สมุทรปราการจมฝุ่น PM 2.5 ทำน้องแมวจามเป็นเลือด
จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงนี้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของการจราจรและกิจกรรมทางอุตสาหกรรม ล่าสุดพบว่าผู้คนจำนวนมากแห่แชร์ภาพและข้อมูลเกี่ยวกับฝุ่นที่หนาแน่นจนบดบังทัศนวิสัยในพื้นที่ต่าง ๆ ลงบนโซเชียลมีเดีย โดยแสดงความกังวลถึงสุขภาพของตนเองและครอบครัว
วันที่ 25 มกราคม 2568 เฟซบุ๊กเพจชื่อดัง “Drama-addict” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความจากผู้ติดตามเพจรายหนึ่ง ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยระบุว่า ฝุ่นที่มีความรุนแรงส่งผลต่อสัตว์เลี้ยงในบ้าน โดยเฉพาะ “น้องแมว” ที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจอยู่แล้ว เจ้าของรายนี้เล่าว่า น้องแมวมีอาการจามจนถึงขั้นมีเลือดออก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สัตว์เลี้ยงได้รับฝุ่นเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และแสดงความหวังว่าอากาศจะดีขึ้นในเร็ววัน พร้อมให้กำลังใจแก่ครอบครัวที่ต้องเผชิญปัญหานี้
ฝุ่น PM 2.5 กระทบสุขภาพสัตว์เลี้ยง
ในโพสต์ดังกล่าว เพจ Drama-addict ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ฝุ่น PM 2.5 ไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะกับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ที่มีใบหน้าสั้น เช่น ปั๊ก บูลด็อก หรือแมวสายพันธุ์เปอร์เซีย ซึ่งลักษณะทางกายภาพของพวกมันทำให้มีโอกาสได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางอากาศมากกว่าสายพันธุ์อื่น
แนะนำว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้อยู่ในพื้นที่ปิดที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หรือมีเครื่องฟอกอากาศติดตั้งอยู่ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสฝุ่น หากสัตว์เลี้ยงมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ จาม น้ำมูกไหล หรือหายใจลำบาก ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
ฝุ่น PM 2.5 กับผลกระทบทางสุขภาพของมนุษย์
ทางด้านกรมควบคุมมลพิษได้รายงานว่า ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วงนี้อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ การสัมผัสฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาวอาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหอบหืด และโรคมะเร็งปอด
วิธีป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5
สำหรับประชาชนทั่วไป ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 ดังนี้:
1. สวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 หรือหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้
2. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่ที่มีฝุ่นหนาแน่น
3. ใช้เครื่องฟอกอากาศภายในบ้านหรือสถานที่ทำงาน
4. ติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ
การแก้ปัญหาระยะยาว
ในระยะยาว การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เช่น การลดการใช้ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษสูง ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการกำกับดูแลกิจกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษอย่างเข้มงวด
สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ตั้งแต่วันนี้








