กราบแน่นๆ! น้องเชื่อมจิตกลับมาแล้ว ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2568 (2025) เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ เมื่อเฟซบุ๊กเพจ "อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ" ได้โพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับกลุ่มที่เรียกว่า "เชื่อมจิต" โดยระบุว่าเป็นการกลับมาของ "องค์เทวา" ในตอน "หนูเป็นสาวแล้ว" ซึ่งเป็นภาพที่มีการกราบไหว้เด็กที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเชื่อมจิต
นอกจากนี้ ทางเพจยังตั้งคำถามว่าการกระทำดังกล่าวอาจละเมิดคำสั่งศาลหรือไม่ โดยย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2567 (2024) ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กชายอายุ 8 ขวบ (นามสมมติ: น้องไนซ์) โดยห้ามไม่ให้ผู้ปกครองและบุคคลที่เกี่ยวข้องดำเนินกิจกรรมดังต่อไปนี้:
1. ห้ามทำกิจกรรมไลฟ์สดที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมจิต
2. ห้ามเผยแพร่คำสอนทางพุทธศาสนาที่บิดเบือนหรือผิดเพี้ยนจากหลักทางพระพุทธศาสนา และไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก
3. ห้ามใช้สื่อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กในการดำเนินกิจกรรมเชื่อมจิต ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว หรือสื่ออื่น ๆ ที่ยืนยันถึงตัวเด็ก
4. ห้ามจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมจิต
5. ออกคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามที่ศาลเห็นสมควร
คำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ทราบคำสั่ง
อย่างไรก็ตาม จากโพสต์ล่าสุดของเพจ "อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ" พบว่ามีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมจิตเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นการละเมิดคำสั่งศาลดังกล่าว ทั้งนี้ คำสั่งศาลมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กและป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและการพัฒนาของเด็ก
นอกจากนี้ ศาลยังได้สั่งให้ผู้ปกครองนำเด็กเข้าพบและรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์ประจำสถาบันสุขภาพจิตภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ทราบคำสั่ง โดยให้แพทย์ตรวจรักษาและให้คำปรึกษา 2 ครั้ง ภายในระยะเวลา 6 เดือน และให้ผู้ตรวจรักษาทำรายงานต่อศาล
การที่มีการจัดกิจกรรมเชื่อมจิตอีกครั้งหลังจากมีคำสั่งศาลห้าม อาจนำไปสู่การพิจารณาว่ามีการละเมิดคำสั่งศาลหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีการละเมิด อาจส่งผลกระทบต่อผู้ปกครองและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเด็กในด้านกฎหมาย
ทั้งนี้ การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเป็นเรื่องที่สังคมควรให้ความสำคัญ และการปฏิบัติตามคำสั่งศาลเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก การกระทำใด ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตหรือการพัฒนาของเด็ก ควรได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ในกรณีนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตรวจสอบและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าสิทธิและสวัสดิภาพของเด็กได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ และหากพบว่ามีการละเมิดคำสั่งศาล ควรดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเด็กในอนาคต
สังคมควรตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองเด็กและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เด็กได้รับการพัฒนาในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสม
อ้างอิงจาก: ภาพจากเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว


