ว ก็รีบแจ้งให้ พนักงานโรงแรม ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงและทำการตรวจสอบ ก็พบว่าใต้เตียงมีอุปกรณ์ต่างๆ ซ่อนอยู่ เช่น พาวเวอร์แบงก์ และ สายชาร์จ ที่ถูกซ่อนไว้ในที่ซึ่งไม่ได้ถูกใช้งานตามปกติ

แต่ปัญหาคือว่า โรงแรมดังกล่าวกลับ ไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ในห้องพักที่เธอเข้าพัก ทำให้ยากที่จะตามหาตัวชายแปลกหน้าคนนั้น และไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเขาเข้าไปในห้องของนาตาลีได้อย่างไร

การจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพจากโรงแรม

หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น นาตาลี ตัดสินใจย้ายไปเข้าพักที่โรงแรมอื่นทันที เพื่อหลีกหนีจากความหวาดกลัวที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังยิ่งกว่าคือการตอบสนองของโรงแรมต้นเรื่อง ซึ่งไม่ได้ติดต่อกลับหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบหรือตามหาผู้ก่อเหตุใดๆ นอกจากนั้น โรงแรมยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม

นาตาลี พยายามร้องเรียนไปยัง เว็บไซต์จองโรงแรม ซึ่งเป็นตัวกลางในการจองที่พัก แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาเพียงแค่การคืนเงิน 178 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5,800 บาท) จากค่าห้องพักทั้งหมด 600 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20,000 บาท) ซึ่งถือเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่เธอได้ประสบ และยังไม่สามารถชดเชยความเสียหายทางจิตใจได้เลย

นาตาลีจึงตัดสินใจเรียกร้องให้โรงแรมชดเชย ค่าชดเชยทางจิตใจ ในจำนวน 1,600 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 52,000 บาท) ซึ่งเป็นจำนวนที่สมเหตุสมผลสำหรับประสบการณ์ที่เธอได้เผชิญ แต่กลับถูกปฏิเสธโดยทางโรงแรม โดยอ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เข้าข่ายตามเงื่อนไขในการให้ค่าชดเชย

ข้อสังเกตและคำถามที่ค้างคา

สิ่งที่ นาตาลี ยังคงตั้งคำถามต่อไปก็คือ ชายแปลกหน้า ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงรู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังพักอยู่ในห้องนั้น และเขาเข้ามาในห้องของเธอได้อย่างไร? เรื่องนี้ทำให้เธอเริ่มตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยในโรงแรมและระบบการจัดการภายในที่พัก

นาตาลีได้วิพากษ์วิจารณ์การจัดการของโรงแรมอย่างรุนแรง โดยชี้ให้เห็นว่า โรงแรม ล้มเหลวในการดูแลความปลอดภัยของผู้เข้าพักและไม่มีการติดตามผู้ต้องสงสัยอย่างจริงจัง แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์นี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ก็ถือเป็นการเตือนให้ทุกคนระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการเลือกที่พัก

เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนที่สำคัญเกี่ยวกับ ความปลอดภัยในที่พัก โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปคนเดียว หรือในกรณีที่พักในโรงแรมที่ไม่สามารถตรวจสอบความปลอดภัยได้อย่างครบถ้วน การเลือกที่พักและการตรวจสอบการจัดการภายในโรงแรมเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรมองข้าม

จากเหตุการณ์นี้ นาตาลี ได้เตือนนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่า ควรระมัดระวังและทำการตรวจสอบห้องพักให้ดี ก่อนที่คุณจะเริ่มนอนพัก และที่สำคัญไม่ควรเชื่อถือว่าโรงแรมทุกแห่งจะมีมาตรการความปลอดภัยที่เพียงพอเสมอไป

สรุป

ประสบการณ์สุดช็อก ของนาตาลีเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับใคร แต่กลับแสดงให้เห็นถึงปัญหาใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นได้กับนักท่องเที่ยวทุกคน แม้จะจ่ายเงินไปหลายหมื่น แต่ก็ไม่ได้รับความปลอดภัยตามที่ควรจะเป็น นอกจากการขาดมาตรการความปลอดภัยแล้ว ยังรวมไปถึงการจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพจากโรงแรมที่ทำให้เธอรู้สึกเสียความเชื่อมั่นและไม่ได้รับการชดเชยที่เหมาะสม

หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปคนเดียว หรือไม่คุ้นเคยกับที่พักที่จองไว้ การระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมตรวจสอบทุกมุมของห้องพัก และอย่าละเลยเรื่องการดูแลความปลอดภัยในการเข้าพัก