E.l.f. Beauty ยืนหยัดในความหลากหลาย แม้กระแสต่อต้าน DEI จะเพิ่มสูงขึ้น

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายบริษัทใหญ่ในอเมริกาทั้ง Amazon, Meta, Walmart, และ McDonald’s ได้ปรับลดหรือยุติแผนงานเกี่ยวกับการส่งเสริม ความหลากหลาย (Diversity) ความเท่าเทียม (Equity)** และการมีส่วนร่วม (Inclusion)** หรือที่เรียกกันว่า DEI หลังจากที่กระแสต่อต้าน DEI ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่มีทัศนคติอนุรักษ์นิยม โดยมีการเคลื่อนไหวจากกลุ่มต่าง ๆ ที่มองว่า DEI เป็นอันตรายหรือเป็นการสร้างความไม่เท่าเทียมใหม่ให้กับสังคม

   อย่างไรก็ตาม E.l.f. Beauty กลับเป็นหนึ่งในบริษัทที่ยังคงยืนหยัดและประกาศชัดเจนในการสนับสนุน DEI ทั้งในแง่ของนโยบายการจ้างงาน การโปรโมทภาพลักษณ์ของแบรนด์ และการตลาดที่ยึดหลักความหลากหลายและการรวมกลุ่มในสังคม โดยมีตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในแคมเปญ "So Many Dicks" ซึ่งถือเป็นการใช้อารมณ์ขันและการเล่นคำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งสารเกี่ยวกับความไม่สมดุลในคณะกรรมการของบริษัทต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา

   แคมเปญนี้ใช้การแสดงภาพการมีจำนวนผู้ชายที่ชื่อ Richard, Rick หรือ Dick ในตำแหน่งกรรมการบริษัทมหาชนในอเมริกา ซึ่งมีจำนวนเกือบเท่ากับจำนวนผู้หญิงทั้งหมดในตำแหน่งเดียวกัน โดยข้อความที่ต้องการส่งออกไปคือการเรียกร้องให้โอกาสสำหรับคนกลุ่มอื่น ๆ ที่ยังไม่เคยได้รับการยอมรับในระดับที่เท่าเทียม โดยเฉพาะผู้หญิงและคนผิวสี

   E.l.f. Beauty ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า DEI ไม่ได้เป็นแค่คำพูดหรือแผนงานที่ถูกนำเสนอในที่ประชุมเท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์ที่ส่งผลต่อความสำเร็จทางธุรกิจอย่างแท้จริง ตัวเลขที่สะท้อนความสำเร็จของบริษัท ได้แก่ การมี คณะกรรมการที่ประกอบด้วยผู้หญิงมากถึง 78% และ คนผิวสีถึง 44% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ในตลาด

   ในขณะที่หลายบริษัทหันหลังให้กับ DEI เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้นจากการสนับสนุนแนวคิดนี้ เช่น กรณีของ Bud Light ที่สูญเสียรายได้ไปกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ จากการร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ข้ามเพศ E.l.f. Beauty กลับยืนหยัดและแสดงจุดยืนของตัวเองอย่างมั่นคง เพราะเชื่อมั่นว่า DEI ไม่เพียงแต่ช่วยให้บริษัทเติบโตได้ แต่ยังสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงที่สร้างความเท่าเทียมในสังคม

   E.l.f. Beauty ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในแง่ของการเติบโตทางธุรกิจ โดยบริษัทรายงาน การเติบโตของยอดขายติดต่อกันถึง 23 ไตรมาสตลอดระยะเวลา 5 ปี พร้อมกับ ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นกว่า 700% ซึ่งการเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมในกลุ่มลูกค้าผู้สนับสนุน DEI ที่มีความหลากหลายและมุ่งมั่นในการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในสังคม

   Tarang Amin, CEO ของ E.l.f. Beauty ได้กล่าวอย่างมั่นใจว่า การมี พนักงานที่หลากหลาย คือกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ในองค์กร เพราะพนักงานที่มาจากหลากหลายภูมิหลังจะสามารถเสนอความคิดเห็นและมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับความท้าทายในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ดียิ่งขึ้น

   Amin ยังกล่าวถึงการที่หลายบริษัทกลับลำหรือยุติการสนับสนุน DEI ว่าเป็นการ "ยอมแพ้ต่อความกดดันจากฝ่ายที่ต่อต้าน" และย้ำว่า E.l.f. Beauty ยังคงยึดมั่นในจุดยืน เพราะการยอมรับและสนับสนุน DEI ไม่เพียงแต่เป็นการกระทำที่ถูกต้อง แต่ยังเป็นแนวทางที่สำคัญในการดึงดูด "คนที่มีความสามารถและมุมมองที่หลากหลาย" ที่อาจจะไม่ได้รับการมองข้ามจากบริษัทที่ไม่ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย

