ออสเตรเลียเผชิญกับการโจมตีต่อต้านชาวยิวที่เพิ่มขึ้น ตำรวจกำลังสืบสวนใครอยู่เบื้องหลัง?

   จูดิธ ลูอิส เจ้าของร้านอาหารในซิดนีย์ ไม่สามารถช่วย "เมซูซาห์" ซึ่งเป็นกรอบคำภาวนาภาษาฮิบรูที่แขวนอยู่ในคาเฟ่ของครอบครัวเธอได้ หลังจากที่ผู้ลอบวางเพลิงเผามันในเช้ามืดของวันอาทิตย์ปลายเดือนตุลาคม

   สัญลักษณ์แห่งศรัทธาของชาวยิวถูกทำลายเสียหายในเพลิงไหม้ที่ทำลายร้าน Lewis’ Continental Kitchen ซึ่งเสิร์ฟอาหารโคเชอร์ให้ชาวซิดนีย์มานานกว่า 50 ปี ห่างจากชายหาดบอนไดเพียง 20 นาทีโดยการเดินเท้า

   ลูอิสได้ซื้อเมซูซาห์ใหม่ แต่เธอไม่สามารถพาตัวเองไปแขวนไว้ที่สถานที่ใหม่ของคาเฟ่ในย่านดาร์ลิ่งเฮิร์สต์ได้ เธอไม่แน่ใจว่าทำไม “มันยังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของฉัน ฉันรู้สึกลังเลที่จะเอามันขึ้นไปแขวน... ฉันยังมีบางอย่างที่ทำให้ฉันยังไม่กล้าทำตอนนี้” เธอกล่าว

   หลายคนในชุมชนชาวยิวออสเตรเลีย ซึ่งมีประมาณ 117,000 คน กำลังรู้สึกกังวลหลังเกิดการโจมตีต่อต้านชาวยิวในสองเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้แก่ ซิดนีย์และเมลเบิร์น รวมถึงการวางเพลิงในโบสถ์ยิว และสัญลักษณ์นาซีถูกวาดบนอาคารและรถยนต์

   ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม เมื่อมีการจัดตั้งปฏิบัติการพิเศษชื่อ Avalite เพื่อจัดการกับปัญหาการต่อต้านชาวยิวที่เพิ่มขึ้น ตำรวจได้รับรายงานกว่า 166 ครั้งเกี่ยวกับการโจมตีต่อต้านชาวยิว ซึ่งในจำนวนนี้มี 15 กรณีที่ถือว่าเป็น "ข้อกล่าวหาร้ายแรง" ที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน

   เรซ เคอร์ชอว์ ผู้บัญชาการตำรวจกลางออสเตรเลียกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารว่า เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนไม่เพียงผู้ต้องสงสัยที่ลงมือกระทำความผิดเท่านั้น แต่ยังรวมถึง “กลุ่มจากต่างประเทศ” ที่อาจเป็นผู้ว่าจ้างด้วย

   นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซี กล่าวกับนักข่าวเมื่อวันพุธว่า “เรายังไม่ทราบว่าใครหรือจากที่ไหนที่เป็นแหล่งของเงินทุน”

   นายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบสวนของตำรวจ แต่กล่าวว่ากลุ่มพันธมิตรด้านความมั่นคง Five Eyes (ซึ่งประกอบด้วยออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และนิวซีแลนด์) กำลังมีบทบาทในเรื่องนี้

   “นี่ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน” เขากล่าว “สิ่งเหล่านี้เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงได้จับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคน และบางคนก็ถูกตั้งข้อหาและอยู่ในเรือนจำโดยไม่ได้รับการประกันตัวในขณะนี้”

   ตำรวจในรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการชื่อ Strike Force Pearl ขึ้นในเดือนธันวาคม เพื่อสอบสวนอาชญากรรมความเกลียดชังในชุมชนชาวยิวในเขตตะวันออกของซิดนีย์

   คาเรน เว็บบ์ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวกับสถานีวิทยุ ABC Radio เมื่อวันพฤหัสบดีว่า ผู้ต้องสงสัยบางคนในจำนวน 10 คนที่ถูกจับกุม “เป็นคนในพื้นที่ของซิดนีย์” และมีแนวโน้มว่าบางคนได้รับค่าจ้าง

“เรายังไม่ทราบว่าใครคือผู้บงการ” เว็บบ์กล่าว “เราไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ว่าเป็นกลุ่มในประเทศหรือต่างประเทศ”

   ในเอกสารของศาลที่รายงานโดยสื่อท้องถิ่น พบข้อความที่แลกเปลี่ยนกันระหว่างชายสองคนที่ยอมรับความผิดในเหตุวางเพลิงแห่งหนึ่งในซิดนีย์ โดยกล่าวถึงบุคคลที่สามที่ใช้นามแฝงว่า “jamesbond” บนแอปพลิเคชันเข้ารหัส Signal

“...มันไม่ได้ไหม้ถึง 2% ด้วยซ้ำ” ข้อความหนึ่งจาก “jamesbond” กล่าว

    ขณะที่ชายคนหนึ่งตอบว่า “ฉันเริ่มคิดแล้วว่าเขาส่งเราไปผิดที่ LOL”

   ชายคนหนึ่งบอกตำรวจว่าเขาถูกบังคับให้ทำ เนื่องจากเป็นหนี้เงินค่ายาเสพติดและได้รับการขู่ฆ่า

   จูดิธ ลูอิส เจ้าของร้านอาหารที่ถูกเผา กล่าวว่า เธอเชื่อว่ามีคนจากภายนอกควบคุมการโจมตีเหล่านี้ “ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งการพวกนี้ แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่คนที่ลงมือกระทำเอง”

   ตำรวจได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ของชาวยิว เช่น โบสถ์ โรงเรียน และธุรกิจต่างๆ อย่างไรก็ตาม กลุ่มชาวยิวบางกลุ่มวิจารณ์ว่ารัฐบาลตอบสนองต่อเหตุการณ์เหล่านี้ช้าเกินไป

   แม็กซ์ ไคเซอร์ เจ้าหน้าที่บริหารของ Jewish Council Australia กล่าวว่า “การจับกุมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติได้ เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาและการสร้างความเข้าใจร่วมกันในชุมชนต่าง ๆ”

   ในขณะที่ลูอิสต้องการให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษหนัก เธอก็รู้สึกอบอุ่นใจกับการสนับสนุนจากผู้คนรอบข้างที่เข้ามาช่วยให้ร้านของเธอกลับมาเปิดได้อีกครั้ง

“สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจมากที่สุดก็คือ ผู้คนเข้ามาหาเราและพูดว่า ‘บอกพวกเรามาว่าต้องการให้ช่วยอะไร"