แฟนข่าวช็อก! ผู้ประกาศสาวสารภาพยุ่งสิ่งเสพติด โดนจับกลางดึก

คิม นาจอง ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง เผชิญข้อหาเกี่ยวข้องกับกัญชาสังเคราะห์ หลังสารภาพผ่านโซเชียลมีเดียระหว่างอยู่ในฟิลิปปินส์

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 สื่อต่างประเทศรายงานข่าวที่กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในเกาหลีใต้เกี่ยวกับ คิม นาจอง ผู้ประกาศข่าวชื่อดังที่เป็นที่รู้จักในวงการบันเทิง เธอถูกตั้งข้อหาเกี่ยวข้องกับการใช้ กัญชาสังเคราะห์ (Synthetic Cannabis) ซึ่งถือเป็นสารเสพติดผิดกฎหมายตามกฎหมายเกาหลีใต้ เหตุการณ์นี้ได้สร้างความตกตะลึงในสังคมและทำให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวาง

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 คิม นาจอง ได้โพสต์ข้อความผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียส่วนตัว ขณะเดินทางไปยังกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ข้อความดังกล่าวระบุว่า

"ฉันสารภาพว่าใช้ยาเสพติดในฟิลิปปินส์"

"ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะตายจากการเสพยา และฉันไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้"

คำสารภาพที่ตรงไปตรงมาและคาดไม่ถึงนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เนื่องจากคิม นาจอง เคยมีภาพลักษณ์เป็นบุคคลตัวอย่างในสังคม การโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมากทั้งจากแฟนคลับและสื่อมวลชน

ในวันเดียวกัน คิม นาจอง ได้เดินทางกลับเกาหลีใต้โดยขึ้นเครื่องบินจากกรุงมะนิลาไปยังสนามบินนานาชาติอินชอน เมื่อเดินทางถึงเกาหลีใต้ เธอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กรมตำรวจสนามบินอินชอน เข้าสอบสวนทันที เนื่องจากข้อความในโซเชียลมีเดียของเธอแสดงถึงการยอมรับว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับสารเสพติดในต่างประเทศ

ตำรวจได้เก็บตัวอย่างเลือดและปัสสาวะของเธอเพื่อตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย และผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าเธอมี กัญชาสังเคราะห์ ในระบบร่างกายจริง ซึ่งทำให้คดีนี้ถูกโอนไปยัง สำนักงานตำรวจภาคเหนือคยองกี เพื่อดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม

ในระหว่างการสอบสวน คิม นาจอง ให้การว่าเธอถูกนักธุรกิจชาวฟิลิปปินส์บังคับให้ใช้สารเสพติดขณะที่เธออยู่ในกรุงมะนิลา เธออ้างว่าการเสพสารเสพติดครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความสมัครใจ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้ยังคงสืบสวนเพิ่มเติมเพื่อยืนยันข้อเท็จจริง โดยประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในฟิลิปปินส์ผ่าน แผนกกิจการระหว่างประเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

คดีของคิม นาจอง ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่จุดกระแสถกเถียงในหมู่ชาวเกาหลีใต้ ทั้งในด้านกฎหมายและจริยธรรม โดยในสังคมออนไลน์มีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป บางส่วนเรียกร้องให้มีการลงโทษเธออย่างเด็ดขาดเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับสังคม ในขณะที่บางส่วนมองว่าเธอควรได้รับการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เนื่องจากมีการกล่าวถึงการถูกบังคับให้ใช้สารเสพติดโดยบุคคลอื่น

นอกจากนี้ กรณีดังกล่าวยังได้สร้างคำถามเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ ซึ่งเคยมีคดีที่ศิลปินและบุคคลที่มีชื่อเสียงถูกตรวจพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของวงการนี้

ตามกฎหมายของเกาหลีใต้ การครอบครอง การใช้ หรือการซื้อขายยาเสพติดทุกชนิดถือเป็นความผิดร้ายแรง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในประเทศหรือต่างประเทศ พลเมืองเกาหลีใต้ที่ถูกจับหรือพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในต่างประเทศจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเกาหลีเสมือนเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในประเทศ

สำหรับกรณีของคิม นาจอง แม้ว่าเธอจะให้ความร่วมมือกับการสอบสวน แต่ด้วยผลการตรวจที่ยืนยันว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ทำให้เธอถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการในทันที อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการควบคุมตัวเธอในขณะนี้

จนถึงปัจจุบัน คิม นาจอง ยังคงถูกสอบสวนในข้อหาละเมิดกฎหมายว่าด้วยการจัดการยาเสพติด ขณะที่สำนักงานตำรวจภาคเหนือคยองกี ได้เร่งดำเนินการสอบสวนในเชิงลึกและประสานงานกับหน่วยงานในฟิลิปปินส์เพื่อสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักธุรกิจที่เธอระบุว่าเป็นผู้บังคับให้เธอใช้สารเสพติด

คดีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีที่สะท้อนถึงความท้าทายในการจัดการปัญหายาเสพติดในวงการบันเทิงและสังคมเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในยุคที่โซเชียลมีเดียสามารถเผยแพร่ข้อมูลและกระตุ้นกระแสความสนใจได้อย่างรวดเร็ว