   แม้ว่าบริษัทหลายแห่งจะเลือกปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อกระแสต่อต้าน DEI จากกลุ่มอนุรักษ์นิยม E.l.f. Beauty ก็ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคง ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากผู้ที่มองว่าการส่งเสริม DEI เป็นการสร้าง "ความไม่เท่าเทียมใหม่" หรือที่หลายคนวิจารณ์ว่าเป็นการสร้าง "การเลือกปฏิบัติในรูปแบบใหม่" แต่ E.l.f. Beauty ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มลูกค้าหลักของแบรนด์อย่าง Millennial และ Gen Z ซึ่งมีทัศนคติที่เปิดกว้างและให้ความสำคัญกับการสร้างความเท่าเทียมและการมีส่วนร่วมจากทุกกลุ่มในสังคม นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าของ E.l.f. Beauty ยังได้แสดงออกอย่างชัดเจนในโซเชียลมีเดีย โดยมีความคิดเห็นเชิงบวกจำนวนมากที่ชื่นชมในแคมเปญ "So Many Dicks" รวมถึงการที่บริษัทนี้แสดงออกถึงความภาคภูมิใจในการสนับสนุนความหลากหลายทั้งในด้านเพศและเชื้อชาติ

   DEI กับกระแสต่อต้านในอเมริกา ในช่วงที่ DEI กลายเป็นคำที่ถูกวิจารณ์ในแวดวงอนุรักษ์นิยม หลายบริษัทได้ล้มเลิกโครงการเหล่านี้เพราะกลัวกระแสต่อต้าน เช่นเดียวกับที่ Bud Light เคยประสบปัญหาเมื่อต้องเจอกับการต่อต้านจากความร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ข้ามเพศ รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้พักงานเจ้าหน้าที่ในแผนก DEI ของรัฐบาลกลาง และมีแผนโจมตีโครงการเหล่านี้เพิ่มเติม แต่ e.l.f. ซึ่งมีฐานอยู่ในโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ยังคงสนับสนุน DEI เนื่องจากพนักงานและลูกค้าที่มีความหลากหลายให้การสนับสนุน

   แคมเปญ "So Many Dicks" ได้รับคำชื่นชมจากโซเชียลมีเดีย เช่น “ฉันไม่เคยรัก e.l.f. มากขนาดนี้มาก่อนเลย!” และ “ภูมิใจในแบรนด์นี้มาก” แม้ว่าจะมีเสียงวิจารณ์จากบางส่วนที่มองว่าบริษัทไม่ควรผสมผสานเรื่องการเมืองเข้ากับสินค้าเครื่องสำอาง แต่ e.l.f. ก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากแนวทางนี้ บริษัทมีการเติบโตของยอดขายติดต่อกันถึง 23 ไตรมาส และหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 700% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา e.l.f. ไม่มีทีม DEI โดยเฉพาะ แต่ความมุ่งมั่นในการจ้างงานที่ครอบคลุมความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ เพศวิถี และชาติพันธุ์ ช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จของบริษัท พนักงานประมาณ 75% เป็นผู้หญิง และ 40% เป็นคนผิวสี นอกจากนี้ บริษัทยังใช้โมเดลโฆษณาที่รวมถึงคนข้ามเพศและนอนไบนารี

“การมีเสียงที่หลากหลายช่วยให้เราได้รับมุมมองใหม่ ๆ” Amin กล่าว และเตือนว่าบริษัทที่ละทิ้ง DEI อาจพลาดโอกาสในการดึงดูดคนเก่งที่มีมุมมองต่างกัน

   ฐานลูกค้าหลักของ e.l.f. เป็นคนรุ่น Millennial และ Gen Z ซึ่งสนับสนุน DEI การวิจัยจาก Pew Research Center ในปี 2023 ชี้ว่า ผู้หญิงและคนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 30 ปี สนับสนุน DEI มากที่สุด

“คนที่ไม่เห็นด้วยกับมุมมองของ e.l.f. ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท” Anna Glassgen นักวิเคราะห์กล่าว

Amin เชื่อว่า CEO ส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการมีแรงงานที่หลากหลาย แม้ว่ากระแสต่อต้าน DEI จะเพิ่มขึ้น

“ผมคิดว่ากระแสต่อต้าน DEI นั้นถูกพูดเกินจริงไป คนส่วนใหญ่ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างแรงงานที่ครอบคลุมความหลากหลายมากกว่าที่จะต่อต้าน”